เฟิงอวิ๋นเซิงสีหน้าไร้อารมณ์ ในวาจาไม่มีความโกรธ ทว่าพอถูกนางจ้องมอง ไม่ว่าจะเป็นหลี่ซิ่งป้าศิษย์อาจารย์หรืออนุเทวะเผ่ากระเรียนตนนั้นต่างรู้สึกเย็นเยียบถึงขั้วกระดูก เหมือนกับชีวิตของตัวเองเดินมาถึงปลายทาง
“…ประเสริฐ ประเสริฐ ประเสริฐ!” ใบหน้าสีแดงของหลี่ซิ่งป้าดำเหมือนก้นหม้อ “พวกเจ้ามารผจญสองตนไม่ใช่คนประเภทเดียวกัน ไม่อยู่ด้วยกันจริงๆ”
เขากล่าวน้ำเสียงดุดัน “เจ้าเข้าวิถีมารปัจฉิมธรรม ได้เทพมารกรอกศีรษะ ข้าไม่อาจไม่ยอมรับว่าสู้เจ้าไม่ได้ แต่ในเมื่อพวกข้ากล้ามา ไหนเลยไม่มีการเตรียมตัว”
เยี่ยนจ้าวเกอกับเฟิงอวิ๋นเซิงได้ยินต่างก็ขมวดคิ้ว
“หือ?” เฟิงอวิ๋นเซิงเหมือนสัมผัสอะไรได้ เงยหน้ามองท้องฟ้าที่เกิดจากม่านน้ำในมิติเวลาด้านในแควธารสวรรค์
หลี่ซิ่งป้ากล่าวด้วยรอยยิ้มเย็นชา “คนเลวย่อมมีคนที่เลวกว่ากำจัด เจ้าไม่ใช่ไร้ข้อกริ่งเกรงโดยสมบูรณ์”
เขาเงยหน้ามองฟ้าเช่นกัน “นพยมโลกเป็นภัยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเจ้า!”
เฟิงอวิ๋นเซิงมีสองบุปผาบนกระหม่อม พลังล้ำเลิศ ในเซียนกำเนิดยากจะหาคู่ต่อกร
แม้ว่าจะเป็นเซียนสวรรค์มหาชาล อย่าว่าแต่มาจากเส้นทางนอกรีต คนส่วนหนึ่งในยอดฝีมือชั้นมหาชาลจากสำนักเต๋าสายหลัก ศาสนาพุทธ เผ่าปีศาจ หรือนพยมโลกก็ไม่กล้าบอกว่าจะเอาชนะนางได้
แน่นอนว่ายอดฝีมือที่สามารถเอาชนะเฟิงอวิ๋นเซิงในตอนนี้ได้ย่อมมีมากมาย ทว่าตัวตนระดับมหาชาล สำหรับขุมกำลังใหญ่ๆ แต่ละแห่งล้วนมีจำกัด
การต่อสู้ระหว่างพวกเขา ยอดฝีมือระดับมหาชาลเป็นขุมกำลังที่สำคัญที่สุด เต็มไปคุณสมบัติคุกคาม
ปัจจุบันที่แดนสุขาวดีบัวขาวบุกโถงเซียนทั้งยังได้เปรียบมหาศาล หลักๆ แล้วเป็นเพราะว่าเซียนสวรรค์ชั้นมหาชาลสี่คนของโถงเซียนล้วนตกตายด้วยน้ำมือของสั่วหมิงจาง
ที่เผิงท่องเมฆหมื่นลี้ของเผ่าปีศาจทำให้ศัตรูแต่ละคนหวั่นเกรงในสภาสวะ สาเหตุอยู่ที่ว่าในสถานการณ์พิเศษบางสถานการณ์ มหาเทวะเผ่าปีศาจที่อยู่ในระดับมหาชาลตนนี้สามารถแสดงความสามารถเท่ากับคนหลายคนได้
ดังนั้นสำหรับเฟิงอวิ๋นเซิง ในสถานการณ์ส่วนใหญ่แล้ว ยอดฝีมือที่สะกดนางได้มีอยู่น้อยยิ่ง และผู้ที่มีความพิเศษในนี้ก็คือยอดฝีมือจากนพยมโลก
กับยอดฝีมือคนอื่นๆ มาตรว่าเฟิงอวิ๋นเซิงสู้ไม่ได้ ขอแค่ความแตกต่างด้านพลังไม่มากจนเกินไป นางยังสมารถหลบหนีได้
ทว่าจอมมารระดับสุดยอดและมารโบราณในนพยมโลก เมื่อเทียบกับยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่ของขุมกำลังอื่นแล้ว สามารถจับตำแหน่งของนางได้ง่ายดายกว่า ทำให้นางหนีได้ยาก
เฟิงอวิ๋นเซิงแตกต่างกับกษัตริย์ดารา สือจวิน อิ๋งอวี่เจิน จอมมารในนพยมโลกที่เทียบได้กับระดับมหาชาลไม่อาจกระตุ้นนิสัยมารของนาง
แต่ถ้าต้องสู้กับมารโบราณที่แข็งแกร่ง เฟิงอวิ๋นเซิงไม่อาจไม่ใช้พลังทั้งหมดของตัวเอง เป็นเหตุให้นางค่อยๆ สูญเสียการควบคุมทีละน้อย
ถ้าต้องเผชิญหน้ากับยอดฝีมือระดับสุดยอดในนพยมโลก นางคิดจะหลบหนีสุดกำลังยังค่อนข้างลำบาก ยิ่งพัวพันกันนาน การควบคุมตัวเองของนางก็ยิ่งติดขัด
ครั้งกระโน้นตอนสงครามชิงวารีสามแสง เฟิงอวิ๋นเซิงใช้สองบุปผาบนกระหม่อมไม่นานก็สลายไป ไม่ใช่เป็นเพราะนางมีพลังไม่พอ ทนต่อไปไม่ได้ แต่เพื่อป้องกันไม่ให้จอมมารแห่งนพยมโลกสัมผัสได้ถึงตำแหน่งของนางแล้วมาพัวพันต่างหาก
“นี่อยู่เหนือความคาดหมายของข้าไปบ้างจริงๆ” เยี่ยนจ้าวเกอเงยหน้ามองดูม่านน้ำที่อยู่ด้านบนอย่างสนอกสนใจ “พวกท่านถึงขั้นร่วมมือกับนพยมโลก บอกตามตรง นี่ยังทำให้คนประหลาดใจยิ่งกว่าที่พวกท่านร่วมมือกับเส้นทางนอกรีตเสียอีก”
“เหมาะสมกับการรับมือมารผจญน้อยสองตนเช่นพวกเจ้าที่สุด” หลี่ซิ่งป้าแค่นเสียง “ถึงอย่างไรก็เป็นแผนการชั่วคราว มีมาตั้งแต่โบราณ มีอะไรต้องใส่ใจกัน”
แววอับอายกลายเป็นโทสะบนใบหน้าเขาค่อยๆ สลายไป เปลี่ยนเป็นสีหน้าไร้อารมณ์ มีเพียงในดวงตาสองข้างที่เย็นยะเยือกขณะมองพวกเยี่ยนจ้าวเกอ
เยี่ยนจ้าวเกอกับเฟิงอวิ๋นเซิงเงยหน้ามองด้านบนพร้อมกัน เห็นม่านน้ำค่อยๆ สั่นไหว ไม่เพียงแต่ม่านน้ำในมิติพิเศษแห่งนี้ที่สั่นไหวเท่านั้น แต่แควธารสวรรค์ทั้งหมดคล้ายได้รับผลกระทบ!
วินาทีนี้จักรวาลอันว่างเปล่าใน มิติไร้สิ้นสุดนอกเขตแดนด้านนอกแควธารสวรรค์เหมือนกับผนึกแข็งอย่างฉับพลัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี