ตำหนักแดนเซียนที่กอปรด้วยปรากฎการณ์นับหมื่นนับพัน พลันปรากฏภาพน่ากลัว
ในเสียงร้องคำรามสะท้านสวรรค์ วานรคลั่งตัวหนึ่งจับราชาบันดาลใจ ทะลวงหมู่เมฆ จากนั้นก็กระแทกเข้าไปในกลุ่มตำหนักดังโครมคราม
ปรากฏแสงสว่างขึ้นพร้อมกันบนตำหนักจำนวนมาก แสงสีทองพรั่งพรู คุ้มครองกลุ่มอาคารที่มีควันวนเวียน
ทว่าวานรดันราชาบันดาลใจเหมือนกับผลักรถตีเมือง กระแทกเข้าไปอย่างไม่เกรงใจ
แสงสีทองส่ายวูบหนึ่ง เกิดช่องว่างขึ้น วานรไม่มีความคิดหยุดเคลื่อนไหวโดยสิ้นเชิง งอศอกวูบหนึ่ง จากนั้นก็จับราชาบันดาลใจ ใช้แรงกระแทกอีกครั้ง
เสียงตูมดังขึ้น เมื่อตำหนักขนาดมโหฬารตำหนักหนึ่งถูกกระแทกกำแพงด้านหนึ่ง!
ราชาบันดาลใจหน้าคลุกฝุ่น ตะโกนขึ้นอย่างดุร้าย ขณะเดียวกันนั้นตำหนักโถงเซียนรอบๆ ต่างสั่นไหวพร้อกมัน
จากนั้นก็เป็นด้านบนพลับพลาศาลาและห้องหอที่ยิ่งใหญ่หลายแห่ง ต่างมีค่ายกลค่ายหนึ่งปรากฏขึ้นด้านบนแล้วหมุนวน
แสงสีทองเปลี่ยนแปลง ระลอกแสงสีทองบนคลื่นแสงหลายสายหายไป กลายเป็นสีสันที่คล้ายกับหยกศิลา
แสงหยกพอบังเกิด จักรวาลพลันเปลี่ยนแปลงรูปร่าง กลายเป็นพร่ามัวไม่ชัดเจน
ลวงจริงแปรเปลี่ยน เจดีย์สูงเก้าองค์โผล่ขึ้นมาพร้อมกัน หนึ่งสูงแปดต่ำ เจดีย์สูงลอยู่ตรงกลาง เจดีย์ต่ำแยกกันอยู่แปดด้าน
ภายใต้การครอบคลุมของเจดีย์สูงเก้าองค์ ธารเงินในจักรวาลเหมือนกับเคลื่อนไหวพร้อมกัน พากันเปลี่ยนตำแหน่งแล้วพุ่งเข้าไปด้านใน
วานรพลันรู้สึกว่าบนร่างเหมือนกับถูกกดด้วยน้ำหนักนับไม่ถ้วน เคลื่อนไหวลำบาก
แต่ภายใต้การเสริมพลังจากความน่าอัศจรรย์นี้ ราชาบันดาลใจพลันเปลี่ยนสภาวะอ่อนโทรม กลุ่มดาวเคลื่อนตัว เขาเหมือนปลาได้น้ำ โต้ตอบวานร
สิ่งนี้หายสิ่งนั้นเพิ่ม สภาวะจู่โจมป้องกันของสองฝ่ายถึงกับกลับตาลปัตรในพริบตานี้
“เด็กน้อยไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ ตอนนี้จะให้เจ้าได้ทราบถึงความร้ายกาจ!” ราชาบันดาลใจในที่สุดก็โล่งอก “การต่อสู้กับแดนสุขาวดีบัวขาวกำลังคับขัน ข้าถอนตัวออกมาก็เพื่อรอเจ้าส่งตัวเองเข้าหาตาข่ายโดยเฉพาะ ถึงไม่ทราบว่าเจ้าไปได้ความสามารถของวานรตัวนั้นจากที่ใด ทว่าเจ้าหลอกคนอื่นได้ ไหนเลยหลอกบรรพบุรุษมรรคาไร้ประมาณได้? มีวิธีสยบความสามารถกระจ้อยร่อยของเจ้ามาแต่แรกแล้ว!”
ราชาบันดาลใจเมื่อครู่ทิ้งค้อนสำริดเก้ากลีบ วินาทีนี้ผนึกสายน้ำในธารสวรรค์ กลายเป็นค้อนอันหนึ่งที่ถืออยู่ในมือ อานุภาพกลับเหนือกว่าเมื่อครู่
วานรอยู่ในเจดีย์เก้าองค์ พลังกลับถูกสะกด
เวลานี้ราชาบันดาลใจยกค้อนฟาดมา อานุภาพสั่นสะท้าน
“ท่านมารอข้าโดยเฉพาะหรือ” วานรยักษ์ที่แปลงมาจากร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกยกกระบองขวางออก ป้องกันค้อนของราชาบันดาลใจ
ครั้งกระโน้นเซียนสวรรค์ชั้นมหาชาลสี่คนของโถงเซียนตกตายด้วยมือของสั่วหมิงจาง มาถึงวันนี้ยังเติมตำแหน่งไม่ได้
เดิมทีจำนวนมหาชาลก็ด้อยกว่าแดนสุขาวดีบัวขาวอยู่แล้ว ตอนนี้จึงจับคอเสื้อเห็นข้อศอก
ยามนี้ยังส่งราชาบันดาลใจมา เพื่อป้องกันการมาของพวกเยี่ยนจ้าวเกอโดยเฉพาะ
อีกฝ่ายวางกับดัก รอตอนที่เยี่ยนจ้าวเกอหรือคนอื่นๆ ในสำนักเต๋ามาตามหาเฮ่อเหมี่ยนแล้วหาวิธีฆ่าทิ้ง!
เจดีย์สูงเก้าองค์นั้นพอครอบลง พลันกอปรเป็นสภาวะสะกด
เยี่ยนจ้าวเกอทอดสายตามองไป พบว่าไม่เพียงแต่มีแค่เซียนสวรรค์เส้นทางนอกรีตอย่างราชาบันดาลใจอยู่ที่นี่เท่านั้น เจดีย์วิเศษเก้าองค์ แต่ละองค์ต่างเห็นเงาคนมากมายอยู่รำไร
ในเจดีย์วิเศษองค์หนึ่งมีเซียนกำเนิดเส้นทางนอกรีตคนหนึ่ง กับเซียนลี้ลับและเซียนจริงแท้ที่จำนวนไม่เท่ากันเฝ้าอยู่ด้านใน
เซียนลี้ลับและเซียนจริงแท้ยังพอทำเนา สำหรับเโถงเซียนแล้ว เซียนกำเนิดมีจำนวนคนไม่มากเท่าไร
พวกเขาที่ยังตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบในการต่อสู้กับแดนสุขาวดีบัวขาว ครั้งนี้ถึงกับโยกคนจำนวนมากมาที่นี่ เพื่อกลุ้มรุมซุ่มสังหารเยี่ยนจ้าวเกอ!
“เจ้ายังไม่รู้ว่าสิ่งที่รอเจ้าอยู่คืออะไรกระมัง” ราชาบันดาลใจหัวเราะเสียงประหลาด กล่าว “ตอนนี้ขอดูหน่อยเถอะว่าเจ้าจะหนีไปที่ไหนได้!”
ในเสียงหัวเราะ เห็นจุดที่ค้อนสำริดเก้าปลีบกับกระบองสีทองปะทะกัน ถึงกับมีแสงหยกชั้นหนึ่งแผ่พุ่ง ไหลตามกระบองสีทอง พุ่งใส่มือสองข้างของวานรอย่างรวดเร็ว
พอถูกแสงหยกนี้ย้อมใส่ สองมือของวานรก็เหมือนกลายเป็นหยกศิลา ไม่อาจขยับได้
สีหยกเริ่มยืดขยายต่อ หมายจะย้อมทั่วร่างของวานร
“หนี? ทำไมข้าต้องหนีด้วย” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวอย่างเย็นชา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี