พอเห็นเยี่ยนจ้าวเกอดิ้นหลุดจากวงล้อมของโลกีย์วิสัยบนโลกมนุษย์ เหมือนกับเซียนผู้ถูกเนรเทศกลับสู่สวรรค์ชั้นเก้า ฉวีซู หวังก่วน เทวกษัตริย์เภรีต่างขมวดคิ้ว
“วิชากระบี่นี้…”
ถึงแม้ยอดฝีมือระดับมหาชาลทั้งหลายจะคอยระวังกระบี่เนรเทศเซียนของเยี่ยนจ้าวเกอ แต่ว่าใคร่ครวญถึงผลกระทบจากวิชากระบี่นี้มากกว่า ไม่ใช่อานุภาพอย่างในตอนนี้
มาตรแม้นกระบี่เนรเทศเซียนจะแข็งแกร่ง ตอนนี้เยี่ยนจ้าวเกอมีพลังฝึกปรือระดับเซียนลี้ลับ ก็ไม่อาจขับไล่พวกเขาที่อยู่บนระดับมหาชาลได้
ที่หลุดจากโลกมนุษย์ซึ่งกระบี่พุทธะแปลงกายได้ เป็นเพราะว่าสภาพในปัจจุบันของกระบี่พุทธะมีความพิเศษ กล่าวในระดับหนึ่งคือ สูญเสียความน่าอัศจรรย์ของยอดฝีมือชั้นมหาชาล กระบี่เนรเทศเซียนจึงเล็งเป้าหมายไปที่สัจธรรมในการแปลงวิถีเป็นโลกมนุษย์ของกระบี่พุทธะได้
แต่เพียงทำให้เขาหลุดออกจากการบกวนโดยโลกีย์วิสัยบนโลกมนุษย์ หากทำอะไรรากฐานของกระบี่พุทธะไม่ได้
เยี่ยนจ้าวเกอย่อมเข้าใจเรื่องนี้ดีกว่าคนผู้ใด เป้าหมายของเขาที่แล้วมาจึงไม่ใช่ฉวีซูกับหวังก่วน
ประกายกระบี่ยิ่งใหญ่ซัดโหม เป้าหมายกลับเป็นซากสังขารของอวี้ติ่งจินหยินที่ไม่เคยมีผู้ใดเฝ้ามอง!
ตอนอวี้ติ่งจินหยินมีชีวิต เป็นสุดยอดผู้ฝึกกระบี่ที่มีจำนวนจำกัดในสำนักเต๋า หรือแม้แต่ประวัติศาสตร์ทั้งหมด
แต่ไม่ว่าจะเป็นพวกกระบี่พุทธะหรือฉวีซูล้วนมองออก ว่าผู้ยิ่งใหญ่แห่งสายหยกพิสุทธิ์ในวันวานผู้นี้ปัจจุบันได้ตกตายไปแล้ว ซากสังขารของเขาไม่ได้ทิ้งกลไกอะไรเอาไว้
ที่กระบี่พุทธะถูกซากสังขารอวี้ติ่งกับกระบี่ลวงเซียนผนึก เป็นผลลัพธ์จากการที่เยี่ยนซิงถางกับตี๋ชิงเหลียนเซ่นสรวงเลือด
ดังนั้นแม้นซากสังขารของอวี้ติ่งจะดูเหมือนแฝงความน่าอัศจรรย์ แต่ว่าสำหรับพวกฉวีซูและหวังก่วน ไม่จำเป็นต้องเพ่งความสนใจ ความสำคัญกับการคุกคามด้อยกว่ากระบี่ลวงเซียนมาก
พวกเขาป้องกันพวกเยี่ยนจ้าวเกอมีความคิดเซ่นสรวงเลือด ระวังตัวในที่ลับ
ทว่าตอนนี้เยี่ยนจ้าวเกอฟันกระบี่เนรเทศเซียนใส่ซากสังขารอวี้ติ่ง กลับอยู่เหนือความคาดหมายของพวกเขา
เทวกษัตริย์เภรีตอนแรกตบฝ่ามือลงด้านล่าง ดูเหมือนเล็งเป้าหมายที่พวกเยี่ยนจ้าวเกอ ความจริงแฝงความคิดรับมือกระบี่พุทธะและฉวีซูสองศิษย์อาจารย์
ทว่าขณะนี้ เขารวบพลังฝ่ามืออย่างฉับพลัน ทะยานดุจดั่งมังกร พุ่งเข้าใส่เยี่ยนจ้าวเกอกับซากสังขารอวี้ติ่งซึ่งก่อนหน้าเขาไม่ได้จดจำใส่ใจ
ก่อนหน้านี้คิดทำตัวเป็นชาวประมงได้ประโยชน์ หาโอกาสรับมือฉวีซูศิษย์อาจารย์กับพวกเยี่ยนจ้าวเกอพร้อมกัน ตอนนี้ละทิ้งหมดสิ้น จัดการการเปลี่ยนแปลงที่อยู่เหนือความคาดหมาย ไม่อยู่ในการควบคุมของตัวเองก่อน
เสียงกลองตึงตังดังขึ้นตามการลงมือของเทวกษัตริย์เภรี กลิ่นอายอันน่ากลัวเหมือนกับภูเขาไท่ซานกดทับศีรษะ โจมตีใส่เยี่ยนจ้าวเกอกับซากสังขารอวี้ติ่ง
แทบเป็นในพริบตาเดียวกัน เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกว่าการหายใจติดขัด ร่างที่เพิ่งหลุดจากวิถีมนุษย์ซึ่งเกิดจากกระบี่พุทธะ ก็เปลี่ยนเป็นแข็งทื่อชาด้านอีกรอบ
ถึงเทวกษัตริย์เภรีจะเป็นมหาชาลเส้นทางนอกรีต พลังสู้พวกฉวีซู หวังก่วน และกระบี่พุทธะไม่ได้ แต่ก็เป็นคนบนมหาชาล สุดที่เซียนลี้ลับสักคนจะรับมือได้ด้วยตัวคนเดียว
พลังของเขายังไม่ทันสัมผัสจริงๆ ประกายกระบี่ของเยี่ยนจ้าวเกอที่ฟันเข้าใส่ซากสังขารอวี้ติ่งก็มีสภาพแตกกระจาย
นักพรตจ้าวเจินเห็นดังนั้นก็หัวเราะฮ่าๆ “ในที่สุดท่านก็ยังต้องตกตายเหมือนกับข้า!”
ทว่าทันใดนั้น วานรปีศาจขนาดมหึมาที่ถูกโลกีย์วิสัยบนโลกมนุษย์ห้อมล้อม พลันเงยหน้าส่งเสียงกู่ร้อง
ในเสียงกู่ร้อง วานรปีศาจตนนี้เอียงศีรษะ กระบองท่อนหนึ่งลอยออกมาจากด้านใน
กระบองเล็กขยายใหญ่ตามลม พริบตาเดียวก็กลายเป็นกระบองสารพัดนึกขนาดมหึมา!
ไม่ใช่ภาพลวงที่เกิดจากพลังของเขา แต่เป็นกระบองสารพัดนึกของจริง
เยี่ยนจ้าวเกออาละวาดบนโถงเซียน กายทองมหาเทวะสามร่างรวมกันเป็นหนึ่ง แสดงร่างที่แท้จริงของมหาเทวะเสมอฟ้า กดดันให้ยุทธวิชัยพุทธะต้องแสดงกายปีศาจ หยิบของวิเศษชิ้นนี้ขึ้นมาสู้ศัตรู
สุดท้ายยุทธวิชัยพุทธะกับบุญกุศลพุทธะถอยหนีได้อย่างปลอดภัย แต่ว่ากระบองสารพัดนึกหรือเหล็กวิเศษค้ำทะเลที่เป็นของมหาเทวะเสมอฟ้าตกมาอยู่ในมือของเยี่ยนจ้าวเกอ
ครั้งนี้พอลงมือ ข้างเยี่ยนจ้าวเกอแม้มีแค่พ่านพ่านติดตาม ทว่ากระบองสารพัดนึกกลับถูกกายทองมหาเทวะร่างนี้นำติดตัวมาด้วย
“นำมายังทางนี้ เช่นนั้นหมายความว่าทางเทวกษัตริย์ไท่อี้ผู้ช่วยให้รอดเป็นหอกลวงแล้ว?” หวังก่วนส่ายหน้า พูดกับฉวีซู “พูดเรื่องอื่นไม่มีประโยชน์ ขวางเขาสักพัก อย่างมากสุดเขาก็ต้านได้ไม่กี่ชั่วลมหายใจ”
ขณะที่พูด ในมือหวังก่วนเพิ่มคันฉ่องคันหนึ่ง แสงกระจกสาดใส่วานรปีศาจที่ชูกระบองสารพัดนึกขึ้น
ฉวีซูเห็นกระบี่พุทธะอาจารย์ของตัวเองกลายเป็นเป้าหมายในการโจมตีหลักของวานรปีศาจ จึงไม่ถอยหนี ฟันลงหนึ่งกระบี่
ยอดฝีมือชั้นมหาชาลระดับสุดสองคนของเส้นทางนอกรีตในยุคสมัยใหม่หลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ ร่วมมือกันเป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดมา
ขณะเดียวกัน กระบี่พุทธะที่เผชิญหน้ากับกระบองสารพัดนึกโดยตรง ปลุกปลอบความกล้าหาญ ผลักดันพลังของวิถีมนุษย์ที่ตนแปลงกายมาถึงระดับสูงสุด
ยอดฝีมือชั้นมหาชาลสามคนร่วมมือกัน ไม่ได้ใช้แข็งปะทะแข็งกับกายทองมหาเทวะที่ถือกระบองสารพัดนึกไว้ในมือ แต่ว่าดำเนินแผนการก่อนหน้า แสดงโลกีย์วิสัยบนโลกมนุษย์ เพื่อลดทอนพลังและกักขังศัตรู
เมื่อเป็นแบบนี้ก็สามารถป้องกันไม่ให้เฟิงอวิ๋นเซิงกับเกาชิงเสวียนหลุดออกมาได้เช่นกัน
ไม่อย่างนั้นพวกเขาสามคนที่รวมมือกันเผชิญกับวานรปีศาจซึ่งมีกระบองสารพัดนึกอยู่ในมือก็มีความเสี่ยงมากมายอยู่แล้ว ไหนเลยยังมีเวลาไปสนใจศัตรูที่เหลือ
ความคิดหลักของพวกเขาในตอนนี้คือต้องถ่วงเวลา
การแยกแยะของหวังก่วนไม่ผิดพลาด การควบคุมกระบองสารพัดนึกทำให้เวลาที่พ่านพ่านแสดงกายทองมหาเทวะหดสั้นลงมาก หนำซ้ำหลังจากเสร็จเรื่องแล้วการฟื้นฟูลมปราณจะเชื่องช้า จึงระวังการใช้กระบวนท่านี้เป็นอย่างยิ่ง
ยอดฝีมือเส้นทางนอกรีตหลายคนขอแค่อดทนจนพ่านพ่านพลังหมดได้ เรื่องราวก็ยังมีการโอกาสพลิกเปลี่ยน
แต่ตอนนี้พวกเขากลับสนใจเยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้
เยี่ยนจ้าวเกอเยือกเย็นเหมือนเดิม ใช้มือบีบนักพรตจ้าวเจินกับเหยาอวิ๋นเฉิงที่อ้าปากตาค้างจนตาย อีกมือหนึ่งเคลื่อนไหวก่อน ฟันกระบี่เนรเทศเซียนใส่ซากสังขารอวี้ติ่ง
………………..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี