กลุ่มแสงแปดสิบเอ็ดสายหมุนวน พัดกระพือหมอกแสงสายแล้วสายเล่าให้พุ่งเข้าใส่ร่างของเฉินเสวียนจงและฉู่หลีหลี
แสงสว่างสาดส่อง เฉินเสวียนจงกับฉู่หลีหลีบนร่างปรากฏแสงสีดำ จากนั้นแสงสีดำบิดเบี้ยวเปลี่ยนแปลง กลายเป็นกลุ่มเมฆที่สภาพไม่คงที่ เต็มไปด้วยสีสัน
ในกลุ่มเมฆที่เต็มไปด้วยสีสันนั้น มีสีสันนานาพรรณ ปรากฏการณ์นับพันนับหมื่น เหมือนกับคนและเรื่องราวมากมายบนโลกมนุษย์ปรากฏขึ้นพร้อมกัน เต็มไปด้วยความสับสนในสังคมและความอึกทึกคึกโครม
แสงสีดำหายไป เมฆหลากสีปรากฏ ในความว่างเปล่าไม่มีสำนึกมารและจิตมารอีกต่อไป
ถึงจะมีความลำบาก แต่ว่ามาจากปรากฏกาณณ์ต่างๆ ในโลกมนุษย์ ไม่ใช่สำนึกที่โหดเหี้ยมเย็นชาอีกต่อไป
ขณะมองกลุ่มเมฆที่เต็มไปด้วยสีสัน เหมือนกับกำลังมองดูอากัปกิริยาของคนทั่วไป ทว่าก็เหมือนกับเมฆหลากสีที่มีสภาพบิดงอ ยากจะบรรยายยากจะพรรณนา ถ้าหากสังเกตอากัปกิริยาของคนนี้อย่างละเอียด จะรู้สึกว่าในความธรรมดาปรากฏความรู้สึกที่ผิดแปลกและไม่สอดคล้องกันอย่างหนึ่ง
ในตอนนั้นเอง หมอกแสงที่พัดในความว่างเปล่า รัดเมฆที่เต็มไปด้วยสีสันเหมือนกับโซ่หลายเส้น
พอถูกโซ่หมอกแสงมัดไว้ ผลกระทบที่กลุ่มเมฆหลากสีมีต่อเฉินเสวียนจงกับฉู่หลีหลีพลันถูกลดทอนสะกดไว้
แม้แต่พวกเยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่ด้านข้าง พอถูกแสงสว่างครอบคลุม จิตใจที่สั่นไหวก่อนหน้าพลันกลับคืนสู่สภาพปกติ
‘ฉู่หลีหลี’ ลืมตาขึ้นใหม่ แต่ว่าแสงสีดำในดวงตาบัดเดี๋ยวสว่างบัดเดี๋ยวมืด บัดเดี๋ยวปรากฏบัดเดี๋ยวสูญหาย ยากจะรักษาความเสถียร
เมฆหลากสีกลุ่มหนึ่งบนศีรษะของนางถูกหมอกแสงหลายสายเกี่ยวกระหวัด บิดงอรูปร่าง แต่ว่าไม่อาจดิ้นรน
‘ฉู่หลีหลี’ เอ่ยปากถาม “นี่คือ…อะไรกัน ข้าสำนึกตัว…ไม่ใช่ผู้มีปัญญาโง่เขลา…กลับไม่รู้จัก…พิธีผสมฟ้าขับไล่มาร ไม่เคยได้ยินชื่อพิธีกรรมนี้มาก่อน...”
พูดถึงประสบการณ์และวัยวุฒิ มารจิตเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในตัวตนที่เก่าแก่ที่สุดในโลกยุคปัจจุบัน ไม่เคยตายไม่เคยดับสูญ คงอยู่มาถึงวันนี้ ผ่านยุคบุพกาล ยุคโบราณตอนต้น ยุคโบราณตอนกลาง จวบจนยุคปัจจุบัน
แม้ในช่วงแห่งความขมุกขมัวก่อนการเบิกผ่าโลก มันยังไม่ถือกำเนิด แต่ก็เคยได้ยินเรื่องราวมากมายมาก่อน เป็นเพราะอำนาจพิเศษของมัน ความรอบรู้ของมันเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในตัวตนระดับสุดยอดที่สุดท่ามกลางยอดฝีมือระดับมหาชาลไม่กี่ตัวตน
ในฐานะหนึ่งในมารที่เก่าแก่ที่สุด แข็งแกร่งที่สุด และสุดยอดที่สุดในโลกนี้ มารจิตเคยเจอการต่อสู้นับครั้งไม่ถ้วนระหว่างวิถีมารและเส้นทางอื่นๆ ในหลายปีมานี้
ความสามารถที่หลักมรรคาอื่นๆ ใช้ทำลายเหล่ามาร มารจิตต่างรู้จัก ทว่าในวินาทีนี้ แม้แต่มันก็ยังรู้สึกแปลกหน้าต่อลูกกลมโลหะที่เปลี่ยนแปลงตรงหน้า
หลักการบางส่วนด้านใน หากแยกดูเดี่ยวๆ มารจิตสามารถเห็นถึงวิถีทาง แต่ว่าหลังจากผสานทุกอย่างเข้าด้วยกัน มันยังรู้สึกงุนงงอยู่ชั่วขณะ
“ทำให้เจ้าหัวเราะเยาะเสียแล้ว เจ้าไม่รู้จักถือว่าปกติ พิธีผสมฟ้าขับไล่มารนี้เป็นปาหี่เล็กๆ ที่หลายปีมานี้ข้าผู้แซ่เยี่ยนได้ศึกษาและคิดค้นขึ้นมาพร้อมกับภรรยาและผู้อาวุโสเฉิน” เยี่ยนจ้าวเกอใช้สองมือเปลี่ยนแปลงมุทราติดต่อกัน ไม่ได้หยุดลง “ก่อนหน้านี้จึงไม่เคยปรากฏมาก่อน พิธีผสมฟ้าขับไล่มารที่เจ้าเห็นในวันนี้เป็นพิธีแรก ขณะเดียวกันก็เป็นการใช้ครั้งแรกตั้งแต่ประวัติศาสตร์เคยมีมา”
เยี่ยนจ้าวเกอประกบมุทราสองมือไว้ด้านหน้าทรวงอกอีกครั้ง จากนั้นก็ผลักแขนสองข้างออกไปด้านหน้าพร้อมกัน “เอาไว้ป้องกันการดำรงอยู่ของเจ้าโดยเฉพาะ ได้โปรดชี้แนะด้วย”
ความเร็วในการหมุนของกลุ่มแสงแปดสิบเอ็ดสายในพิธีผสมฟ้าขับไล่มารยิ่งมายิ่งเร็ว ขณะเดียวกันแม้แต่รัศมีก็เริ่มหดเล็กลง หุบเข้าไปตรงกลาง
หมอกแสงหลายสายที่เหมือนกับโซ่ซึ่งพุ่งลงยิ่งมายิ่งมาก ยิ่งมายิ่งถี่ยิบ
ภายใต้การพัวพันจากหมอกแสง กลุ่มเมฆที่เต็มไปด้วยสีสันค่อยๆ กลายเป็นสายเมฆเบาบาง พร้อมกับระเหยหายไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี