เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกได้เพียงสายตาของอีกฝ่ายเสมือนคงอยู่ทุกที่ กำลังจับจ้องเขาอย่างไร้เสียง
เขาหันไปมองเฟิงอวิ๋นเซิง ทั้งสองเข้าใจกันโดยไม่ต้องกล่าวมากความ นางเอ่ยขึ้น “ก่อนหน้านี้ไม่ได้ยิน แต่ตอนนี้ได้เห็นแล้ว”
“พวกเราเข้ามาในตราผนึกชั้นแรกแล้ว ตราผนึกนี้ไม่ได้ขัดขวางไม่ให้พวกเรากับอีกฝ่ายมองเห็นกัน” เยี่ยนจ้าวเกอว่า
เสียงคำรามนั้นหายไป ไม่ใช่อีกฝ่ายไม่ส่งเสียงอีก
ผู้ที่ส่งเสียงไม่ใช่ตัวตนที่ถูกสะกดไว้ที่นี่ แต่เป็นสำนึกเคียดแค้นไม่ยินยอมสายหนึ่ง สลักในมิติเวลาจนกลายเป็นจับต้องได้
ถ้าหากว่าเจ้าของไม่เข้าใจ เช่นนั้นก็จะอยู่ที่นี่ตลอดไป
คนที่ถูกสะกดไว้ที่นี่สัมผัสได้ถึงการมาของเยี่ยนจ้าวเกอและเฟิงอวิ๋นเซิง ความสนใจเปลี่ยนมาอยู่ที่พวกเขา เสียงนั้นจึงค่อยเงียบลงโดยอัตโนมัติ
สายตาอันไร้รูปร่างทั้งเหี้ยมโหดทั้งบ้าคลั่ง ทำให้คนจิตใจเย็นเยียบ
เยี่ยนจ้าวเกอกับเฟิงอวิ๋นเซิงสงบจิตใจ มุ่งหน้าเข้าไปในส่วนลึกของภูเขาใหญ่ต่อ
ขณะที่เดินอยู่ พวกเขาพลันเกิดความรู้สึกบางอย่าง เงยหน้าไปมองพร้อมกัน
เห็นดวงตาขนาดเท่ากระจกสำริดคู่หนึ่งกำลังจ้องมองพวกเขาตาไม่กะพริบ!
ไม่ใช่สายตาที่ไร้รูปร่างอีกต่อไป แต่ว่าเหมือนกับแสงกระจกที่มองทะลุทุกสรรพสิ่งในความมืดมิดไร้สิ้นสุด ไม่มีสิ่งใดหลบซ่อนไปได้
ยามถูกสายตานี้จับจ้อง เยี่ยนจ้าวเกอกับเฟิงอวิ๋นเซิงต่างรู้สึกชาทั่วทั้งร่าง
ความรู้สึกนั้นอยู่ระหว่างความจริงกับความลวง เปลี่ยนแปลงยากหยั่งคาด ไม่สนใจร่างมนุษย์เซียนของคนทั้งสอง ส่งผลต่อวิญญาณโดยตรง ทำให้ความคิดว่างเปล่าหยุดชะงัก แต่อยู่ๆ ก็ไม่มองวิญญาณ ส่งผลกับร่างกาย ทำให้ผู้คนรู้สึกชาจนไม่อาจกระดิกกระเดี้ย
เยี่ยนจ้าวเกอในสองตาปรากฏสภาพโกลาหล แสงมารสีดำแกมน้ำเงินที่สั่นไหวในม่านตาสองข้างของเฟิงอวิ๋นเซิงกลายเป็นความมืดมนว่างเปล่า
ผ่านไปพักหนึ่ง คนทั้งสอบค่อยควบคุมวิญญาณและร่างกายของตัวเองได้
สายตาที่เหมือนกับกระจกใสนั้นก็ไม่ได้ทำอะไร หายไปในทันใด
จากนั้น เงาร่างนั้นก็พุ่งลงมาจากฟากฟ้า มาอยู่ต่อหน้าคนทั้งสอง!
เยี่ยนจ้าวเกอเพ่งมอง หลังเห็นรูปร่างหน้าตาของอีกฝ่ายถนัดแล้ว มุมปากก็กระตุกอย่างไม่อาจควบคุม
ถึงร่างกายจะไม่ได้สูงใหญ่นัก แต่ว่ายามกึ่งนั่งยองกึ่งยืนอยู่ตรงหน้า เหมือนกับพยัคฆ์หมอบมังกรขด ราวกับมีสภาวะยกฟากฟ้า ด้านล่างเหยียบปรโลกและนรกภูมิ ศีรษะค้ำยันสวรรค์เก้าชั้น
หน้าเป็นขน ปากงุ้ม สวมมงกุฎทองปีกหงส์ ใส่เกราะสีทองเหลือง สวมรองเท้าเมฆใยบัว ถือกระบองท่อนหนึ่งไว้หนึ่งมือ กำลังมองพวกเยี่ยนจ้าวเกอ
พอเห็นวานรเขื่องขนทองที่ดูดุร้าย ไม่สนใจกฎเกณฑ์ ต่อให้ก่อนหน้าเยี่ยนจ้าวเกอจะมีการคาดเดาอยู่ก่อน ตอนนี้ก็ยากสงบอารมณ์ความรู้สึก
ผู้ที่ปรากฏตรงหน้าเขา ถึงกับเป็นราชาวานรโสภาในตำนานตนนั้น มหาเทวะเสมอฟ้า ซุนหงอคง!
แต่ถ้าซุนหงอคงอยู่ที่นี่ แล้วยุทธวิชัยพุทธะที่อยู่ด้านนอกคืออะไร?
เป็นพระพุทธเจ้าองค์อื่นหรือ?
หรือว่าวานรกตรงหน้าเป็นตัวปลอม?
เยี่ยนจ้าวเกอกับเฟิงอวิ๋นเซิงมองหน้ากัน ต่างเห็นความแตกตื่นสงสัยในดวงตาของอีกฝ่าย
“ศิษย์สายหยกพิสุทธิ์กับผู้สืบทอดวิถีมาร?” กลับเป็นวานรที่ดูชั่วร้ายตนนั้นเอ่ยปากขึ้นก่อน
เขาพิจารณาพวกเยี่ยนจ้าวเกอขึ้นลง สีหน้าฉายแววสงสัย
“ประหลาด ประหลาดนัก!” วานรมองดูเฟิงอวิ๋นเซิง “มองแวบแรกเป็นผู้สืบทอดวิถีมาร แต่ไฉนยังรู้สึกว่าพื้นฐานเป็นหยกพิสุทธิ์กับเอกพิสุทธิ์?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี