หลังรับการโจมตีจากโอสถลวงเซียนสีแดงชาด หลี่ซิ่งป้ากับปีศาจกระเรียนตนนั้นเริ่มกายเซียนไม่มั่นคง
แก่นเซียนและแก่นปีศาจล้วนพังทลาย ห้าปราณในอกสลาย กลับไปอยู่ในระดับเซียนลี้ลับ ภายใต้การปัดเป่าจากลมโรคาหมอกดำ
ตอนที่โดนโจมตีมีอยู่ชั่วพริบตาที่พวกเขาวิงเวียนศีรษะ เกือบสลบไสลไป
สุดท้ายทั้งสองมีความแน่วแน่ จิตใจกล้าแข็ง ยังรักษาสติห้วงสุดท้ายไว้ได้
ตอนนี้ยังเป็นแค่การสะกดจากพลังของค่ายกล ถ้าสลบสิ้นสติไปเช่นนี้ ก็ไม่อาจโต้ตอบได้โดยสมบูรณ์ ค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าโค้งนั้นส่งผลทำลายกายเซียนของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง จะทำลายรากฐานของพวกเขาอย่างแท้จริง
ถึงเวลานั้นจะเป็นการผลักยอดฝีมือระดับเซียนลงไปยังโลกมนุษย์ ความพยายามตลอดหลายปีล้วนสูญเปล่า
มุกผ่าดินบนศีรษะของหลี่ซิ่งป้าสั่นไหวอย่างรุนแรง ระลอกคลื่นที่จับต้องได้หลายกลุ่มขยายออกมา ในดวงตาสองข้างของเขาก็มีคลื่นการสั่นสะเทือนส่ายไหวอยู่เช่นกัน นอกในผสมผสาน ทำให้หลี่ซิ่งป้ายังรักษาสติไว้ได้
เขาตบใส่ปีศาจกระเรียนที่อยู่ด้านข้าง พลังสั่นสะเทือนทำให้อีกฝ่ายไม่ถึงกับล้มลง ทว่าถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ พลังอันแข็งแกร่งของแม่น้ำเหลืองเก้าโค้งก็ยังคงแสดงผลอย่างไม่หยุดยั้ง
พวกเขาที่ถูกทำลายห้าปราณมุ่งสู่ต้นกำเนิดพลันรู้สึกว่าการสะกดของพลังจากค่ายกลชัดเจนมากขึ้น ภายใต้การจู่โจมจากลมโรคาหมอกดำและน้ำสีเหลือง สภาวะสูญสลายของกายเซียนของพวกเขาเร็วยิ่งขึ้น
ตอนนี้วายุเซียนของตัวเองยังหลอมปราณเซียนสี่ชนิดสำเร็จ แต่ถ้าถูกค่ายกลสลาย ก็จะตกจากเซียนลี้ลับสี่ปราณสู่ขั้นเซียนลี้ลับสามปราณ
“เร่ง!” หลี่วิ่งป้าไม่กล้าลังเลแม้แต่น้อย ต่างสลัดความคิดส่วนตัวทิ้งหมดสิ้น เหลือแค่ความคิดเดียวคือการคว่ำเยี่ยนจ้าวเกอให้ได้ ทำลายค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าโค้งตรงหน้า
ไม่อย่างนั้นวันนี้ก็เกรงว่าเขาจะไม่อาจรอดจากที่นี่ได้จริงๆ
ความคิดพอทำงาน มุกผ่าดินบนศีรษะก็พุ่งตรงดิ่งไปหาเยี่ยนจ้าวเกอ ตัวเขาพลิ้วร่างขึ้น บินเข้าหาเยี่ยนจ้าวเกอเช่นกัน
ถึงแม้เหล็กท่อนมีเหลี่ยมอันเป็นอาวุธเซียนระดับสุญญตาชิ้นนั้นของเขาจะถูกเฟิงอวิ๋นเซิงฟันหักไปแล้ว แต่ขณะที่หลี่ซิ่งป้าต่อยหมัดลง ก็เหมือนกับง้างเหล็กท่อนขนาดใหญ่ขึ้นแล้วฟาดใส่มิติดังตูม กระแทกใส่ศีรษะของเยี่ยนจ้าวเกอ
มุกผ่าดินกับหมัดของหลี่ซิ่งป้าแสดงพลังสั่นสะเทือนซึ่งทำให้แผ่นดินพังทลาย เอกภพปั่นป่วนพร้อมกัน
อีกด้านหนึ่ง อนุเทวะเผ่ากระเรียนตนนั้นก็ทราบเช่นกันว่าเป็นเวลาเสี่ยงชีวิต จึงฝืนสะกดความรู้สึกวิงเวียน ลงมือสุดกำลัง
เสียงกระเรียนที่กระจ่างใสแต่แฝงความดุร้ายหลายส่วนดังขึ้น คอที่ยาวระหงของอนุเทวะเผ่ากระเรียนตนนี้ยื่นออกไปแล้วพุ่งลง จิกจะงอยปากยาวใส่เยี่ยนจ้าวเกอ
ลมอ่อนหลายสายพรั่งพรู เป่าลมโรคากับหมอกดำสลาย พุ่งใส่เยี่ยนจ้าวเกอ
ขณะลมอ่อนพุ่งปะทะหน้า เยี่ยนจ้าวเกอถึงกับเกิดความรู้สึกว่าปราณเซียนของตัวเองถูกเป่าสลายอยู่หลายส่วน ยากจะกระตุ้นพลังขึ้นมา
นี่เป็นการผสานความสามารถตั้งแต่เกิดของปีศาจกระเรียนกับวายุปีศาจของตัวเอง แสดงให้เห็นถึงอานุภาพที่ไม่ธรรมดา
ลมอ่อนเปิดทาง แผ่นดินไหวติดตามหลัง มุกผ่าดินและหมัดของหลี่ซิ่งป้าบรรลุถึงตรงหน้าเยี่ยนจ้าวเกอในชั่วอึดใจ
เยี่ยนจ้าวเกอเห็นดังนั้นกลับไร้ความเกรงกลัว เปลี่ยนแปลงท่ามือติดต่อกัน พลันมีสายน้ำซัดสาดม้วนพัด กลบมุกฝ่าดินของหลี่ซิ่งป้า
จากนั้นตัวเขาผุดลุกจากท่านั่งขัดสมาธิ ยืดตัวตรงไม่หลบหลีก ต่อยหมัดหนึ่งออกปะทะกับหมัดของหลี่ซิ่งป้าตรงๆ!
วงแสงสิบสองวงลอยๆ จมๆ หมุนแสงและความมืด ขณะที่หมุน ความมืดถดถอยหมดสิ้น เหลือเพียงแสงสว่างไร้สิ้นสุด
ในวงแสงสิบสองวงเหมือนกับนั่งไว้ด้วยเทพแห่งแสงสิบสององค์ เทพแห่งแสงมีใบหน้าเป็นมายา ถูกแสงครอบคลุมไม่เห็นหน้าตาที่แท้จริง
ทว่ายามหลี่ซิ่งป้ามองไป กลับเหมือนเห็นเงาร่างของผู้ยิ่งใหญ่ในตำนานเช่นเทวกษัตริย์กว่างเฉิง เทวกษัตริย์พหุวิเศษ จักรพรรดิเจินอู่ จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋
ขณะที่หลี่ซิ่งป้าตื่นตระหนก ร่างจุติของเทพแห่งแสงทั้งสิบสององค์นั้นก็ปล่อยหมัดออกไปพร้อมกับการออกหมัดของเยี่ยนจ้าวเกอ
พร้อมกับที่ออกหมัด ร่างจุติของเทพแห่งแสงสิบสององค์ก็พังทลายไปพร้อมกัน แสงสิบสองสายจากการสละร่างของพวกเขาแหลกสลายตามไป
หลังจากแสงสว่าง ไม่เห็นความมืด
มหามรรคาล่มสลาย ทวิลักษณ์ไม่คงอยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี