‘สัตว์พาหนะของเจ้าคือหมีสยงเมา…’
‘สัตว์พาหนะคือหมีสยงเมา…’
‘คือหมีสยงเมา…’
‘หมีสยงเมา…’
ในหัวเยี่ยนจ้าวเกอคล้ายกับมีเสียงกำลังดังก้องไม่หยุดหย่อน ทำให้เข้าอดไม่ได้ที่จะกลอกตาขาว ‘…อันที่จริงแล้ว ก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างยิ่งกระมัง มีผลดึงดูดสายตาอย่างสุดขีด โดดเด่นเต็มร้อย แตกต่างไม่ธรรมดา เพียงแต่ความรู้สึกนึกคิดทั้งอัปยศอดสู ทั้งสุขกายสบายใจเช่นนี้มันหมายความว่าอย่างไรกัน?’
เยี่ยนจ้าวเกอนวดขมับตนเอง ยิ้มขมขื่นพลางมองหมีสยงเมายักษ์เบื้องหน้า ‘ช่างเถิด ต่อให้เลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยง แม้ปริมาณการกินจะค่อนข้างมาก แต่มองดูก็เพลินตา รับหน้าที่แสดงความน่ารักโดยเฉพาะ ดีเหมือนกัน หากนำมาใช้เกี้ยวสตรี คิดไปแล้วก็เป็นเครื่องมือทรงประสิทธิภาพเช่นกันกระมัง?’ มุมปากของเขายกขึ้น มีความคิดที่ไม่ดีนักอยู่บ้าง
เขาหันหน้ากลับไปมองเซี่ยโยวฉานที่อยู่ข้างๆ “ศิษย์พี่เซี่ย ขอพูดตามตรงไม่ปิดบัง สัตว์ตัวนี้สะดุดตาข้าอยู่พอควร ไม่ทราบว่าสำนักท่านจะตัดใจทิ้งได้หรือไม่”
แท้จริงแล้วทะเลสาบปิดนภาคือท้องถิ่นของหอคลื่นโหม ครั้งนี้ประสบเจอหมีสยงเมายักษ์ตัวนี้ ก็เป็นเพราะชายหนุ่มติดตามเซี่ยโยวฉานมาด้วยเช่นกัน
เซี่ยโยวฉานได้ยินดังนั้นก็ยิ้ม “สำนักข้านอกจากเลี้ยงห่านเพลิงและสัตว์วิเศษอยู่ไม่กี่ชนิด ไว้ส่งสารและเป็นพาหนะแล้ว น้อยนักจะเลี้ยงสัตว์วิเศษ เจ้าไม่เอ่ยปาก ข้าก็นำเจ้าปี่เซียะภูเขาส่งออกนอกอาณาบริเวณทะเลสาบปิดนภาเพียงเท่านั้น หลีกเลี่ยงไม่ให้มันส่งผลกระทบต่อค่ายกล”
“ศิษย์น้องเยี่ยนต้องการ แน่นอนว่าสามารถจับได้ และหากต้องการความช่วยเหลือจากข้า ขอเพียงแค่เจ้าเอ่ยวาจาก็พอ แต่ข้าเห็นเจ้ากับสหายด้านข้างท่านนี้แล้ว จะจับปี่เซียะภูเขาตัวนี้ก็ไม่ยากเย็น ลงมือได้เลย”
อีกฝ่ายไม่เอ่ยเรื่องค้าขาย ปล่อยตนจับสัตว์ตามสบาย เยี่ยนจ้าวเกอได้ยินแล้ว ก็พลันยิ้มน้อยๆ “ขอบคุณน้ำใจไมตรีของศิษย์พี่เซี่ย ข้ากล่าวขอบคุณก่อน จักต้องมีตอบแทนภายหลังเป็นแน่”
เซี่ยโยวฉานใจกว้าง แน่นอนว่าเยี่ยนจ้าวเกอก็ไม่อาจเอารัดเอาเปรียบนางได้ หลังจากใคร่ครวญอยู่ภายในใจครู่หนึ่ง ก็นับว่าเขามีแผนการอยู่ในหัวแล้ว เพียงแต่ว่าไม่รีบเร่งกระทำในเวลานี้แต่อย่างใด จับหมีสยงเมายักษ์เบื้องหน้าตัวนี้ก่อนค่อยว่ากล่าวดีกว่า
เยี่ยนจ้าวเกอโบกไม้โบกมือไปทางอาหู่ อีกฝ่ายยิ้มซื่อ พลันคันไม้คันมือทันที เตรียมเดินไปทางใจกลางพื้นที่ว่างพร้อมกับคุณชายของเขา
“หืม?” กระนั้นทันใดนั้นเอง สายตาเยี่ยนจ้าวเกอจดจ่อโดยพลัน รู้สึกถึงการสั่นสะเทือนของปราณจิตราจอมยุทธ์จากที่ห่างไกลออกไปอย่างอยู่รางๆ ข้างหูยิ่งคล้ายกับเกิดเสียงคันศรและสายธนูหนึ่งดังขึ้นเป็นพักๆ
เป้าหมายของอีกฝ่ายไม่ใช่กลุ่มคนของตนแต่อย่างใด จู่ๆ ก็มีลูกศรยิงจากอีกทิศทางหนึ่ง พุ่งไปยังหมีสยงเมาที่อยู่ใจกลางพื้นที่ว่าง!
ชายหนุ่มจ้องมองไป พบว่าทิศทางที่ลูกศรยิงออกมามีชายผู้หนึ่งยืนอยู่ภายในป่าไผ่ ใบหน้าปรากฏสีหน้าละโมบอย่างชัดแจ้ง จดจ้องหมีสยงเมายักษ์ที่อยู่กลางพื้นที่ว่างนั้น
‘ไม่ใช่คนของหอคลื่นโหม ทว่าก็เป็นถึงจอมยุทธ์ระดับปรมาจารย์ขั้นเคียงนภา จอมยุทธ์ของบึงพิภพได้รับอนุญาตจากหอคลื่นโหม เข้าสู่ทะเลสาบปิดนภามาหาโชค…เขาไม่ได้พบเห็นพวกข้า แต่กลับเฝ้าดูเจ้านั่น เกิดความคิดละโมบในจิตใจ’
‘น่าจะมีเพียงแค่ระดับขั้นเคียงนภาระยะต้นเท่านั้น จึงกังวลว่าพลังตนเองไม่เพียงพอแก่การจับเป็นหมีสยงเมาตัวนี้ ถึงได้ช่วงชิงสถานการณ์ที่หมีสยงเมาเลื่อนชั้นลอบโจมตี’
แค่เพียงไม่นาน ในใจเยี่ยนจ้าวเกอเกิดความคิดมากมาย จากนั้นเขาก็เหินกายขึ้นท้องฟ้า มือขวาสะบัดแขนเสื้อ แสงสีเขียวสายหนึ่งพุ่งออกมาจากภายในแขนเสื้อ ส่งเสียงราวกับมังกรคำรามออกมา ชั่วพริบตาก็ทะลุผ่านพื้นที่กว่าร้อยจั้ง
กระบี่ของเขาลอยอยู่กลางอากาศ สกัดลูกศรนั้นที่อีกฝ่ายยิงออกมา!
“เหอะ ลูกศรระเบิดวิญญาณ ยอมลงทุนนี่” ขณะกระบี่ของเยี่ยนจ้าวเกอหักลูกศรอยู่นั้น เขาก็รู้สึกว่าไม่ถูกต้องทันที
ลูกศรที่ยิงมาของผู้มาเยือน คือลูกศรระเบิดวิญญาณที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษ ลูกศรนี้ล้ำค่าหายากเป็นพิเศษ ทว่าอานุภาพก็แก่กล้าอย่างยิ่ง แม้ว่าด้ามลูกศรจะถูกคู่ต่อสู้สกัดกั้นไว้ ก็สามารถกลายสภาพเป็นการรุกโจมตีระลอกที่สอง สร้างการสังหารและทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บได้
จอมยุทธ์ปรมาจารย์ขั้นเคียงนภาถูกธนูลับจู่โจมกะทันหัน ล้วนไม่ง่ายจะต้านทาน ได้แต่ยิ่งต้องกล้ำกลืนความเจ็บแค้นไว้!
หลังจากกระบี่ของถูกเยี่ยนจ้าวเกอหักลูกศรแล้ว ภายในลูกศรพลันมีแสงจ้าปลดปล่อยออกมาทันที
ลูกศรนี้แม้จะมีพลังอานุภาพมาก แต่ก็จัดการเยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้โดยสิ้นเชิง ขณะเดียวกันหมีสยงเมาตัวนั้นกำลังอยู่ในช่วงสุดท้ายของการเลื่อนชั้น ใกล้เสร็จสิ้นขั้นตอนสุดท้าย เวลานี้หากถูกรบกวนเพียงเล็กน้อย ผลพวงอาจน้อยหรือมากก็ไม่มีผู้ใดรู้
เยี่ยนจ้าวเกอเบะปาก ส่ายศีรษะไปพลาง แกว่งกระบี่ไปพลาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี