ระหว่างทาง จางเหยาส่งกระแสจิตไปหาเซี่ยโยวฉานอย่างลับๆ ‘จริงสิ ศิษย์พี่เซี่ย ก่อนหน้านี้เป็นเรื่องที่ศิษย์พี่หร่วนกระทำชัดๆ ไยท่านต้องรับหน้าแทนเขาด้วยเล่า’
เซี่ยโยวฉานกล่าว ‘เจ้าอย่าได้มองว่าศิษย์น้องเยี่ยนตลกต่อหน้าข้ากับเจ้า แต่แท้จริงแล้วเขาเป็นคนที่อดรนทนไม่ได้กับความอยุติธรรมและความไม่สมเหตุสมผลคนหนึ่ง ศิษย์น้องหร่วนยั่วยุเขา เขาจะต้องหาสนามเอาคืนอย่างแน่นอน เช่นเดียวกัน ศิษย์น้องหร่วนดูเหมือนว่าอ่อนโยน แต่แท้จริงแล้วหยิ่งยโสและชอบเอาชนะเป็นอย่างมาก จะให้เขาก้มหัวให้แก่ศิษย์น้องเยี่ยน นั่นยิ่งเป็นไปไม่ได้ ผลสุดท้ายที่สุดจะเป็นเพียงแค่ขิงก็ราข่าก็แรงเท่านั้น’
‘สำนักเราไม่คิดที่จะไปเกี่ยวพันกับเรื่องระหว่างสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์กับเขากว่างเฉิง ถึงแม้ว่าพวกเราจะไม่ได้กลัวทั้งสองสำนักนั้น แต่ก็ไม่จำเป็นต้องไปสร้างเรื่องยุแหย่เสียเองเช่นกัน เปลี่ยนเรื่องเล็กน้อยให้ไม่มีเรื่องราวใดได้ถือเป็นการดีที่สุด ไม่อย่างนั้นเรื่องเล็กจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ ไม่มีใครรู้ได้ว่าท้ายที่สุดจะก่อเกิดผลเช่นไร’
จางเหยาพยักหน้า ‘เพียงแต่ว่าศิษย์พี่เซี่ย ท่านเป็นแพะรับบาปให้แก่ศิษย์พี่หร่วนไปแล้ว’
เซี่ยโยวฉานยิ้ม ‘ศิษย์น้องเยี่ยนเป็นคนที่เข้าใจเหตุผลคนหนึ่ง แท้จริงแล้วความจริงของเรื่องราวเป็นอย่างไรล้วนปิดบังเขาไม่ได้ เพียงแต่ดีที่เขายังไว้หน้าข้าอยู่หลายส่วน ขั้นบันไดที่ข้าต่อให้เขา เขาก็ก้าวลงโดยพลัน เก็บงำความเข้าใจไว้แสร้งทำเป็นสับสน ไม่ได้ซักถามต่อ’
‘ที่แท้เป็นเช่นนี้เอง’ จางเหยาพลันตื่นตัว หลังจากลังเลครู่หนึ่งแล้วจึงเอ่ยถามต่อไปว่า ‘เพียงแต่หวังว่าศิษย์พี่หร่วนจะสามารถเข้าใจความเหนื่อยยากของท่าน…’
เซี่ยโยวฉานถอนใจ ‘หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น’
หลังจากทุกคนขึ้นมาบนเกาะขนาดเล็กแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอก็สังเกตสภาพแวดล้อมบนเกาะด้วยความสนใจยิ่ง ที่แห่งนี้เต็มไปด้วยป่าไผ่ เงื่อนไขสภาพอากาศคล้ายคลึงเกาะปิดนภา พื้นที่น้อยกว่าอยู่บ้าง ค่อนข้างใกล้กับเขตแดนทะเลสาบปิดนภา
สิ่งที่เรียกว่าปี่เซียะภูเขา เยี่ยนจ้าวเกอไม่เคยพบเห็นกับตามาก่อนอย่างแท้จริง
ภาพวาดเหมือนของปี่เซียะนั้นมีอยู่ เพียงแต่ว่าพูดไปก็บังเอิญทีเดียว เยี่ยนจ้าวเกอไม่เคยเห็นมาก่อน สัตว์วิเศษบนพสุธานี้เป็นพันเป็นหมื่น สัตว์วิเศษที่เขาไม่รู้จักจึงมีอยู่คณานับเช่นกัน
ทว่าชื่อเสียงของเจ้าตัวนี้ เยี่ยนจ้าวเกอเคยได้ยินมาก่อน
‘รูปร่างใหญ่ยักษ์แทบคล้ายกับช้าง รักความสงบไม่ชอบเคลื่อนไหว อุปนิสัยอ่อนโยนและไม่ชอบต่อสู้ ค่อนข้างเกียจคร้าน ทว่าพละกำลังแกร่งกล้าเป็นอย่างยิ่ง ปากสามารถเขมือบโลหะกลืนทองได้ ทั้งยังมีพรสวรรค์เหนือสิ่งอื่นใด สามารถควบคุมธาตุน้ำสีดำ เพลิงสีขาวได้’
ปี่เซียะภูเขาที่ปรากฏ ณ ทะเลสาบปิดนภาครานี้ ตามข่าวลือมันยังคงอยู่ในระยะแรกเกิด กระนั้นพลังของมันก็แก่กล้ายิ่ง ไม่ใช่จอมยุทธ์ระดับปรมาจารย์ทั่วไปจะสามารถต้านทานได้
ถึงแม้ว่าปี่เซียะจะมีอุปนิสัยอ่อนโยนไม่ชอบต่อสู้ ทว่ามีนิสัยหนึ่งที่เลวร้ายยิ่ง นั่นก็คือความตะกละ อีกทั้งปริมาณการกินจองมันยังมหาศาล แม้กระทั่งไม่มีความคิดที่จะควบคุมอีกต่างหาก
หากปล่อยปละละเลยไม่สนใจ ก็มีความเป็นไปได้มากว่ามันจะเหมือนกับตั๊กแตนข้ามแดน กินสถานที่หนึ่งจนเกลี้ยงโดยสิ้นเชิง
ทะเลสาบปิดนภานี้มีขนาดพื้นที่ใหญ่มาก จนถึงขั้นมีการไหลเวียนของพลังปราณ สิ่งเล็กๆ เช่นรากหญ้าล้วนแล้วแต่เกี่ยวพันกับค่ายกลอย่างแนบแน่น
ครั้นถูกปี่เซียะภูเขากัดแทะเกาะเล็กเกาะหนึ่งจนกลายเป็นผืนปฐพีแห้งผาก แน่นอนว่าไม่ถึงกับทำลายค่ายกล ทว่าหากปล่อยให้มันกินต่อไปตลอด อย่างไรก็จบไม่สวยเป็นแน่
ด้วยเหตุนี้ หลังจากมีศิษย์อ่อนอาวุโสแห่งหอคลื่นโหมพบเข้า ก็ส่งข่าวสารกลับยังเกาะปิดนภา ทางด้านเกาะปิดนภาจึงติดต่อให้เซี่ยโยวฉานที่อยู่ใกล้เคียงจัดการ
ศิษย์ผู้นั้นพบว่าเยี่ยนจ้าวเกอกับอาหู่ร่วมเดินทางกับเซี่ยโยวฉานและจางเหยา จึงชะงักงันไปเล็กน้อย แต่ไม่นานนักก็รุดหน้าเข้ามาอธิบายเหตุการณ์
ฉะนั้นเยี่ยนจ้าวเกอ เซี่ยโยวฉาน และคนอื่นๆ จึงเข้าไปในป่าทึบลึกทันที
เมื่อทะลุผ่านป่าไผ่สุดลูกหูลูกตาไป สีหน้าอารมณ์เยี่ยนจ้าวเกอและคนอื่นๆ ก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย รู้สึกได้ถึงการมีอยู่ของมันอยู่เบื้องหน้านี้รางๆ แล้ว
กลุ่มคนของเยี่ยนจ้าวเกอสบตากันแวบหนึ่ง “น่าจะเป็นปี่เซียะภูเขานั่น…”
ทว่ายังไม่ทันสิ้นเสียงคำพูด สีหน้าของเยี่ยนจ้าวเกอ อาหู่ และเซี่ยโยวฉานล้วนเปลี่ยนแปลงไปอีกเล็กน้อย “เจ้านี่มันทำสิ่งใดลงไปกันนี่”
บริเวณลึกเข้าไปในทะเลไผ่ มีการสั่นไหวของปราณวิญญาณอันรุนแรงส่งมา คล้ายกับปรากฏน้ำวนขนาดมหึมาแห่งหนึ่ง สั่นคลอนโดยรอบเกาะน้อยทั้งเกาะจนปราณวิญญาณไหลพรั่งพรูไปรวมอยู่ใจกลางพร้อมกัน
เยี่ยนจ้าวเกอเงยหน้ามองไป พบว่าเมฆหมอกที่อยู่กลางท้องฟ้าเริ่มสั่นสะท้านขึ้นมาบ้าง ค่ายกลที่ปกคลุมทั่วทั้งเกาะปิดนภาไว้ได้รับผลกระทบ ได้รับการกระตุ้นจนเกิดปฏิกิริยาตอบรับออกมา
อาหู่ลูบด้านหลังศีรษะของเจ้านาย “ลักษณะเช่นนี้ หรือว่าปี่เซียะตัวนี้จะเลื่อนขั้น”
ชายหนุ่มผงกศีรษะ “เกินกว่าครึ่งเป็นเช่นนั้นไม่ผิดแน่”
เซี่ยโยวฉานก้าวเดินไปข้างหน้า “พวกเราไปดูสถานการณ์สักหน่อย ตามเงื่อนไขแรกที่ได้กล่าวไว้ ยังคงไม่ต้องขัดจังหวะการเลื่อนขั้นของมัน”
กลุ่มคนทะลุผ่านป่าไผ่หนา เบื้องหน้าปรากฏพื้นที่ว่างโกร๋นผืนหนึ่ง ไม่ต้องถามก็รู้ได้ว่าถูกสัตว์วิเศษตัวนั้นกินเข้าไปอย่างทื่อๆ
เยี่ยนจ้าวเกอทอดสายตามองไป พบว่าบริเวณศูนย์กลางพื้นที่ว่างนั้นมีกลุ่มแสงสีขาวดำใหญ่โตกลุ่มหนึ่งอยู่ ครั้นมองดูอย่างถี่ถ้วน ก็ชัดแจ้งว่าเป็นกระแสน้ำสีดำสนิทกับเปลวเพลิงสีขาวผสมเข้าด้วยกัน หมุนวนอย่างรวดเร็ว กลายรูปเป็นลักษณะทรงกลมหนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี