“สถานการณ์ที่ดีที่สุดย่อมเป็นก่อนหน้านี้ผู้อาวุโสฉู่พเนจรคนเดียว ไม่มีอันตรายใดๆ” เยี่ยนจ้าวเกอใช้นิ้วนวดขมับของตัวเองเบาๆ “แต่พวกเราก็ต้องคิดในแง่ร้ายที่สุดเอาไว้ด้วย”
เนี่ยจิงเสินมองอวี่เยี่ย “มีเรื่องที่กะทันหันเช่นนี้ หยุดการประลองของพวกเราชั่วคราวดีหรือไม่”
“ย่อมได้อยู่แล้ว” อวี่เยี่ยพยักหน้า “ข้าเคยพบกับผู้อาวุโสฉู่ในมรกตท่องฟ้าครั้งหนึ่ง หวังว่าฟ้าจะช่วยคุ้มครองนาง”
เยี่ยนจ้าวเกอกล่าว “เรื่องราวเบาะแสในเมื่อเกี่ยวกับราชันพระอาทิตย์ ทางจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋สมควรทราบเรื่องแล้ว พวกเราแยกกันไปติดต่อกับผู้อาวุโสสั่วกับเจ้าแม่อู๋ตังก่อน”
อวี่เยี่ยตอบ “ข้าจะส่งข่าวกลับมรกตท่องฟ้าทันที”
จากนั้นทุกคนก็แยกกันไปทำหน้าที่ เยี่ยนจ้าวเกอไปตามหาสวีเฟย
สองคนพอพบหน้า หลังจากเยี่ยนจ้าวเกออธิบายสถานการณ์ สวีเฟยก็ถามอย่างใจเย็น “เจ้าคิดจะทำอย่างไร”
“สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดคืออีกฝ่ายทำให้พวกเราพะว้าพะวงเพราะมารน้ำกุ่ยกับมารดินโบ่วเคลื่อนไหวพร้อมกัน” เยี่ยนจ้าวเกอตอบอย่างเยือกเย็น “พวกเราคิดดูแลทั้งสองด้านจะกลายเป็นว่าจำนวนคนกับกำลังลดลง มอบโอกาสยิงเกาทัณฑ์ดอกเดียวได้เหยี่ยวสองตัวให้แก่อีกฝ่าย เรื่องที่ศัตรูต้องการกระทำก็เป็นเรื่องที่พวกเราต้องหยุดไว้ให้ได้”
เยี่ยนจ้าวเกอพูดพลางกวักมือ เดินไปด้านนอก สวีเฟยติดตามด้านข้าง คนทั้งสองมุ่งหน้าไปยังตำหนักโอสถ
ครู่ต่อมา อาหู่ที่ได้รับคำสั่งของเยี่ยนจ้าวเกอก็นำสือจวินกับโลงศพน้ำแข็งที่บรรจุร่างของอิ๋งอวี่เจินมาถึงตำหนักโอสถเช่นกัน
ภายใต้การนำของเยี่ยนจ้าวเกอ ทุกคนเข้าไปในห้องโอสถแกนกลางซึ่งอยู่ด้านในตำหนักโอสถ
เยี่ยนจ้าวเกอสูดลมหายใจลึกเฮือกหนึ่ง กระแทกฝ่ามือใส่ตรงกลางพื้นห้อง จากนั้นก็เห็นลำแสงหลายสายพุ่งออกมาจากใจกลางฝ่ามือของเขา แล้วขยายไปรอบๆ คลุมห้องลับไว้เหมือนระลอกน้ำ ลวดายอาคมหลายายเคลื่อนไหวไม่หยุด แผ่กระจายเต็มพื้นถี่ยิบ
หลังจากสั่งสือจวินอีกหลายประโยค เขากับอิ๋งอวี่เจินก็รั้งอยู่ในห้อง พวกเยี่ยนจ้าวเกอถอยออกมา
“ถ้าเป็นเช่นนี้จะถูกอีกฝ่ายยืนยันตำแหน่งตำหนักโอสถและจักรวาลฟ้าฟื้นได้ง่ายๆ จนเกิดการประสานในนอกหรือไม่” สวีเฟยถามขึ้น
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า “เว้นเสียแต่ว่ามารสวรรค์ไร้พันธนาจะลงมือด้วยตัวเอง ไม่อย่างนั้นในเวลาอันสั้นไม่มีอันตรายอันใด มันอยากลงมือวู่วาม บรรพบุรุษมรรคาคนอื่นๆ ไม่อนุญาต”
เขาพ่นลมหายใจยาว “ตกอยู่ด้านหลังหนึ่งก้าว แล้วตกอยู่ด้านหลังอีกหลายก้าว อีกฝ่ายชิงโอกาสลงมือได้แล้ว พวกเราคิดออกทีหลังหากถึงก่อน พลิกจากแพ้เป็นชนะมีความเสี่ยงบางอย่างที่จำเป็นต้องเสี่ยง”
“พวกเจ้ากับอาจารย์อาเจ้าสำนักต้องระวังให้มาก” สวีเฟยพยักหน้าอย่างเงียบๆ
“ข้าจะระวัง” เยี่ยนจ้าวเกอว่า “ก่อนจะมาที่นี่ ข้าได้แจ้งให้ท่านแม่มาจากหุบเขาเจิดจรัสแล้ว ต่อจากนี้ยังมีนางดูแลตำหนักโอสถแทนข้า เมื่อมีพลังของตำหนักโอสถคอยช่วยสะกด ข้าเชื่อว่าสามารถถ่วงเวลาได้ระยะหนึ่ง”
สวีเฟยส่งเขาออกไป “ท่านแม่เจ้ามีระดับค่ายกลล้ำเลิศ ทั้งยังเพิ่งเลื่อนสู่ระดับประมุข แสดงพลังออกมาได้มากกว่าเดิม มีนางคอยดูแลย่อมประเสริฐยิ่ง”
เยี่ยนจ้าวเกอบอกลาสวีเฟย ก่อนจะรวมตัวกับเฟิงอวิ๋นเซิงแล้วออกจากฟ้าเหนือฟ้า ผละไปจากจักรวาลฟ้าฟื้น เข้าสู่มิติไร้สิ้นสุดนอกเขตแดน
คนทั้งสองข้ามเขตแดนของมิติมากมาย มุ่งหน้าไปตามเบาะแสที่เยี่ยนตี๋กับเฉินเสวียนจงได้ทิ้งเอาไว้ เพื่อรวมตัวกับพวกเขา
ในมิติยากจะทราบเวลา พวกเยี่ยนจ้าวเกอเหาะอยู่นาน จิตใจพลันสั่นไหว หลบออกมาจากร่องแยกมิติสองชั้น
พร้อมกับการปรากฏตัวของเขา ในมิติอันมืดมิดก็มีเงาร่างสายหนึ่งโผล่ออกมา เป็นเฉินเสวียนจง ราชันพระพุธ
“บิดาเจ้าไปตามหาหลีหลีแล้ว” หลังจากเจอกันเฉินเสวียนจงก็ไม่พร่ำพิไร กล่าวตรงๆ “พวกเจ้าไปรับเขาเถอะ ข้าจะไปยังดินแดนพันเกล็ดตามแผนการก่อนหน้า”
เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ผู้อาวุโสได้โปรดวางใจ พวกเราจะคุ้มครองผู้อาวุโสฉู่ไปหาท่าน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี