ในความว่างเปล่าอันมืดมิด บุปผาแสงหลายสายวาดผ่านครั้งแล้วคร้้งเล่า ปราณมารแผ่พุ่ง ปั่นป่วนหมู่ดาว
รอหลังจากแสงปีศาจหลายสายนี้ออกห่างแล้วหายไป ในความว่างเปล่าที่ดำสนิทค่อยมีเงาคนสองสามสายเริ่มปรากฏขึ้น
เป็นพวกเยี่ยนจ้าวเกอ
“การศึกยังไม่จบ ทุกที่มีแต่ยอดฝีมือของแต่ละที่ผลุบๆ โผล่ๆ” นักพรตอวิ๋นเจิ้งว่า “พวกเราต้องระวังเผ่าปีศาจเป็นพิเศษ ไม่ทราบว่าตอนนี้เผิงท่องเมฆหมื่นลี้อยู่ที่ใด”
หัวหน้าเผ่านกเผิงยักษ์ปีกทอง เผิงท่องเมฆหมื่นลี้ แทบจะนับได้ว่าเป็นมหาเทวะที่มีความเร็วสูงที่สุด
ในหมู่ยอดฝีมือระดับมหาชาลทั่วทั้งจักรวาล หากเทียบแค่ความเร็วในการเคลื่อนย้ายมิติเวลาอย่างเดียว เผิงท่องเมฆหมื่นลี้เป็นตัวตนระดับสุดยอดอย่างไม่ต้องสงสัย
และปัจจุบันพวกเยี่ยนจ้าวเกอก็เพาะความแค้นล้ำลึกกับมหาเทวะเผ่าปีศาจตนนี้แล้ว
ในสงครามการคืนชีพของมารดินโบ่วเมื่อก่อนหน้า บุตรของเผิงท่องเมฆหมื่นลี้ ฝูหลัวจื่อ อนุเทวะเผ่าปีศาจเสียชีวิตลงในค่ายกลลงทัณฑ์เซียนที่พวกเยี่ยนจ้าวเกอกางขึ้น
ความเร็วของฝูหลัวจื่อเป็นภัยคุกคามอย่างใหญ่หลวงต่อพวกเยี่ยนจ้าวเกอที่ต้องการคุ้มครองสวีเฟย สือจวิน และอิ๋งอวี่เจิน
ตอนนั้นดาบกระบี่ไร้นัยต์ตา พวกเยี่ยนจ้าวเกอไม่มีทางใจกว้างปล่อยศัตรูไป
ทว่าการกำจัดฝูหลัวจื่ออย่างไม่ลังเลในตอนนั้น ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาโอหังจนไม่เห็นเผิงท่องเมฆหมื่นลี้ในสายตา เพียงแต่เรื่องบางเรื่องก็หลีกเลี่ยงได้ เรื่องบางเรื่องก็หลีกเลี่ยงไม่ได้
ตอนนั้นไม่ได้ปรานี ภายหลังจำต้องตั้งใจป้องกันอีกฝ่ายมาแก้แค้น
ตามข้อมูลที่ทราบแล้วก่อนหน้า เผิงท่องเมฆหมื่นลี้ไม่ได้เข้าร่วมสงครามที่การคืนชีพของจอมมารแห่งนพยมโลกทำให้เกิดขึ้นในครั้งนี้
โถงเซียนกับแดนสุขาวดีบัวขาวยังคงต่อสู้กันอยู่
แดนสุขาวดีตะวันตกกับเผ่าปีศาจที่แยกกันสนับสนุนทั้งสองฝ่ายก็กำลังต่อสู้กัน ไม่มีใครยอมถอยให้แก่กัน
เผิงท่องเมฆหมื่นลี้คือผู้นำทัพของเผ่าปีศาจในการต่อสู้กับแดนสุขาวดีตะวันตก
ตามปกติแล้ว นี่ต้องเป็นภาระบนไหล่
การดำรงอยู่ของมหาเทวะเผ่าปีศาจตนนี้ทำให้ศาสนาพุทธปวดศีรษะถึงขีดสุด ในสถานการณ์พิเศษ เขาคนเดียวสามารป้องกันยอดฝีมือระดับมหาชาลได้หลายคน และใช้พลังของตัวเองคนเดียวดึงดูดความสนใจของพระพุทธเจ้าจำนวนมากได้
และเป็นเพราะการดำรงอยู่ของเขา ในระดับหนึ่งแล้วแม้ปัจจุบันการต่อสู้ระหว่างขุมกำลังสองขุมกำลังจะยังคงอยู่ในสภาพสูสี ทว่าเผ่าปีศาจยึดครองสิทธิ์ในการบุกจู่โจมถึงระดับหนึ่ง ส่วนแดนสุขาวดีตะวันตกเป็นฝ่ายตั้งรับ
หากเผิงท่องเมฆหมื่นลี้ผละไปอย่างกะทันหัน เช่นนั้นสถานการณ์จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร ผู้ใดก็ยากจะคาดคิดถึง
เป็นเพราะว่าเผ่าปีศาจตรึงแดนสุขาวดีตะวันตก ดังนั้นแดนสุขาวดีบัวขาวจึงจู่โจมโถงเซียนโดยไร้ข้อกริ่งเกรงได้ รักษาความได้เปรียบ เป็นฝ่ายได้เปรียบตั้งแต่ต้นจนจบ
หากว่าแนวป้องกันปรากฏช่องโหว่ ทำให้ยอดฝีมือของศาสนาพุทธสายหลักเช่นแดนสุขาวดีตะวันตกเข้ามาในสมรภูมิระหว่างเส้นทางนอกรีตสองฝั่งได้ สถานการณ์อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
ตามปกติสมควรเป็นเช่นนี้…
กระนั้นปัญหาในตอนนี้ก็คือ เผิงท่องเมฆหมื่นลี้เสียบุตรชายไปแล้ว
เขาไม่ทราบเรื่องก็แล้วกันไป เกิดว่าได้รับข่าว เกรงว่าจะมีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้ยังมาไม่ถึง ถูกยอดฝีมือระดับเดียวกันคนอื่นๆ ขัดขวาง ความเป็นไปได้ที่ยากจะถอนตัวมาจึงมากขึ้นส่วนหนึ่ง
การถูกยอดฝีมือระดับมหาชาลเช่นนี้หมายหัว ไม่ใช่เรื่องดีอันใดจริงๆ พวกเยี่ยนจ้าวเกอจึงตามหาพวกเดียวกันที่พลัดหลงไปอย่างรีบเร่งเช่นนี้
“จากข้อมูลที่ได้มาในปัจจุบัน เผิงท่องเมฆหมื่นลี้ยังไม่ปรากฏตัวบนสมรภูมิทางด้านนี้” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าว “แต่ว่าสำหรับผู้ยิ่งใหญ่ท่านนี้ มิติไร้สิ้นสุดอันแสนยาวไกลเป็นเพียงของธรรมดาๆ แทบไม่มีระยะห่างคงอยู่”
ทว่านอกจากมหาเทวะเผ่าปีศาจตนนี้แล้ว คนที่พลัดหลงกันยังมีความเป็นไปได้ที่จะไปเจอศัตรูคนอื่นๆ ลงมือสร้างความลำบากก็ได้
การพบเจอศัตรูในสถานการณ์ที่ได้รับบาดเจ็บ ยากจะแสดงพลังออกมา เหมือนกับเสือตกบนพื้นราบ
“ตอนนี้ทุกคนต่างบาดเจ็บ ไม่อาจแยกกันเคลื่อนไหว ไม่อยางนั้นการค้นหาจะต้องเร็วกว่าเดิมมากแน่” นักพรตอวิ๋นเจิ้งนิ่วหน้ากล่าว
“มีสหายร่วมเส้นทางคนอื่นๆ ช่วยเหลือ สุดท้ายก็ยังดีอยู่บ้าง” เยี่ยนจ้าวเกอว่า
ก่อนหน้าจักรพรรดิศานติ จักรพรรดิอุรุแห่งมรกตท่องฟ้า จักรพรรดิแพรฟู่อวิ๋นฉือกับทวนพระอังคารแห่งฟ้าเหนือฟ้า ได้ออกจากจักรวาลฟ้าฟื้น มารับพวกเยี่ยนจ้าวเกอ
ต่อมาหลังจากส่งสือจวินสองแม่ลูกกลับไปยังฟ้าเหนือฟ้าในจักรวาลฟ้าฟื้น ก็ออกเดินทางอีกครั้ง ช่วยค้นหาและติดต่อกับคนที่พลัดหลง
ไป๋เทาศิษย์ของเยว่เจิ้นเป่ย นำกระบี่เปิดกำเนิดอาวุธเซียนของเขานครหยกออกเขา เฮ่อเหมี่ยนศิษย์ของนักพรตอวิ๋นเจิ้งก็นำกระบี่สำเร็จล้ำอาวุธเซียนของเขาธุลีวิญญาณ เข้าร่วมกลุ่มตามหาคนด้วย
พวกเขาไม่ได้ถูกจับตามอง ไม่มีอาการบาดเจ็บบนร่าง ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้เข้าร่วมการศึกมากเกินไป ในสถานการณ์ที่คนนอกไม่ทราบ กลับยากจะถูกกำหนดเป็นเป้าหมาย ดังนั้นจึงกระจายกันค้นหา
ทว่าการงมเข็มในความว่างเปล่าอันกว้างใหญ่ย่อมไม่ง่าย
“ตอนนี้พวกเราช้าไปบ้าง” หลังจากเดินทางได้สักพัก เยี่ยนจ้าวเกอก็เสนอ “ต่อจากนี้มิสู้ผู้อาวุโสเกาเคลื่อนไหวคนเดียว”
ถึงร่างจริงจะกลับไปพักฟื้นที่มรกตท่องฟ้าแล้ว ร่างแยกที่อยู่ที่นี่ก็ได้รับบาดเจ็บหนักเช่นกัน ทว่าถึงอย่างไรเกาชิงเสวียนก็เป็นเซียนกำเนิด
“ก็ดี” เกาชิงเสวียนเพิ่งพยักหน้า สีหน้าพลันสั่นไหว
หลังจากเงียบงันครู่หนึ่ง นางเอ่ยว่า “ทางคุนหนิงจื่อได้อะไรบางอย่างเข้าแล้ว สหายน้อยไป๋จากเขานครหยกอยู่กับเขา แต่ว่าพวกเขาคล้ายมีปัญหาบ้าง”
พอได้ยินคำว่าปัญหา พวกเยี่ยนจ้าวเกอกลับไม่หงุดหงิดแม้แต่น้อย แต่ฮึกเหิมขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี