บนรูปสลักหยกแตกออกเป็นร่องแยก จากนั้นมีแสงพิสุทธิ์หลาย ชั้นพรั่งพรูจากในร่องแตกออกไปด้านนอก
แสงพิสุทธิ์ไร้สิ้นสุดไร้ประมาณส่องสว่างมหาจักรวาล
ธรรมชาติฟ้าดินทั้งหมดขณะนี้เหมือนถูกย้อมด้วยแสงสว่างที่เจิด จ้าและบริสุทธิ์ชั้นหนึ่ง
ไม่เพียงแต่มหาธรรมชาติแห่งนี้เท่านั้น ธรรมชาติใหม่ที่ขมุกขมัว ซึ่งวานรได้เปิดผ่าขึ้นตอนขึ้นสู่ระดับมรรคาก็อาบอยู่ใต้แสงพิสุทธิ์ เช่นกัน
ได้รับการสาดส่องจากแสงพิสุทธิ์ คนที่อยู่ด้านใน ความคิดล้วน พร่ามัว
โลกตรงหน้าพวกเขาเหมือนเปลี่ยนทิวทัศน์อยางกะทันหัน
วินาทีนี้ทุกๆ คนเหมือนกลับสู่ยุคสมัยแรกเริ่มอันเป็นอากาศ โกลาหลที่ยังไม่นับเดือนปี ก่อนการเปิดผ่าธรรมชาติ
โลกไร้รูปร่างไร้สสาร ยากแยะแยกปริภูมิใกล้ไกล ไม่มีเวลา ไหลเวียน
คนธรรมดาจํานวนนับไม่ถ้วนมองทุกอย่างตรงหน้าอย่างงุนงง มองดูวัตถุเรื่องราวที่คุ้นเคยหายไปจนหมด จุดที่สายตาไปถึง ล้วนเป็น ทิวทัศน์ที่ตนมิอาจเข้าใจ ไม่อาจหยั่งประมาณ มิอาจบอกบรรยาย
จอมยุทธ์ในโลก ไม่ว่าเผ่ามนุษย์เผ่าปีศาจ ไม่ว่าศึกษาพุทธหรือเต๋า ตอนนี้ต่างแตกตื่นเหลือประมาณ
พวกเขาทางหนึ่งทําความเข้าใจทิวทัศน์แรกเริ่มที่สําหรับคนส่วน ใหญ่ เพียงอยู่ในเรื่องเล่าโบร�าโบราณและตัวหนังสือบนคัมภีร์ เพลิดเพลินดําดิ่งจนลืมตัว
แต่ทุกคนทางหนึ่งก็ตกใจเกรงกลัว ไม่เข้าใจว่าทําไมอยู่ๆ โลก ตรงหน้าจึงเปลี่ยนสภาพไป
ต่อให้เป็นตอนที่มหาวิทยราชมยุรีทะลวงสู่ระดับมรรคาก่อนหน้า ถึงแม้กวนคนการเปลี่ยนแปลงหมื่นวัตถุในโลก แบ่งแยกให้กําเนิด สภาพปัญธาตุแรกเริ่ม คล้ายต้องการหลอมโลกใหม่ แต่ว่าไม่มีการ เคลื่อนไหวยิ่งใหญ่ขนาดนี้
มหาวิทยราชมยุรีกระตุ้นให้มหาจักรวาลร่วมประสานเสียง เป็น กระบวนการค่อยๆ พัฒนา ไหนเลยเหมือนตอนนี้ เปลี่ยนแปลงฟ้าดิน ในพริบตา คล้ายนําสรรพชีวิตกลับไปสู่ก่อนจุดเริ่มต้นของกระแสเวลา?
ขณะที่ทุกคนแตกตื่นสงสัย ภาพตรงหน้าถึงกับเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง
ชีวิตบนโลกเสื่อมโทรม เงียบเชียบไปหมด
ดวงดาวในจักรวาลดับสูญ ไม่มีแสงสว่าง ไม่มีความอบอุ่น
หลักการธารรชาติพังทลายแหลกสลายหมดสิ้น ไม่คงอยู่อีก โลก ทั้งใบแสดงสภาพโกลาหลที่บิดเบี้ยว
ความโกลาหลค่อยๆ ถูกแก้ไข ที่เหลือมิใช่ความสงบนิ่ง แต่เป็น ความเงียบสงัด
จนกระทั่งทุกอย่างไม่คงอยู่อีก หมื่นวัตถุสูญสลาย ทุกสิ่งกลับคืนสู่ ความไม่มี
มนุษย์ปุถุชนยังคงสับสน ไม่อาจเข้าใจทิวทัศน์ตรงหน้า
แต่พวกเขารู้สึกได้ถึงความหวาดหวั่นในจิตใต จากในสู่นอก เกิด จากส่วนลึกวิญญาณ คล้ายกับวิญญาณถูกแช่แข็ง
ในทิวทัศน์ตอนนี้ ชีวิตทั้งหมดขาดสะบั้น สรรพชีวิตมลายสูญ ไม่ ว่าคนหรือปีศาจ ทวิชาติจตุบาต ดอกไม้ใบหญ้าที่ไร้สติปัญญา ล้วนสูญ สิ้น
พออยู่ในฉากเหตุการณ์นี้ ทุกคนต่างกลั้นหายใจ คล้ายกับตัวเองจะ ตายลงตรงนี้
สําหรับจอมยุทธ ถึงจะไม่เคยเห็นภาพนี้มาก่อน ก็เดาได้คร่าวๆ ว่า ที่นี่เป็นฉากที่ธรรมชาติดับสูญหลังโลกาวินาศ!
ชั่วครู่เดียว พวกเขาก้าวข้ามกระแสเวลา จากก่อนการเปิดผ่าฟ้า ดิน มาถึงหลังธรรมชาติดับสูญ!
นี่มิใช่ภัยพิบัติธรรมชาติที่เกิดขึ้นตอนเปลี่ยนผ่านระหว่างยุคสมัย หนึ่งกับยุคสมัยหนึ่ง
หากเป็นโลกธรรมชาติ และมหาจักรวาลเดินสู่จุดจบ กลับคืนสู่ ความไม่มี
เป็นจุดจบของโลก ทั้งเป็นจุดเริ่มต้นของสังสารวัฏ วินาทีต่อมา ภาพตรงหน้าทุกคนกลับคืนสู่ความปกติอีกครั้ง ทุกอย่างมีลักษณะเหมือนก่อนหน้า ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
เหมือนกับทุกสิ่งเมื่อครู่เป็นความรู้สึกหลอน
ทว่าพวกลู่ยาเต้าจวิน นาจา หยางเจี่ยนย่อมทราบว่า นั่นมิใช่ ความรู้สึกหลอนเด็ดขาด
เป็นเพราะแม้แต่การดํารงอยู่ที่กายขึ้นสู่มหาชาลเฉกเช่นพวกเขา เมื่อครู่จิตใจเกิดความรู้สึกเลือนราง เห็นการเปลี่ยนแปลงของฟ้าดิน
ด้วยพลังของพวกเขา ยิ่งรู้สึกได้ว่า การแนบสนิทชิดใกล้เมื่อครู่ ราวกับมหาจักรวาลที่เป็นหยินหยางสองขั้วรวมถึงธรรมชาติขมุกขมัว ใหม่แห่งนั้น สองสิ่งเหมือนกับผ่านการสับเปลี่ยนรอบหนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี