ในยุคสถาปนาเทพโบราณตอนต้น สำนักของเทวกษัตริย์รัตนวิเศษสายเหนือพิสุทธิ์รุ่งเรือง สั่งสอนไม่แบ่งแยกเผ่าพันธุ์ จนมีคำกล่าวว่าหมื่นเซียนมาเยือน
นอกจากเทวกษัตริย์วิเศษคณานับ เจ้าแม่จินหลิง เจ้าแม่อู๋ตัง เหล่ายอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งเป็นผู้สืบทอดกระแสตรงสายเหนือพิสุทธิ์แล้ว ยังมีเจ็ดเซียนรับใช้ฟังคำสอน นับถือเทวกษัตริย์รัตนวิเศษเป็นอาจารย์ ล้วนเป็นบุคคลระดับผู้ปกครองทั้งสิ้น
เซียนหัวมังกรกับเซียนงาวิญญาณเป็นสองคนในนี้ แยกเป็นสิงโตขนเขียวกับช้างเผือกหกงากลายพันธุ์ที่ฝึกฝนจนมีผลสำเร็จในยุคโบราณตอนต้น
เพียงแต่ว่าในสงครามสถาปนาเทพช่วงปลายยุคโบราณตอนต้น เหนือพิสุทธิ์ถูกนิกายอื่นๆ ร่วมมือกันทำลาย ผู้สืบทอดส่วนใหญ่ในสำนักล้มตาย
เซียนหัวมังกรกับเซียนงาวิญญาณแม้จะไม่ได้ประสบภัยพิบัติขึ้นสู่ทำเนียบเซียน แต่ถูกเทวกษัตริย์เหวินซู่กว่างฝ่ากับผู่เสี่ยนจินหยินแห่งหยกพิสุทธิ์จับกุม บังคับให้กลับร่างเดิม ตกเป็นพาหนะ
ภายหลังเทวกษัตริย์เหวินซู่กว่างฝ่ากับผู่เสี่ยนจินหยินต่างหันไปนับถือศาสนาพุทธ กลายเป็นมัญชุศรีโพธิสัตว์กับพระสมันตราโพธิสัตว์
ในศาสนาพุทธมีการเรียกชื่อเคาเป็นของตัวเอง ใช้คำว่าพุทธะเรียกมหาชาล ใช้คำว่าโพธิสัตว์เรียกสุญญตา เป็นความเคยชินของสำนักเต๋าที่เปรียบเทียบระดับศาสนาพุทธกับพวกตัวเอง
ไม่ว่าจะเป็นมัญชุศรีโพธิสัตว์หรือว่าสมันตภัทรโพธิสัตว์ ความจริงล้วนเป็นตัวตนชั้นมหาชาลที่สำเร็จมรรควิถี
เซียนหัวมังกรกับเซียนงาวิญญาณต่างติดตามพวกเขาเข้าสู่ศาสนาพุทธ ยังคงแยกกันเป็นพาหนะของพวกเขา ภายหลังชนชาวโลกต่างเรียกสิงโตเขียวกับช้างเผือก ไม่เรียกชื่อของพวกเขาอีก
ครั้งอดีตปีศาจสองตนนี้ไม่ว่าจะเป็นจอมปีศาจ หรือผู้สืบทอดสายเหนือพิสุทธิ์สำนักเต๋า ล้วนเป็นตัวตนที่ยิ่งใหญ่ในฟ้าดิน
กาลเวลาหลังการสถาปนาเทพเจ้าสำหรับพวกเขา ย่อมเป็นความอัปยศอันยิ่งใหญ่ และวันคืนที่ทรมาน
น่าเสียดายที่ไม่มีใครปลดปล่อยพวกเขาได้
บรมครูสามพิสุทธิ์ล้วนหลุดพ้น ถึงแม้เหล่าจวินยังอยู่ กลับไม่เคยถามไถ่
เซียนหัวมังกรกับเซียนงาวิญญาณสามารถเป็นอิสระได้ เป็นเพราะเรื่องราวหลังจากยุคโบราณตอนกลางจบลง
ตอนนั้นพระศรีอริยเมตไตรยเปลี่ยนคำสอนบนแดนสุขาวดีอภิรดีศูนย์กลางใหม่ สร้างความขัดแย้งบนการบำเพ็ญเพียรระหว่างเหล่าพุทธะ นักบวชในศาสนาพุทธส่วนใหญ่จากไป เข้ากับแดนสุขาวดีตะวันตก
ท่ามกลางความวุ่นวายภายในของศาสนาพุทธเมื่อครั้งนั้น เซียนหัวมังกรกับเซียนงาวิญญาณค่อยได้รับอิสระอีกครั้ง
หลังจากหลุดออกมาได้ พวกเขาก็ไม่ได้ยึดถือตนเป็นผู้สืบทอดสายเหนือพิสุทธิ์แห่งสำนักเต๋าอีก แต่ว่าเข้ากับโลกของเผ่าปีศาจคือเขาดาราทะเลดวงดาว กลายเป็นมหาเทวะเผ่าปีศาจ
ตอนนี้เป็นเพราะว่าโถงเซียนกับแดนสุขาวดีบัวขาวต่อสู้กัน แดนสุขาวดีตะวันตกกับเผ่าปีศาจต่างออกเขา ดำเนินการเดินหมากและทำสงคราม
ตอนนี้เซียนงาวิญญาณกับเซียนหัวมังกรต่างเผยโฉม ทำศึกกับผู้เข้มแข็งของศาสนาพุธสายหลักแห่งแดนตะวันตก
เยี่ยนจ้าวเกอไม่ทราบว่าเจ้าแม่อู๋ตังเคยลองติดต่อกับพวกเขาหรือยัง แต่ดูจากท่าทางในวันนี้ แม้ว่าจะเคยติดต่อ ก็คงเป็นผลลัพธ์ที่ไม่น่าอภิรมย์นัก
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนมหาภัยพิบัติเมื่อครั้งกระโน้น สำนักเต๋าประสบภัยพิบัติ มหาเทวะเผ่าปีศาจที่ในอกประกอบด้วยความแค้นสองตนนี้ได้ลองโต้กลับหรือไม่ เกรงว่าเป็นเรื่องที่ยากบอกกล่าว
ก่อนหน้านี้คาดเดากันว่า หลังจากพวกเขาเข้าไปในเขาดาราทะเลดวงดาว อาจแสดงท่าทีไม่ช่วยเหลือสองฝ่ายในการต่อสู้ระหว่างสำนักเต๋ากับขุมกำลังอื่นๆ
แต่ดูจากวันนี้ สถานการณ์ตามความเป็นจริงเลวร้ายกว่าที่คิดไว้
เยี่ยนจ้าวเกอยืนอยู่บนหัวไหล่ของวานรยักษ์ที่เปลี่ยนมาจากร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก มองเซียนหัวมังกรกับเซียนงาวิญญาณ “เรื่องราวในอดีต บรมครูสามพิสุทธิ์กระทำอย่างไร ข้าผู้แซ่เยี่ยนไม่ขอยุ่งเกี่ยว พวกท่านสองคนคิดอย่างไรเป็นอิสระส่วนตัว แต่ว่าในมื่อสองท่านพูดแบบนี้ พวกเราก็มิใช่พวกเดียวกันอีกแล้ว”
“กระบี่ลวงเซียน กับกระบี่ลงทัณฑ์เซียนในภายหลัง ขออภัยที่มิอาจมอบให้สองท่าน” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวอย่างสงบนิ่ง “ต่างฝ่ายทำเรื่องของตัวเอง หากล่วงเกินก็ขออภัย”
พร้อมกับที่เขาพูด กายทองมหาเทวะที่เปลี่ยนมาจากสวีเฟยกับพ่านพ่านก็พุ่งขึ้นสู่ฟากฟ้าแล้ว
“ตรงใจข้าพอดี!” เซียนหัวมังกรตวาดขึ้น ในมือเพิ่มดาบวิเศษเล่มหนึ่ง จากนั้นฟันลง
ประกายดาบนั้นเป็นสีเขียว เงียบงันร้ายกาจ กลับมีเจตจำนงกระบี่จากกระบี่ลงทัณฑ์เซียนหลายส่วนไหลออกมา
เซียนหัวมังกรใช้กระบี่มาตั้งแต่ยุคโบราณตอนต้น ยุคโบราณตอนกลางถึงได้ใช้ดาบ เป็นเพราะเขาแค้นสำนักเต๋า จึงละทิ้งกระบี่ไม่ใช้อีก ตนเปลี่ยนวิชากระบี่เป็นวิชาดาบ แผ้วทางขึ้นมาใหม่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี