ยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่นับไม่ถ้วนล้วนต้องการหลุดพ้น พวกเราเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
ในอดีตไม่ว่าเป็นเป้าหมายใดล้วนไม่สำคัญ ทว่าวันนี้ข้าต้องการหลุดพ้น ไม่ใช่เพราะเหตุอื่น ไม่ใช่อยู่ที่การหลุดพ้น แต่เพื่อตามหาเฒ่ายูไล มาพูดเหตุผลกันสักครั้ง!
ไม่ว่าเป็นเพราะยึดมั่นถือมั่นก็ดี หรือเพราะโมโหโกรธาก็ดี
ไม่ว่าผู้อื่นจะต่อว่าข้าอย่างไร ชีวิตนี้ก็ขอใช้ให้สุขสม!
เปลวเพลิงในดวงตาของวานรเหมือนกับพวยพุ่งออกมา กอปรเป็นสภาวะเผาไหม้ฟ้า
เยี่ยนจ้าวเกอกับเฟิงอวิ๋นเซิงมองมหาเทวะเสมอฟ้าตรงหน้า สีหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม
สลายพลังฝึกฝน เริ่มใหม่แต่ต้น
พูดไปรวบรัด แต่ความยากลำบากภายในยากจะบอกกล่าว
นั่นไม่ใช่การฝึกฝนแค่พันปี หมื่นปี หรือเวลาที่มากกว่านั้น ขณะเดียวกันยังหมายความว่าทุกอย่างเปลี่ยนเป็นไม่แน่นอน
แม้ซุนหงอคงเกิดจากศิลาดินกำเนิด กระนั้นผู้ใดจะรับประกันได้ว่าเขาจะสำเร็จร่างสวรรค์มหาชาลเช่นทุกวันนี้ได้อีกครั้งแน่นอน?
ผู้ใดจะรับประกันได้ว่าเขามีความหวังในการหลุดพ้นแน่นอน?
หากสมมติอย่างสุดโต่ง การเสียชีวิตลงกลางคันเพราะประสบกับภัยพิบัติฟ้าหรือภัยจากผู้คน ก็ไม่ใช่เป็นไปไม่ได้
กระนั้นวานรตรงหน้ากลับคล้ายไม่ลังเลแม้แต่น้อย
สำหรับเขาแล้ว ไม่ว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลว ยังดีกว่าถูกสะกดไว้ที่นี่ไม่ได้รับการปลดปล่อย!
“ไม่มีอิสระยินยอมตาย สู้ฟ้าสู้ดิน ไม่เกรงกลัวสิ่งใด…” เยี่ยนจ้าวเกอถอนใจ มองมหาเทวะเสมอฟ้า “ข้าจะช่วยหาตัวเลือกที่เหาะสมให้แก่มหาเทวะท่าน”
มหาเทวะเสมอมองเขา เนิ่นนานให้หลังค่อยเอ่ย “เด็กน้อยเจ้าไม่กลัวสะกิดโทสะของเฒ่ายูไลหรือ? ถึงท่านจะหลุดพ้นแล้ว แต่ก็ไม่ใช่ไม่มีโอกาสกลับมา”
“กล่าวแบบนี้ก็ไม่ผิด แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะต้องยั่วโมโหพระยูไล” เยี่ยนจ้าวเกอยิ้ม “กล่วอย่างตรงไปตรงมา ถ้าหากว่าต้องยั่วโมโหพระยูไล ข้าก็จำเป็นต้องคิดดูจริงๆ”
“ไม่ใช่เพราะข้ากลัว แต่เพราะข้าไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว และไม่อาจทำอะไรด้วยตัวคนเดียวได้” เขาหันไปมองเฟิงอวิ๋นเซิง “ข้ามีครอบครัว มีสหาย มีศิษย์ร่วมสำนัก ต้องคิดเผื่อพวกเขาด้วย”
“หากว่าข้าไปไหนมาไหนคนเดียวอย่างมหาเทวะท่าน แม้ว่าจะสะกิดความโกรธของพระยูไลเข้าจริงๆ ข้าก็ยังต้องทำเรื่องบางเรื่อง”
เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวอย่างสงบนิ่ง “คนเรามักมุ่งหาผลประโยชน์หลีกเลี่ยงสิ่งเลวร้าย ข้าเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น แต่ว่าไม่ใช่จำเป็นต้องดูผลได้ผลเสียในทุกเรื่องราวจึงค่อยกระทำ”
“บางครั้งข้าก็เอาแต่ใจยิ่ง ที่ต้องการคือความสาแก่ใจ!”
วานรมองเขาสักพักใหญ่ๆ ค่อยเอ่ยถาม “พวกเจ้าเด็กน้อยทั้งสองตามหาที่นี่เจอได้อย่างไร?”
“ความจริงได้รับการไหว้วานมา” เยี่ยนจ้าวเกอตากลายเป็นเคร่งขรึมอยู่บ้าง ตอบตามความจริง “ผู้ไหว้วานเพียงบอกว่าที่นี่สะกดตัวตนบางอย่างเอาไว้ วานให้ข้ามาตรวจสอบว่าเป็นใคร กลับไม่คิดว่าเป็นมหาเทวะท่าน”
วานรถามต่อ “ได้รับการไหว้วานจากผู้คน?”
เยี่ยนจ้าวเกอใคร่ครวญเล็กน้อย ก่อนจะตอบว่า “ใต้เท้าอายุวัฒนาหนานจี๋ หนึ่งในสี่เทวราชของสำนักเต๋า”
“เซียนหนานจี๋เฒ่าชราผู้นั้น…” มหาเทวะเสมอฟ้าเงยหน้าเล็กน้อย ขบคิดอย่างเหม่อลอยอยู่ชั่วขณะ
ครู่ต่อมา รอยยิ้มบนใบหน้าที่เต็มไปด้วยขนของเขา “ไม่ว่าเด็กน้อยเจ้าจะมีเจตนาดีหรือร้าย ขอให้เจ้าช่วยข้าสักครั้ง ข้าเหล่าซุนจะขอบคุณเจ้า”
“กลับไม่ทราบว่าคนที่มหาเทวะเสมอฟ้าท่านต้องการตามหา มีการกำหนดพลังฝึกปรือสูงต่ำหรือไม่? และมีเงื่อนไขด้านจำนวนไหม?” เยี่ยนจ้าวเกอถาม
มหาเทวะเสมอฟ้าโบกมือ “ระดับพลังฝึกปรือยิ่งสูง จำนวนย่อมยิ่งน้อย อย่างเด็กหญิงข้างเจ้า ถ้าหากว่ามีขีดความสามารถและระดับเท่านาง แค่คนเดียวก็เกินพอแล้ว”
ในทางกลับกันก็คือ ถ้าระดับพลังฝึกปรือต่ำ ก็จำเป็นต้องให้คนมารับภาระพร้อมกันมากกว่าเดิม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี