“…เทวกษัตริย์น้อย?” เยี่ยนจ้าวเกอมุมปากกระตุก ‘ไฉนที่แล้วมาข้าจึงไม่ทราบว่า ข้ามีฉายาเช่นนี้อยู่?’
ฉายาของจอมยุทธ์ระดับเซียนส่วนใหญ่มีความพิถีพิถัน
ไม่เคยมีฉายาจักรพรรรดิของเซียนจริงแท้คนใดเรียกว่าจักรพรรดิเซียน ไม่มีฉายากษัตริย์ของเซียนลี้ลับคนใดเรียกว่ากษัตริย์เซียน
ไม่อย่างนั้นจะให้เหล่าเซียนกำเนิดกับเซียนสวรรค์ที่อยู่ในระดับสูงกว่ายึดถืออย่างไร?
หากตั้งฉายายิ่งใหญ่ ย่อมดึงดูดให้คนอื่นๆ มาวัดระดับที่แท้จริงของคนผู้นั้น หากมีความสามารถทำให้คนที่ไม่พอใจทั้งหมดคว้าน้ำเหลวกลับไป เช่นนั้นย่อมได้รับการชมเชยจากผู้คน
ถ้าไม่เช่นนั้น ต่อให้ถูกคนฆ่าตาย ก็ไม่มีคนช่วยเรียกร้องความยุติธรรมให้
เหมือนกับที่จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่งกว่านี้ ไม่มีทางตั้งฉายาว่า ‘ประมุขสวรรค์’ ไม่อย่างนั้นจะต้องถูกเทวกษัตริย์ทั้งหมดของทุกฝ่ายในตอนนี้จับตามอง
อย่างน้อยสุดฉายาที่เกือบฝ่าฝืนเช่น ‘ประมุขเก้าสวรรค์’ ของเฮ่อเหมี่ยน เหล่าเซียนสวรรค์ชั้นมหาชาลกลับใช่ว่าจะเอาเรื่องจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์คนหนึ่ง
ตามปกติแล้ว ความเป็นมาของฉายา ตัวเองจะเป็นคนตั้ง จากนั้นได้รับความเห็นชอบจากคนอื่นๆ ค่อยๆ แล้วค่อยๆ กระจายออกไป
และก็มีคนอื่นตั้ง ส่วนตัวเองรับไว้ จากนั้นได้รับการยอมรับจากคนจำนวนมาก จากนั้นค่อยกระจาย
เยี่ยนจ้าวเกอเพิ่งเลื่อนสู่ระดับเซียนได้ไม่นาน เขาไม่ได้ใส่ใจเรื่องฉายาจักรพรรดิ
ในฐานะคนที่ชอบโอ้อวด เขาย่อมต้องพิจารณาให้ดี
ทว่าฉายามนุษย์เซียนผู้ถูกเนรเทศ กับฉายาประมุขสูงสุด ไม่เหมาะจะใช้อีกแล้วจริงๆ
เพียงแต่เขาคิดไม่ถึงว่า เกาหานถึงกับตั้งฉายา ‘เทวกษัตริย์น้อย’ ให้แก่เขา
คำว่า ‘น้อย’ นี้ ยึดตามความเคยชินทั่วไป หากเติมอยู่ในชื่อของคน จะมีความหมายเท่ากับ ‘เล็ก’ แต่ก็แสดงความนับถืออยู่หลายส่วน ขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นถึงความคาดหวังและการรอคอย
เหมือนกับตอนที่เยี่ยนจ้าวเกอยังมีระดับพลังฝึกปรือต่ำ เพิ่งมาถึงโลกซ้อนโลก ในช่วงแรกๆ มีคนเรียกเขาว่า ‘เจ้าชายพระอาทิตย์[1]’ เพราะตราประทับพระอาทิตย์
หากคิดในแง่ดีสักเล็กน้อย ผู้ที่มีฉายา ‘เทวกษัตริย์น้อย’ สามารถเข้าใจได้ว่าตอนนี้ยังไม่ใช่เทวกษัตริย์ แต่เขาจะต้องได้ขึ้นสู่สวรรค์ชั้นมหาชาลแน่
นี่เป็นการแสดงถึงความคาดหวังต่อศักยภาพของเยี่ยนจ้าวเกอ เป็นการรอคอยอย่างหนึ่ง
ทว่า หากเป็นเจตนาร้าย ก็สามารถอธิบายได้อีกอย่าง
ตัวตนที่ไร้เทียมทานใต้สวรรค์มหาชาล ใกล้เคียงกับเทวกษัตริย์มากที่สุด
อธิบายว่าเตรียมตัวเป็นเทวกษัตริย์แล้ว
ฉายาเช่นนี้ เหล่าเซียนสวรรค์ชั้นมหาชาลย่อมไม่รู้สึกว่าถูกล่วงเกิน
ทว่าเมื่อไปอยู่บนตัวเซียนจริงแท้คนหนึ่ง จะทำให้เซียนกำเนิดและเซียนลี้ลับคิดเห็นอย่างไร เช่นนั้นยากจะบอกแล้ว
‘พอกล่าวออกมาจากปากคนอย่างเกาหาน ไฉนจึงเหมือนกำลังก่อเรื่องอยู่…’ เขาวิจารณ์ในใจ เปลือกนอกสีหน้าไม่มีการเปลี่ยนแปลง
เขายิ้มเล็กน้อย ประสานมือแก่พวกหลี่ซิ่งป้า “เพิ่งได้พบหน้าเป็นครั้งแรก เยี่ยนจ้าวเกอขอคำนับแล้ว”
สายตาของหลี่ซิ่งป้า ชื่อหลานเต้าหยิน กงซุนฮุยกลายเป็นคมกริบ
ตอนแรกนึกว่าเยี่ยนจ้าวเกอจะลุกลี้ลุกลน รีบกล่าวถ่อมตนอยู่หลายคำ
ผู้ใดหาทราบไม่ว่าเขาถึงกับรับฉายา ‘เทวกษัตริย์น้อย’ อย่างเปิดเผยเช่นนี้?
ตอนนี้พวกหลี่ซิ่งป้ายอมเชื่อว่านี่เป็นเพราะเยี่ยนจ้าวเกอไม่เข้าใจถึงความนัยของฉายานี้ ไม่อย่างนั้นต้องโอหังถึงขนาดไหนจึงจะทำเรื่องแบบนี้ได้?
หรือไม่ทราบว่าแม้จะเป็นเหล่าจ้าวสวรรค์เซียนกำเนิดก็ยังไม่กล้าแบกรับฉายานี้?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี