บทที่ 1546 สู้กับกฎธรรมชาติอันโหดร้าย – ตอนที่ต้องอ่านของ ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี
ตอนนี้ของ ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายต่างโลกทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1546 สู้กับกฎธรรมชาติอันโหดร้าย จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ตอนที่เนี่ยจิงเสินยังอยู่ ไม่ได้ส่งผลต่อการรับช่วงเขานครหยกของไป๋เทา เนี่ยจิงเสินพอไม่อยู่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
แต่ว่าสุดท้ายไป๋เทาก็ออกไปตั้งรกรากบนแคว้นประจิมอย่างเหนือความคาดหมายของทุกคน
สาเหตุที่แท้จริงเป็นอย่างไร เกรงว่าจะมีคนที่อยู่ในเหตุการณ์เท่านั้นที่ทราบ
เรื่องที่คนอื่นๆ เห็นได้ก็คือ หลังจากที่ไป๋เทาสนทนาสั้นๆ กับเยว่เจิ้นเปยอาจารย์ผู้มีพระคุณ ก็กราบรลาผู้เป็นอาจารย์ วางมือจากเขานครหยก
เนื้อหาการสนทนาจนถึงทุกวันนี้ยังไม่มีคนที่สามทราบ กลายเป็นปริศนาไม่เล็กไม่ใหญ่อย่างหนึ่งหลังจากฟ้าเหนือฟ้าถูกบุกเบิก
ด้านในเขากว่างเฉิงก็มีการวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นาๆ
การคาดเดาส่วนใหญ่คือ ไป๋เทาอาจจะทำข้อผิดพลาดอะไรสักอย่าง ดังนั้นความเป็นไปได้ที่จะรับช่วงต่อเขานครหยกจึงหายไป เพียงแต่ไม่ต้องการสาวไส้ให้กากิน การจัดการภายในของเขานครหยกมิได้บ่งบอกรายละเอียดต่อสาธารณะ
นี่เป็นการคาดเดาของคนส่วนใหญ่บนฟ้าเหนือฟ้า
นอกจากนี้ยังมีคนคิดว่า เป็นเพราะเนี่ยจิงเสินมาทีหลังกลับแซงหน้าไป ผงาดขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ได้ทำลายความมั่นใจของไป๋เทาไม่มากก็น้อย
แม้ปัจจุบันเนี่ยจิงเสินจะไม่อยู่แล้ว ไป๋เทายังคงสำนึกตัวว่าสู้ไม่ได้
หรือในทางตรงกันข้าม เป็นเพราะหวังว่าสามารออกจากเงามืดในอดีต ดังนั้นเขาจึงหยุดความคิดในวันวาน กำหนดเป้าหมายในชีวิตของตัวเองและฐานหินของมรรคากระบี่เสียใหม่
ถึงเขากว่างเฉิงจะมีความสัมพันธ์แนบแน่นกับเขานครหยก โดยเฉพาะเขาโถงทอง แต่ก็มิได้ทราบถึงเรื่องนี้เช่นกัน ได้แต่คาดเดา วิพากษ์วิจารณ์ในที่ลับ
แต่นี่ไม่ส่งผลกระทบต่อการไปมาหาสู่ระหว่างทั่วทั้งเขากว่างเฉิงกับไป๋เทา
ตอนนี้สองฝ่ายเจอกัน สวีเฟยกับไป๋เทาก็คารวะกันก่อน
ด้านหลังไป๋เทาติดตามไว้ด้วยศิษย์ในสำนักของเขา รวมถึงชนชั้นผู้นำของขุมกำลังอื่นๆ บนแคว้นประะจิมแห่งฟ้าเหนือฟ้า ต่างเข้ามาทักทายสวีเฟยเจ้าสำนักคนปัจจุบันของเขากว่างเฉิง
หลังจากคำนับคารวะกันเสร็จ สองฝ่ายก็ร่วมทางเข้าไปในตำหนักใหญ่ด้วยกัน
ในตำหนักมีคนไม่น้อยมาถึงแล้ว ศิษย์เขาโถงทองต้อนรับ พากันนั่งลง รอคอยการเริ่มพิธีเงียบๆ
ไป๋เทากวาดมองรอบๆ เห็นหวังผู่สหายร่วมสำนักแห่งเขานครหยก เป็นตัวแทนเยว่เจิ้นเป่ยกษัตริย์กระบี่มาเข้าร่วมพิธี
สองฝ่ายพบหน้า ย่อมรื้อฟื้นความหลังกัน
“เจ้ากำลังจะเลื่อนระดับแล้ว” ไป๋เทามองหวังผู่ กล่าวอย่างสะท้อนใจ
“ยังขาดอีกเล็กน้อย แต่ว่าจากจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้าถึงขั้นสิบ ไม่เหมือนกับจากมนุษย์เซียนสู่เซียนจริงแท้ที่ต้องฝ่าภัยพิบัติมนุษย์เซียน อย่างน้อยก็ไม่มีความเสี่ยง” หวังผู่ส่ายหน้าเล็กน้อย มองดูไป๋เทา อยากพูดอะไรแต่หยุดไว้
ไป๋เทากลับมองเห็นความหมายในแววตาของเขา ตอบอย่างสงบนิ่ง “ข้ายังไม่ได้ มั่นใจไม่ถึงห้าส่วน”
“ท่านยังเยาว์ ไม่เป็นไร” หวังผู่ว่า
ไป๋เทาหัวเราะ “ผ่านด่านนี้ไม่ได้ ร้อยปีพันปีก็ไม่มีข้อแตกต่าง”
หากพูดถึงอายุขัยที่ผู้เข้มแข็งในชั้นสูงสุดของจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ควรจะมี ไป๋เทาย่อมยังนับว่าอายุน้อย
ในประมุขทั้งสิบบนโลกซ้อนโลกเมื่อครั้งกระโน้น นอกจากเฉินกานหวาแล้ว เขากับเลี่ยนจู่หลินประมุขพายัพอายุน้อยที่สุด
แต่จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นประมุขที่ติดตรงนี้ สุดท้ายอายุขัยมุ่งสู่จุดสิ้นสุดก็ยังผลักเปิดประตูเซียนไม่ได้ หรือว่าเสี่ยงอันตรายฝ่าภัยพิบัติมนุษย์เซียนหากตกตาย ตั้งแต่อดีตเป็นต้นมาก็มีอยู่ไม่น้อย
โลกซ้อนโลกในวันนั้นนอกจากหวังเจิ้งเฉิงประมุขปฐวีแล้ว ตำแหน่งอื่นๆ ในประมุขทั้งสิบล้วนมีการสับเปลี่ยนไม่ต่ำกว่าหนึ่งรอบ
ผู้ที่เสียชีวิตเพราะทำศึกความจริงยังน้อยกว่าคนที่อายุขัยสิ้นสุดเสียอีก
หวังผู่ได้ยินก็พยักหน้าเล็กน้อย ไม่ได้พูดมาก
จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นประมุขมีอายุขัยต่ำกว่าเซียนจริงแท้มาก ส่วนจอมยุทธ์ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้าที่ต่ำกว่าระดับประมุข ก็มีอายุขัยต่ำกว่าประมุขในหมู่คนเช่นกัน
คนที่ติดอยู่ด่านนี้มีอยู่ไม่น้อย
“ข้า ศิษย์พี่ไป๋ พี่ร่วมเส้นทางหวังเข้าไปพบเจ้าสำนักเฉาด้วยกัน” สวียเฟยหันมาพูด
เฟิงม่อหยางกับจอมยุทธ์กว่างเฉิงคนอื่นๆ ต่างพยักหน้าคารวะ ใช้สายตาส่งพวกสวีเฟยเดินไป
รอจนพวกสวีเฟยเข้าไปในห้องสงบใจ ก็เห็นด้านในนอกจากเฉาเจี๋ยแล้ว ยังนั่งไว้ด้วยคนหลายคน
คนหนุ่มคนหนึ่งในนี้มิใช่เยี่ยนจ้าวเกอแล้วจะเป็นผู้ใด?
“ศิษย์พี่สวี พวกท่านมาสายไปเล็กน้อย” เยี่ยนจ้าวเกอพบหน้า ก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม
สวีเฟยอดยิ้มขึ้นพลางส่ายหน้าไม่ได้ “จัดการเรื่องราวในสำนัก เลยสายไปเล็กน้อย”
เขาประสานมือให้เฉาเจี๋ย “ขออภัยผู้อาวุโสด้วย”
“ไม่เป็นไร เวลายังเช้าอยู่” เฉาเจียย่อมไม่ถือสา
สวีเฟยรู้แต่แรกแล้วว่าเยี่ยนจ้าวเกอมาที่นี่ ด้านหนึ่งเพื่อแสดงความยินดีกับเฉาเจี๋ย ด้านหนึ่งคือมีเรื่องปรึกษา
แน่นอนว่าพิธีต่อจากนี้เยี่ยนจ้าวเกอจะไม่เผยโฉม เพื่อไม่ให้แขกเด่นก่วาเจ้าภาพ ดังนั้นจึงมาพบหน้าที่นี่อย่างลับๆ
คนบนที่นั่งนอกจากเยี่ยนจ้าวเกอ ยังมีฟู่อวิ๋นฉือจักรพรรดิแพร หลิวเจิงกู่ที่ผลักเปิดประตูเซียนเร็วกว่าเฉาเจี๋ย รวมถึงเกาเสวี่ยพอที่มาจากมรกตท่องฟ้า
ไป๋เทากับหวังผู่ต่างทราบอยู่แล้ว คารวะพวกเยี่ยนจ้าวเกอด้วยสีหน้าเป็นปรกติ
หลังจากทุกคนพากันนั่งแล้ว ก็ดำเนินการสนทนาก่อนหน้านี้ต่อ เยี่ยนจ้าวเกอมองเฉาเจี๋ย “ผู้อาวุโส ข้าทราบว่าสายของท่านเป็นผู้สืบทอดสายเอกพิสุทธิ์ แต่เกี่ยวกับบูรพาจารย์เทวกษัตริย์ประพฤติเต๋า ทางเขาโถงทองไม่มีเบาะแสเลยหรือ?”
ชนชาวโลกล้วนทราบว่า สายเขาโถงทองเป็นผู้สืบทอดสายเอกพิสุทธิ์ ที่ใช้ชื่อสำนักและที่อยู่เหมือนกับถ้ำหยกเขาโถงทองอันเป็นนิวาสสถานที่บำเพ็ญของเทวกษัตริย์ประพฤติเต๋าผู้ยิ่งใหญ่แหงสายหยกพิสุทธิ์ในตำนานถือเป็นความบังเอิญ
แต่ว่าตอนนี้เยี่ยนจ้าวเกอต้องการยืนยันอีกครั้ง ไม่ปล่อยผ่านความเป็นไปได้ใดๆ
ถึงอย่างไรในยุคสถาปนาเทพเจ้าโบราณตอนต้น หลังจากค่ายกลลงทัณฑ์เซียนพังทลาย กระบี่สังหารเซียนหนึ่งในสี่กระบี่ลงทัณฑ์เซียนก็ถูกเทวกษัตริย์ประพฤติเต๋าชิงไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี