เยี่ยนจ้าวเกอหลับตา หลังจากใคร่ครวญครู่หนึ่งก็ลืมตามองหยางเจี่ยน ถามว่า “พี่ร่วมเส้นทางทราบหรือไม่ว่าตอนนั้นพระอาจารย์เสวียนตูได้รับสารของจักรพรรดิจื่อเวย หรือสารของคนอื่นไหม?”
“มีสารฉบับหนึ่ง” หยางเจี่ยนดวงตาปรากฏความชมเชย พยักหน้าตอบว่า “อาจารย์อาเสวียนตูถามเหล่าจวิน เหล่าจวินไม่ตอบรับไม่ปฏิเสธ ให้อาจารย์อาเสวียนตูจัดการเอง”
“สุดท้ายอาจารย์อาเสวียนตูไปยังวังเทพ ถูกทีปังกรพุทธะขวางไว้ระหว่างทาง”
เยี่ยนจ้าวเกอพอฟังเงยหน้าเล็กน้อย
หลังจากเหม่อลอยสักพัก บนใบหน้าเขาก็ปรากฏรอยยิ้มหนักใจ “พอฟังพี่ร่วมเส้นทางท่านพูดแบบนี้ จิตใจก็ล้ามากทีเดียว”
“ความคิดของเหล่าจวินมิอาจคาดเดาอย่างแท้จริง การยกท่านเป็นที่พึ่งออกจะไม่แน่นอนเกินไปแล้ว”
“สำหรับคนอื่นๆ นอกจากสำนักเต๋าเรา ก็ยากจะทำความเข้าใจความคิดของเหล่าจวินเช่นกัน” หยางเจี่ยนยิ้ม “ถ้าไม่อย่างนั้น ท่านผู้เฒ่าคงไม่ลงมือในยุคโบราณตอนกลาง”
“มีคำกล่าวว่าจิตเต๋ายากหยั่งถึง สนใจและไม่สนใจ ทำเรื่องราวใดล้วนไม่แปลกประหลาด ก่อนหน้านี้ตัดสินใจอย่างหนึ่ง ต่อมาเปลี่ยนความคิดทันที ถือว่าไม่แปลก การใช้ขอบเขตความประพฤติและความเคยชินของคนธรรมดาไปทำความเข้าใจตัวตนเช่นนั้น เดิมทีเป็นความเหลวไหลอย่างหนึ่ง”
หยางเจี่ยนยังคงยิ้ม พลันถอนใจ “หากกล่าวอย่างบังอาจสักเล็กน้อย เหล่าจวินลงมือด้วยตัวเอง กวาดล้างระบบมรรคาสามพิสุทธิ์ของพวกเรา ก็มิใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ไม่มีเหตุผลใดให้กล่าวถึง บางทีอาจเป็นเพราะอยู่ๆ ท่านผู้เฒ่าก็เกิดความคิดเช่นนั้น จึงกระทำเช่นนั้น ไม่มีหลักการให้เอ่ยถึง หลักการในสายตาของพวกเรา สำหรับเหลาจวินแล้วไม่มีประโยชน์ใด”
“หากยังคงถูกหลักการบนโลกใบนี้วัดน้ำหนักพันธนาการ ยังเรียกว่าหลุดพ้นอันใด?”
เยี่ยนจ้าวเกอกับเฟิงอวิ๋นเซิงต่างเงียบงัน
วาจาเมื่อครู่ของหยางเจี่ยนย่อมเป็นการสมมติที่สุดโต่งยิ่ง แต่ก็มิใช่ไม่มีความเป็นไปได้
กล่าวในมุมมองหนึ่ง การสมมตินี้มีโอกาสเท่ากับความเป็นไปได้ที่เหล่าจวินจะต่อสู้กับเจ้ามรรคาคนอื่นๆ เพื่อปกป้องผู้สืบทอดสำนักเต๋า
“มิได้บอกว่า หลักการของพวกเราไม่มีประโยชน์” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวเสริม “แต่อาจไม่มีประโยชน์ และอาจมีประโยชน์”
จะกระทำตามเหตุผลและตรรกะของโลกใบนี้หรือไม่ เป็นเหล่าจวินตัดสินใจเอง
บางทีในสายตาของเขาเมื่อวินาทีก่อนหน้า สิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้ไม่ว่าจะเป็นสำนักเต๋าสายหลักหรือโถงเซียนเส้นทางนอกรีต ศาสนาพุทธ เผ่าปีศาจ หรือแม้แต่จอมมารนพยมโลก ล้วนเท่าเทียมกันไม่มีความแตกต่าง
และเป็นไปได้ว่าในวินาทีต่อมา เขาก็ประคมประหงอมบุตรของตัวเอง เพื่อผู้สืบทอดสำนักเต๋าที่เอ็นดู จึงกระตือรือร้นที่จะเข้าร่วมการเดินหมากกับเหล่าเจ้ามรรคา ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ถึงขั้นที่เขาอาจลงมือช่วยโถงเซียนสะกดผู้สืบทอดสำนักเต๋าสายหลัก ก็ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้
แน่นอนว่าในเวลาส่วนใหญ่แล้ว ปฏิกิริยาที่เหล่าจวินมีต่อเรื่องราวนี้ล้วนเป็นการไม่ถามไถ่
แต่ว่าสิ่งที่ทำให้คนทั้งหมดจนปัญญาก็คือ ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าเหล่าจวินมีความคิดอย่างไรในเวลาไหน ไม่มีแบบแผนให้พูดถึง มีแต่ต้องรอเขาลงมือจริงๆ จึงจะรับมือได้อย่างแม่นยำ
ผู้ยิ่งใหญ่ระดับมรรคาคนหนึ่งลงมือ เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะแฝงเจตนาล้ำลึก ยากจะมองความคิดที่แท้จริงของเขาในตอนนั้นออก
สาเหตุที่ขุมกำลังอื่นๆ ไม่เข่นฆ่าสำนักเต๋าสายหลักให้หมดสิ้น มีสาเหตุอยู่ตรงนี้เอง
เป็นไปได้ว่าในตอนที่คนอื่นๆ ลงมือ เหล่าจวินล้วนไม่ถามไถ่
แต่ว่าหลายปีให้หลัง ไม่กำหนดว่าเป็นเวลาใด เหล่าจวินอาจพลิกหน้าอย่างไร้สัญญาณ ชำระบัญชีแก้แค้น
ดูจากด้านพลัง เหล่าจวินเท่ากับเทวกษัตริย์เต๋าสายเอกพิสุทธิ์ก่อนที่จะหลุดพ้น ทำให้ผู้ยิ่งใหญ่ระดับเจ้ามรรคาคนอื่นๆ กริ่งเกรง
เจ้ามรรคามีทั้งหมดไม่กี่คน หากอยู่ๆ เหล่าจวินเข้าร่วมการต่อสู้ระหว่างพวกเขา ก็มากพอจะส่งผลต่อสมดุลของสถานการณ์รบแล้ว
สิ่งที่ทำให้คนหวาดระแวงยิ่งกว่าก็คือ ไม่มีใครรับประกันได้ว่า เหล่าจวินจะเป็นตัวแทนจิตเจตนาของบรมครูสามพิสุทธิ์ที่หลุดพ้นไปแล้วหรือไม่
บรมครูสามพิสุทธิ์ที่หลุดพ้นไปแล้ว ยากจะทำความเข้าใจเหมือนกับเหล่าจวิน
อาจเป็นไปได้ว่าต่อให้เหล่าจวินดับสูญไป บรมครูสามพิสุทธิ์ล้วนไม่จดจำใส่ใจ
แต่ก็เป็นไปได้ว่าจะยั่วยุให้บรมครูสามพิสุทธิ์ลงมายังโลก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี