พระพุทธเจ้าสีน้ำเงินย่อมเป็นบุญกุศลพุทธะ ท่านมองวานรปีศาจสามตนตรงหน้า เอ่ยปากถามว่า “วันนี้มหาเทวะเสมอฟ้าสบายดีหรือ”
ขณะที่พูด แสงสว่างหลายสายทะลักออกมาจากปากของท่าน ถึงกับกลายเป็นดอกบัวหลายดอกกลางอากาศ
มีคำกล่าวว่า วาจาไพเราะดุจดั่งดอกบัว วินาทีนี้เป็นภาพอันน่าอัศจรรย์ที่เห็นได้จริงๆ
ดอกบัวหลายดอกกระจายไปกลางอากาศ ขวางตรงหน้าวานรปีศาจที่เกิดจากพวกเยี่ยนจ้าวเกอ
กายทองมหาเทวะที่เกิดจากร่างของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกนำหน้า พลิกตัวกระโดด เตรียมจะกระโจนข้ามทะเลดอกบัว
“ประสกมีโทสะเช่นนี้ มิสู้อย่าได้พบหน้า แยกย้ายไปคนละทางเถอะ” บุญกุศลพุทธะเอ่ยขึ้น
ดอกบัวดอกแล้วดอกเล่าวางขวางกลางอากาศ เยี่ยนจ้าวเกอพบว่ากายทองมหาเทวะที่ตนสร้างขึ้น ถึงกับถูกดอกบัวสกัดไว้ ไม่อาจเข้าใกล้บุญกุศลพุทธะ
ดอกบัวนั้นไม่เหมือนกับเปลี่ยนแปลงมิติเวลาตลอดเวลา แต่ว่าบิดเปลี่ยนหลักการบางอย่างของโลก เกิดประสิทธิผลอย่างในตอนนี้
พอกล่าว ‘มิสู้อย่าได้พบหน้า’ ทั้งสองฝ่ายก็ไม่เห็นกันจริงๆ
พอกล่าว ‘แยกย้ายไปคนละทาง’ พวกเยี่ยนจ้าวเกอตรงหน้าก็มีดอกสวรรค์ร่วงหล่นเกลื่อนกล่าน ถูกดอกบัวมากมายนั้นล้อมรอบ คิดโยนพวกเขาลงไปจากสวรรค์
“พุทธบุตรวาจาไพเราะนัก!” เยี่ยนจ้าวเกอถอนใจชมเชย
เรื่องที่แตกต่างกันมากที่สุดเกี่ยวกับยุคไซอิ๋วโบราณตอนกลางในโลกใบนี้ กับภาพทรงจำของตน ไม่ใช่มหาเทวกษัตริย์หยกไม่โง่งม ถึงอย่างไรนอกจากในละครแล้ว ตนก็เคยอ่านเรื่องราวในนิยายเล่มอื่นๆ มาก่อน
ส่วนที่แตกต่างที่สุดอยู่ที่ ‘พระถัง’ ในโลกใบนี้ เป็นพระอาจารย์ซำจั๋งพุทธบุตรที่ก่อนบุญกุศลพุทธะจะกลายเป็นพระพุทธะ มีวิชาฝีมือและการฝึกปรือเหี้ยมหาญอย่างแท้จริง ไม่ใช่ตัวไร้ประโยชน์ในภาพความทรงจำของเยี่ยนจ้าวเกอ
ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่พระถังกล้ามเป็นมัดๆ ที่พูดว่า ‘หงอคงโยมถอยไป ให้อาตมาเอง’ อย่างในมุกตลกร้าย แต่สามารถถูกยกย่องเป็นพระอาจารย์ซำจั๋งแห่งพุทธบุตรได้ ก็เป็นคนรุ่นหลังผู้โดดเด่นที่สุดของศาสนาพุทธในสมัยนั้นจริงๆ
ความน่าอัศจรรย์ในหลักพระธรรมของวาจาไพเราะดุจดอกบัวของท่าน แม้แต่เซียนกับมารต่างหลบหลีก
ไม่ใช่กล่าวพร่ำพิไรที่เหมือนคำพูดล้อเล่น แต่คล้ายวาจาพอเปล่งกฎเกณฑ์ก็ติดตามอย่างแท้จริง สามารถพูดจนคนตาย หากเจอศัตรูในระดับเดียวกัน ถึงขั้นมีฝีปากไร้เทียมทาญโดยแท้
“แต่ว่าต่อให้ยามปกติจะพูดดี คนว่ายน้ำก็จมน้ำตายได้เช่นกัน พระภิกษุท่านระวังตนจะตกนรกถอนลิ้น” วานรปีศาจที่เกิดจากร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกส่งเสียงกู่ร้อง จากนั้นวูบไหวร่างอย่างต่อเนื่อง
กายปีศาจขนาดใหญ่โตเหมือนกับเปลี่ยนเป็นมายาพร่าเลือน ยากจะบรรยายลักษณะ ไม่อาจใช้หลักการทั่วไปมาทำความเข้าใจได้
ดอกบัวหลายดอกที่ต้องการปัดเขาลงหมุนติ้วๆ ก่อนจะเฉียดผ่านร่างเขา กระจายออกไปเอง
วานรปีศาจที่สวีเฟยกับพ่านพ่านสร้างขึ้นก็เคลื่อนไหวอย่างเดียวกัน
วานรยักษ์สามตัวกระโจนหลบหลีกดอกบัวมากมาย
แต่ว่าในตอนนั้นเอง ยุทธวิชัยพุทธะก็ลงมืออีกครั้ง
ถึงแม้ว่าปราณกำเนิดจะยังไม่ฟื้นฟูโดยสมบูรณ์ ทว่าในฐานะคนบนชั้นมหาชาล การลงมือในตอนนี้ยังคงมีพลังกล้าแข็ง ในสถานการณ์หนึ่งต่อหนึ่ง สามารถสะกดกายทองมหาเทวะร่างหนึ่งของพวกเยี่ยนจ้าวเกอได้
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ไม่ต้องให้ท่านใช้หนึ่งสู้สาม เพียงก่อกวนวานรปีศาจสามตน ทำให้พวกเยี่ยนจ้าวเกอต้องแบ่งแยกจิตใจ จากนั้นก็ให้บุญกุศลพุทธะเปล่งเสียง
ราชาบันดาลใจคอยรบกวนอยู่ด้านข้าง ขณะเดียวกันเขายังทดลองฟื้นฟูพิธีกรรมบนพื้นที่ของโถงเซียนที่ถูกทำลายไป หมายจะสร้างความได้เปรียบด้านชัยภูมิใหม่ เพื่อกักขังพวกเยี่ยนจ้าวเกอ จับเขาไว้บนโถงเซียน
แสงหยกหลายสายสว่างขึ้นอีกครา กลายเป็นสิ่งที่ดูเหมือนกับกรงขัง
วานรปีศาจร่างกายเชื่องช้าลง ยุทธวิชัยพุทธะขยับเข้ามา โอบแขน จับวานรปีศาจสามตนไว้พร้อมกัน
บุญกุศลพุทธะเปล่งเสียงสรรเสริญคุณ “ประสกอย่าได้ขยับแล้ว”
คำกล่าวนี้พอเปล่งออกมา ดอกบัวหลายดอกวนเวียนเบียดเสียด วานรปีศาจสามตนพลันรู้สึกว่าร่างกายหนักอึ้งกว่าเดิม บนร่างเหมือนเพิ่มเชือกและโซ่ไร้สิ้นสุด
“จงยืด!”
“จงยืด!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี