“มารสวรรค์ไร้พันธนาไม่ปรากฏตัวมาเนิ่นนาน หายสาปสูญไปเป็นเวลานานเกินไป มันยังมีชีวิตอยู่หรือไม่” อวี่เยี่ยถามด้วยความสงสัย
เยี่ยนจ้าวเกอหันไปทางเฟิงอวิ๋นเซิง ฝ่ายเฟิงอวิ๋นเซิงกล่าวเสียงเบา “มีความเป็นไปได้มากที่สุดว่ามารสวรรค์ไร้พันธนายังไม่หลุดพ้นและยังไม่ตาย ยังคงอยู่บนโลก ทว่าตอนนี้มันเป็นอย่างไร ข้าไม่กล้ายืนยัน”
มารสวรรค์ไร้พันธนาถูกจัดเป็นหกบรรพมารในสิบสองเทพมารสวรรค์ กำเนิดขึ้นพร้อมการสร้างโลก หนึ่งในบรรพบุรุษแห่งวิถีมาร ผู้นำแห่งวิถีมารที่อยู่เหนือกว่ามารจิต มารเงา มารน้ำกุ่ย มารดินโบ่ว
เทวกษัตริย์บุพกาลถูกสะกด มารสวรรค์ธรรมชาติตายลง มารสวรรค์ไร้พันธนาจึงกลายเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งแห่งวิถีมารอย่างไม่มีสิ่งใดต้องละอาย และเป็นบรรพบุรุษแห่งมรรคาเส้นหนึ่งในการต่อกรกับผู้ยิ่งใหญ่ระดับมรรคาคนอื่นๆ
ถึงแม้จะไม่โผล่มาเป็นเวลานาน กระนั้นไม่ว่าผู้ใดก็ไม่กล้าดูแคลตัวตนอย่างบรรพมารตนนี้
“มารจิตและมารไม้อิกยังคงอยู่ มารน้ำกุ่ยพัวพันกับกษัตริย์ดารา มารดินโบ่วพัวพัวคนในสำนักท่าน” อวี่เยี่ยถามอีก “เช่นนั้นมารทองแกกับมารไฟปิ่งเล่า”
เยี่ยนจ้าวเกอตอบ “มารไฟปิ่งไม่รู้แน่ชัด ก่อนหน้านี้มารทองแกยังอยู่ในสภาพดับสูญ ไม่มีวี่แววว่าจะคืนชีพ”
ตอนที่ไปตามหาเฟิงอวิ๋นเซิงในนพยมโลก ระหว่างทางเยี่ยนจ้าวเกอค้นพบสมรภูมิที่เยี่ยนซิงถาง ปู่ของตนต่อสู้กับมารกระบี่อินสือหยาง ซึ่งเป็นร่างแปลงของมารทองแกยุคก่อน
ณ ที่แห่งนั้น จิตใจของมารกระบี่อินสือหยางยังคงมีรอยตราเหลืออยู่ แต่ก็เหี่ยวเฉา เป็นเพียงประวัติศาสตร์
หากว่ามารทองแกตนใหม่คืนชีพแล้ว เช่นนั้นร่องรอยที่เหลืออยู่ที่นั้นเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย ถึงอย่างไรก็อยู่ในนพยมโลก
กระนั้นหลังออกมาจากโลกซ้อนโลก เพื่อป้องกันไม่ให้ร่องรอยของตัวเองหลุดออกไป เยี่ยนจ้าวเกอก็ไม่เคยไปเหยียบที่นั่นอีก ตอนนี้เป็นอย่างไรแล้วก็ยากจะยืนยัน
“จอมมารอาศัยร่างคืนชีพ บางครั้งพวกเราก็พบร่องรอยได้ก่อน แต่บางครั้งกลับยากจะสัมผัส” เยี่ยนจ้าวเกอพูดอย่างจนปัญญาอยู่บ้าง “หรือแม้จะสัมผัสได้ก็ไม่มีเวลาจัดการมากพอ นอกเสียจากร่างสถิตจะมีจิตใจแน่วแน่ สามารถปกป้องตัวเองได้นาน”
อย่างเช่นกษัตริย์ดาราเฉินเสวียนจง หรือฉู่หลีหลีที่ตอนแรกอยู่ในการดูแลของเขา
กรณีอย่างอิ๋งอวี่เจินกับสือจวิน เป็นร่างสถิตเกิดปัญหาขึ้น ดังนั้นเวลาจึงถูกถ่วงมา
ทว่ามีสถานการณ์ส่วนหนึ่งที่ตั้งแต่จอมมารสัมผัสกับร่างสถิตอย่างแท้จริง ไปจนถึงการกลายร่างเกิดใหม่ ความจริงใช้เวลาไม่นาน ทำให้คนป้องกันไม่หวาดไม่ไหวเช่นกัน
มารกระบี่อินสือหยาง รวมถึงมารน้ำฉู่หวน บิดาของฉู่หลีหลีในตอนนั้นต่างเป็นกรณีนี้
และเป็นเพราะเหตุนี้ การยืมร่างคืนชีพและวิชาเทพมารกรอกศีรษะของจอมมารระดับสุดยอดจึงทำให้คนป้องกันไม่ทัน
อาจจะมีช่วงเวลาซ่อนตัวที่ค่อนข้างยาวนาน แต่ช่วงเวลาซ่อนตัวน้อยครั้งจะมีสัญญาณ หากทำงานขึ้นมาก็จะกลายเป็นไฟป่าลามทุ่ง ยากจะดับให้หมด
ไม่อย่างนั้นถ้าทุกๆ ครั้งล้วนเผยออกมาก่อนเวลา จากนั้นจำเป็นต้องใช้เวลานานในการหมักบ่ม เส้นทางการคืนชีพของจอมมารจะต้องถูกปิดตาย ประสบความสำเร็จไม่กี่ครั้ง
ถึงจะโหดร้ายไปบ้าง แต่ว่าในประวัติศาสตร์ก็ใช่ว่าจะไม่มีร่างสถิตที่เผยร่องรอยออกมาก่อนเวลา จากนั้นก็ถูกคนสังหารทิ้งทันที ตัดไฟเสียแต่ต้นลม
เพียงแต่ว่าพวกเยี่ยนจ้าวเกอย่อมไม่คิดถึงวิธีการแบบนี้
“ตอนนี้เราเสียเปรียบอยู่บ้าง แต่จะรีบร้อนไม่ได้ ไม่อย่างนั้นอาจมอบโอกาสให้อีกฝ่ายได้ฉกฉวยง่ายกว่าเดิม” เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ย “พวกเราอดทนรอคอยเถอะ”
เฟิงอวิ๋นเซิงกับอวี่เยี่ยพยักหน้า
เยี่ยนจ้าวเกอมองอวี่เยี่ย กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ก่อนที่ศิษย์พี่เนี่ยจะกลับมา ศิษย์พี่ท่านจะรออยู่กับพวกเราที่นี่ หรือว่าจะไปรอที่เขานครหยก”
“ข้าล้วนได้หมด” อวี่เยี่ยตอบอย่างงุนงงอยู่บ้าง
ความเสียดายอันใหญ่หลวงในชีวิตของนาง ก็คือไม่อาจต่อสู้กับเยี่ยนซิงถาง ล้างผลแพ้ในตอนนั้นของตัวเองได้อีกแล้ว
ถึงหลงเสวี่ยจี้บุตรของนางจะเก่งกาจ ทว่าในการเติบโตของเขาก็มีร่องรอยของวิชากระบี่สายหยกพิสุทธิ์ที่หลงซิงเฉวียนสอนให้มากเกินไป ยากจะลบทิ้ง
ในตอนที่เขาประลองกับผู้ใช้กระบี่สายหยกพิสุทธิ์ ไม่ว่าจะชนะหรือแพ้ต่างยากจะแยกแยะว่าเป็นข้อดีข้อเสียของวิชากระบี่สายเหนือพิสุทธิ์หรือหยกพิสุทธิ์
โชคดีที่ปัจจุบันผู้สืบทอดของทั้งสองฝ่ายปรากฏอัจฉริยะมามากมาย ทั้งยังมีอายุและพลังฝึกปรือใกล้เคียงกัน
สายเหนือพิสุทธิ์ฝากความหวังไว้ที่ตัวอวี่เยี่ยกับเฮ่อเหมี่ยน อยากให้พวกเขาเอาชนะเนี่ยจิงเสิน ศิษย์ของเยี่ยนซิงถาง ล้างความอัปยศก่อนหน้า
เฮ่อเหมี่ยนเคยสู้กับเนี่ยจิงเสิน สุดท้ายพ่ายใต้กระบี่ของเนี่ยจิงเสิน
ระหว่างอวี่เยี่ยกับเนี่ยจิงเสิน จะต่อสู้กันสิบปีครั้ง เมื่อยี่สิบปีก่อนกับสิบปีก่อนได้ต่อสู้กันมาสองครั้ง สุดท้ายจบที่เสมอ
วันนี้เวลาสิบปีกำลังจะมาถึงอีกครั้ง ครั้งนี้อวี่เยี่ยจึงมาตามนัด
ก่อนหน้านี้เนี่ยจิงเสินออกจากฟ้าเหนือฟ้า ไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในจักรวาลฟ้าฟื้น แต่ว่าอีกไม่นานจะกลับมาทำตามการท้ารบ
“จะบอกว่าเป็นการตัดสินแพ้ชนะสูงต่ำก็ไม่ใช่แล้ว เพียงแต่พวกท่านยายก็ยังยึดติดอยู่” อวี่เยี่ยมองเยี่ยนจ้าวเกอ “หากว่ากันตามจริง ไม่ว่าจะเป็นข้าหรือเฮ่อเหมี่ยนล้วนเอาชนะศิษย์น้องเยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้ เจ้าจึงเป็นผู้สืบทอดทางสายเลือดของราชันพระศุกร์”
เยี่ยนจ้าวเกอโบกมือ “แต่ข้าไม่ใช่ผู้ฝึกกระบี่นี่ ไม่อย่างนั้นหากกล่าวตามความสัตย์จริง ข้ายังสู้ศิษย์พี่เนี่ยในด้านระดับกระบี่หยกเบิกนภาไม่ได้ เป็นตัวแทนระดับสุงสุดของผู้สืบทอดวิชากระบี่ของท่านปู่ไม่ไหว หากศิษย์พี่เนี่ยไม่อาจใช้กระบี่หยกเบิกนภาเอาชนะศิษย์พี่อวี่ท่านได้ ข้ายิ่งไม่ต้องพูดถึงแล้ว”
เขากล่าวด้วยรอยยิ้ม “ข้ารู้สึกว่าพวกท่านไม่จำเป็นต้องกำหนดระยะเวลาที่แน่นอนหรอก หากมีความสนใจก็แลกเปลี่ยนกันสักครั้ง ส่งผลดีต่อการพัฒนาของทุกฝ่าย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี