“เอาตามที่ปรึกษากันก่อนหน้า” เกาชิงเสวียนกล่าว “พวกเจ้าไป ข้าจะออกตามหาต่อคนเดียว”
นางคนเดียวเป็นเป้าหมายค่อนข้างเล็ก เหมาะกับการเคลื่อนไหวอย่างเป็นอิสระโดยไม่มีเป้าหมาย ค้นหาร่องรอยคนอื่นๆ ต่อ
“ได้” พวกเยี่ยนจ้าวเกอก็ไม่กล่าวมากความ หลังบอกลาเกาชิงเสวียนก็ไปยังตำแหน่งที่จักรพรรดิศานติมอบให้ทันที
ในตอนที่พวกเขาเข้าใกล้จักรวาลบริเวณนั้น พลันสัมผัสได้ว่ามิติกำลังสั่นไหวอย่างรุนแรง แสดงให้เห็นว่ามีคนกำลังต่อสู้กันอยู่
พวกเยี่ยนจ้าวเกอมุ่งหน้าไป จากนั้นก็มองดูไกลๆ ในความว่างเปล่าปรากฏเมฆสีม่วงผืนหนึ่ง
เมฆสีม่วงครอบคลุมลงหลายชั้น เห็นดิน น้ำ ลม ไฟสี่ลักษณ์กลายเป็นสี่มังกร สี่พยัคฆ์ กำลังพุ่งทะยานไม่หยุด
มังกรพยัคฆ์ผนึกกำลัง ประกายแสงสีทองและสีชาดเกาะเกี่ยวและกระเพื่อม คิดจะแหวกเมฆสีม่วง
พอเห็นภาพนี้ เยี่ยนจ้าวเกอก็ทราบทันทีว่านั่นเป็นคุนหนิงจื่อแห่งมรกตท่องฟ้า
อีกด้านหนึ่ง กลับเป็นประกายกระบี่มากมายกระเพื่อมไม่หยุด
ประกายกระบี่สายหนึ่งในนี้เรืองแสงสีทองจางๆ กระบี่กระจัดกระจาย เหมือนกับมีโลกใบใหม่บัดเดี๋ยวสูญหายบัดเดี๋ยวปรากฏ
ประกายกระบี่ตัดขวางกระจัดกระจาย ปรากฏสภาพยิ่งใหญ่ของการาเปิดผ่าฟ้าดิน
สมควรเป็นไป๋เทา อดีตประมุขหรดีแห่งโลกซ้อนโลก ศิษย์ของกษัตริย์กระบี่เยว่เจิ้นเป่ยแห่งเขานครหยก
ถึงไป๋เทาไม่ได้ผลักเปิดประตูเซียนขึ้นสู่ระดับเซียน แต่ว่าฝึกฝนกระบี่หยกเบิกนภามาทั้งชีวิต ขณะนี้ยังมีกระบี่เปิดกำเนิดซึ่งเป็นอาวุธเซียนอยู่ในมือ สภาวะกระบี่ขึ้นลง อานุภาพสั่นสะท้าน ทำให้คนไม่กล้าดูแคลน
ถึงแม้กระบี่เปิดกำเนิดอยู่ในมือเขาจะไม่อาจแสดงอานุภาพทั้งหมดออกมา ทว่าคมกระบี่ไปยังที่ใดก็ยังคงเปล่งแสงระยิบระยับ
คู่ต่อสู้ของเขาก็เป็นผู้ฝึกกระบี่เช่นกัน
ถึงไป๋เทาจะมีพลังฝึกปรือไม่อ่อนแอ ทั้งมีอาวุธเซียนอยู่กับมือ แต่ว่าด้วยความเร่งรีบ กลับไม่อาจทำอะไรอีกฝ่ายได้
เป็นเพราะนั่นเป็นยอดฝีมือผู้ใช้กระบี่ที่ได้ผลักเปิดประตูเซียนแล้ว
เพียงแต่ว่า พลังศรัทธาแสงวิเศษพุ่งขึ้นฟ้า กลับเป็นเซียนจริงแท้ที่มาจากโถงเซียน
ศัตรูที่สู้กับคุนหนิงจื่อก็มาจากโถงเซียนเช่นกัน เป็นกษัตริย์เซียนลี้ลับที่ได้ฝ่าภัยพิบัติสัจพิศวงแล้วคนหนึ่ง
คุนหนิงจื่อสวมเกราะพยัคฆ์มังกรทองชาดอาวุธเซียน เมฆลมกระเพื่อมพยัคฆ์มังกรติดตามร่าง ประกายแสงสีทองชาดส่องสว่างอย่างต่อเนื่อง พลังสูงขึ้นเหมือนเรือลอยตามน้ำ ขณะโจมตีใส่ศัตรู
จนปัญญาที่บนเมฆม่วงมีฉัตรคันหนึ่งตั้งอยู่ บนฉัตรสาดแสงสีแดงหลายสายลง รวมตัวกับเมฆสีม่วง ทั้งบางทั้่งถี่ ผนึกการโจมตีของคุนหนิงจื่ออย่างแน่นหนา
‘อาวุธเซียนระดับสงบนิ่งชิ้นหนึ่ง’ เยี่ยนจ้าวเกอมงแต่ไกล เริ่มมั่นใจ
พอเห็นผู้ใช้กระบี่จากโถงเซียนที่กำลังต่อสู้กับไป๋เทาอยู่ เห็นการเปลี่ยนแปลงวิชาของอีกฝ่าย เยี่ยนจ้าวเกอก็แตะนิ้วกับริมฝีปาก ‘การสืบทอดของเขาสู่ซาน มิน่าศิษย์พี่ไป๋จึงจัดการไม่ได้…’
แม้กำลังคิดในใจ เยี่ยนจ้าวเกอก็ไม่ได้เคลื่อนไหวช้าลง เข้าสู่สนามรบของสองฝ่ายทันที
บังเอิญที่ในตอนนั้นมิติเปิดออกอีกทิศทางหนึ่ง แสงสว่างหลายสายพุ่งออกมาจากด้านใน
ผู้มาก็พุ่งไปทางจักรพรรดิศานติกับไป๋เทา
พอเห็นพลังศรัทแสงวิเศษที่เรืองรองบนร่างของพวกเขา ก็ทราบว่าเป็นคนจากโถงเซียนเช่นกัน
ทั้งหมดสามคน หนึ่งกษัตริย์สามจักรพรรดิ
ถ้าหากว่าพวกเขาเข้าร่วมสนามรบ จักรพรรดิศานติกับไป๋เทาจะมีปัญหาทันที อย่าว่าแต่ป้องกัน จะหนีจากที่นี่อย่างปลอดภัยได้หรือไม่ยังน่าสงสัย
กระนั้นในขณะเดียวกัน พวกเยี่ยนจ้าวเกอก็มาถึงแล้วเช่นกัน เข้าร่วมการต่อสู้ก่อนก้าวหนึ่ง
พอมาถึงใกล้ๆ อีกฝ่ายจึงพบพวกเยี่ยนจ้าวเกอ
ไป๋เทาที่กำลังต่อสู้กับเขายังแตกตื่น
ครั้นไป๋เทาออกกระบี่ เดิมทีคำนวณการเคลื่อนไหวและการตอบโต้ของอีกฝ่ายจึงเผื่อพลังไว้ ใช้ทั้งสมองและความอาจหาญสู้กับอีกฝ่าย
สุดท้ายอีกฝ่ายพลันหยุดนิ่งกับที่ การโจมตีของไป๋เทาเกือบพลาดเป้า แต่สุดท้ายเขาที่แตกฉานในวิชากระบี่ เก็บปล่อยได้ตามใจนึก พลันชักกระบี่เปิดกำเนิดในมือกลับมา
ตอนนี้ในสายตาของไป๋เทา คู่ต่อสู้ที่ฝึกวิชากระบี่เหมือนกันผู้นี้ เปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิงในชั่วขณะที่รางเลือน
เหมือนกับกระบี่เซียนซึ่งที่แล้วมาเปล่งประกายเย็นเยียบ เผยความคมกล้าออกมาทั้งหมด กำลังผุพังลงในพริบตาโดยไร้เค้าลางแม้แต่น้อย!
ความคมหายไป ประกายกระบี่จับฝุ่น สนิมขึ้นเกรอะกรัง เปราะบางเหลือแสน
อย่าว่าแต่กระบี่หยกเบิกนภาของเขาไป๋เทา ต่อให้คนธรรมดาออกแรงก็สามารถหักกระบี่ขึ้นสนิมตรงหน้าได้
แต่พริบตาก่อนหน้า นั่นยังเป็นกระบี่เซียนที่ฟันทำลายประตูเซียน ดุดันไม่ธรรมดาเล่มหนึ่งอยู่เลย
ไป๋เทามองเหตุการณ์นี้ ในใจเต็มไปด้วยรสชาติต่างๆ นาๆ ถึงจะดูเหมือนไร้เค้าลาง ไร้สาเหตุ แต่เขาย่อมทราบว่า ทั้งหมดนี้เป็นเยี่ยนจ้าวเกอกระทำขึ้น
สบายๆ เช่นนี้ ผ่อนคลายเช่นนี้
คิดถึงการพบหน้ากันครั้งแรกในตอนที่เขากว่างเฉิงเปิดกสำนักบนทะเลหวงเจียในเขตตะวันอาคเนย์ที่โลกซ้อนโลก ไป๋เทารู้สึกจิตใจเลอะเลือนวูบหนึ่ง
เยี่ยนจ้าวเกอในตอนนั้นแม้จะไม่ธรรมดา ปรากฏตัวขึ้นอย่างน่าตกตะลึง แต่ยังเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนคนหนึ่ง
‘ตอนนี้เพิ่งผ่านไปกี่ปีเอง?’ ไป๋เทาลอบถอนใจ ‘ยังไม่ถึงสามสิบปีกระมัง’
เวลาที่เขาไป๋เทาเลื่อนสู่ระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นประมุข เกรงว่าจะมากกว่าอายุของเยี่ยนจ้าวเกอมากแล้ว
ตอนนี้เขายังคงเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ เยี่ยนจ้าวเกอกลับฝ่าภัยพิบัจิสัจพิศวง สำเร็จระดับเซียนลี้ลับเหมือนกับเยว่เจิ้นเป่ยอาจารย์ของเขาแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี