ถ้ำเมฆทองบนเขาน้ำพุหยก ว่ากันว่าเป็นนิวาสสถานที่บำเพ็ญของอวี้ติ่งจินหยิน
สถานที่นี้ใช้ ‘น้ำพุหยก’ เป็นชื่อ เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะไม่ใช่ฝีมือของตัวอวี้ติ่งจินหยิน แต่เป็นผู้สืบทอดของเขาตั้งขึ้น
เยี่ยนจ้าวเกอยืนเงียบๆ อยู่ด้านข้างเยี่ยนตี๋ มองดูคนทั้งสามที่อยู่ตรงหน้าด้วยความสนใจ
เซียนลี้ลับคนหนึ่ง เซียนจริงแท้สองคน
ถ้าหากนี่อยู่ในสำนักหนึ่ง เช่นนั้นสำหรับสำนักเต๋าสายหลักหลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ก็เรียกได้ว่าโดดเด่น
ปัจจุบันฟ้าเหนือฟ้ายิ่งใหญ่แล้ว แต่ก็เป็นเพราะวาสนาและการทุ่มเทในหลายปีมานี้
โลกซ้อนโลกกับฟ้าท้องมรกตเก็บสะสมทรัพย์สมบัติมาหลายปี ครั้งกระโน้นเก็บสะสมได้ไม่เท่าไร
แต่ถ้าโลกน้ำพุหยกใบนี้ผ่านวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ได้อย่างปลอดภัย วัตถุมากมายต่างมีพื้นฐาน ไม่ต้องเริ่มใหม่ตั้งแต่สร้างบ้านด้วยมือเปล่า เช่นนั้นจะมีทรัพย์สมบัติอยู่บ้างกลับถือว่าปกติ
สิ่งที่ทำให้เยี่ยนจ้าวเกอสนใจก็คือ ในตอนที่อีกฝ่ายได้ยินเยี่ยนตี๋บอกชื่อแซ่ของตัวเอง ก็มีการเคลื่อนไหวปกติอยู่บ้าง
“เราพ่อลูกมาจากภายนอกจริงๆ” เยี่ยนตี๋ตอบตรงไปตรงมา
คนคนหนึ่งด้านหลังนักพรตชิงจางอดถามไม่ได้ “พวกท่านเข้ามาได้อย่างไร”
ไม่รอเยี่ยนจ้าวเกอกับเยี่ยนตี๋ตอบ นักพรตชิงจางกวาดมองคนผู้นั้น “อย่าได้เสียมารยาทต่อแขก”
“เป็นศิษย์วู่วามไป” นักพรตหนุ่มวัยกลางคนผู้นั้นพอฟัง ปั้นสีหน้าจริงจัง ประสานมือคำนับพวกเยี่ยนจ้าวเกอกับเยี่ยนตี๋ “ข้าจ้าวเจิน คำนับสหายร่วมเส้นทางสองท่าน”
“จ้าวเจินเป็นศิษย์ของข้า” นักพรตชิงจางยามนี้แนะนำอีกคนหนึ่งด้านข้าง “ท่านผู้นี้คือเหยาอวิ๋นเฉิง สหายร่วมเส้นทางเหยาแห่งหุบเขาชีวาม่วงบนเขาคลื่นสูง”
“สวัสดีสหายร่วมเส้นทางสองท่าน เหยาอวิ๋นเฉิงขอคารวะ” รูปลักษณะภายนอกของคนผู้นี้กลับเป็นคนหนุ่ม ตอนนี้พิจารณาพวกเยี่ยนจ้าวเกออย่างละเอียดเช่นกัน
เยี่ยนจ้าวเกอกับเยี่ยนตี๋มองออกว่า คนสามคนตรงหน้า มาจากสองสำนัก
ทว่าพอพิจารณาว่าที่นี่เกี่ยวข้องกับอวี้ติ่งจินหยิน บางทีหากสืบสาวการสืบทอดของสามคนที่อยู่ตรงหน้าไปถึงต้นตอ ต่างก็เป็นสายสืบทอดของอวี้ติ่งจินหยิน เพียงแต่แตกกิ่งก้านสาขาเท่านั้น
“สหายร่วมเส้นทางสามท่าน เมื่อครู่ได้ยินข้าผู้แซ่เยี่ยนเล่าความเป็นมา คล้ายมีคำพูดต้องการกล่าว” หลังจากเยี่ยนตี๋ทักทายพวกเขา ก็ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธเรื่องที่นักพรตจ้าวเจินถามว่าพวกตนสองพ่อลูกเข้ามาได้อย่างไร แต่กลับถามว่า “ข้าผู้แซ่เยี่ยนกับทั้งสามท่านไม่เคยรู้จักกัน ขณะนี้สมควรเจอกันเป็นครั้งแรก ไฉนสามท่านคล้ายเคยได้ยินนามธรรมดาของข้าผู้แซ่เยี่ยนมาก่อน”
นักพรตชิงจางมองเยี่ยนตี๋อย่างล้ำลึก “ข้ากับพวกท่านพ่อลูกย่อมเพิ่งพบหน้ากันเป็นครั้งแรก แต่ชื่อต้องห้ามของสหายร่วมเส้นทางเยี่ยนตี๋ท่าน ทำให้ข้านึกถึงคนรู้จักสองคน ศิษย์กับสหายร่วมเส้นทางเหยาเคยได้ยินมา ดังนั้นเมื่อครู่อาจมีจุดที่เสียมารยาท ขอให้พวกท่านพ่อลูกอย่าถือสา”
‘ชื่อต้องห้ามของท่านพ่อ…’ เยี่ยนจ้าวเกอสีหน้าไร้อารมณ์ กล่าวในใจว่านึกไว้แล้ว
ชื่อของเยี่ยนตี๋มาจากการผสมแซ่ของเยี่ยนซิงถางผู้เป็นบิดา และตี๋ชิงเหลียนผู้เป็นมารดา
ถ้าหากว่าเยี่ยนซิงถางสองสามีภรรยาอยู่บนโลกน้ำพุหยกจริงๆ และรู้จักกับพวกนักพรตชิงจาง เช่นนั้นจะเกิดความคิดเชื่อมโยงเพราะเรื่องนี้ก็ถือว่าปกติ
คนอื่นๆ ยังพอว่า เยี่ยนตี๋ เยี่ยนจ้าวเกอล้วนเป็นผู้มาจากภายนอก ไม่ใช่ผู้อยู่อาศัยดั้งเดิมของโลกน้ำพุหยกใบนี้เหมือนกับเยี่ยนซิงถางและตี๋ชิงเหลียนในตอนนั้น
จุดร่วมกันนี้ไม่อยากเชื่อมโยงยังยากเย็น
เพียงแต่เป็นเพราะตอนนั้นเยี่ยนตี๋ตั้งครรภ์ในเมฆแปลงกำเนิดสองพันกว่าปี ใกล้ชิดธรรมชาติ เกิดขึ้นมาเอง กลับค่อยๆ เจือจางการสืบทอดทางสายเลือด ดังนั้นมีความแตกต่างกับเยี่ยนซิงถางสามีภรรยาในด้านลักษณะเฉพาะของรูปร่างหน้าตาค่อนข้างมาก
นี่ทำให้พวกนักพรตชิงจางไม่แน่ใจอยู่บ้าง
เพียงแต่บังเอิญเกินไปจริงๆ ทำให้คนทั้งสามยากจะไม่มีความคิดในใจ
“นามของข้าผู้แซ่เยี่ยนไม่มีความเป็นมาพิเศษ” เยี่ยนตี๋พูดตรงไปตรงมา “มารดาแซ่ตี๋ เป็นชื่อของข้า จะว่าไปไม่ได้หลีกเลี่ยงคำต้องห้าม กลับทำให้สหายร่วมเส้นทางสามท่านหัวเราะเยาะแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี