ขณะที่พวกเยี่ยนจ้าวเกอไปตามหากระบี่ลงทัณฑ์เซียน เฟิงอวิ๋นเซิงก็ไปค้นตาร่องรอยของนิวาสสถานเทวกษัตริย์ประพฤติเต๋าในอดีตหลังจากกระจัดกระจายตามคำชี้แนะของเขา เพื่อให้ได้เบาะแสเพิ่มเติม สะดวกแก่การหากระบี่สังหารเซียนในครั้งหน้า
หลังจากเฟิงอวิ๋นเซิงทำสำเร็จ ค่อยมุ่งหน้าไปยังจุดนัดพบ รวมตัวกับพวกเยี่ยนจ้าวเกอ สุดท้ายลงมืออย่างฉับพลัน ทำร้ายพวกอินเจียวและปีศาจลมเหลือง ช่วยพวกเยี่ยนจ้าวเกอฝ่าวงล้อม พลิกจากแพ้เป็นชนะ
อีกด้านหนึ่ง เจ้าแม่อู๋ตังได้กระบี่ลงทัณฑ์เซียนมาสำเร็จเช่นกัน
ทุกสิ่งราบรื่นยิ่ง ทำให้ผู้คนพอใจ
แต่ว่าข้อมูลใหม่ที่ได้จากหยางเจี่ยนทำให้พวกเยี่ยนจ้าวเกอตื่นตัว
“ถึงแม้จะไม่อาจยืนยันข้อมูลของหยางเอ้อร์หลางได้ว่าเป็นความจริงแน่นอน แต่ว่าพวกเรามิอาจไม่คิดในแง่ร้ายที่สุดไว้ก่อน” เยี่ยนจ้าวเกอนวดขมับของตัวเองเบาๆ พลางกล่าว “หากไม่ระวัง การถูกพลิกกระดานในพริบตาก็ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้”
ถึงจะมีกระบี่สามเล่มในมือ แต่ต่อจากนี้ต้องถอนเขี้ยวจากเสืออย่างเจ้ามรรคาคนหนึ่ง ความจริงยากเย็นเป็นพิเศษ
หากไม่ระวังนิดเดียว เท่ากับกับข้าวให้ถึงที่
ก่อนหน้านี้ลำบากพยายามมานานปานนี้ ในที่สุดก็เห็นภาพงดงามของแสงอรุณ แต่ก็พร้อมสูญเปล่า กลายเป็นเงาฟองได้ทุกเวลา
กระนั้นถ้าหากกล้าๆ กลัวๆ ต้องการรักษาความแน่นอน เช่นนั้นก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงสภาพในปัจจุบันของฝ่ายตนตั้งแต่รากฐานได้
สภาวะที่ตอนแรกยอดเยี่ยม กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว อาจจะหยุดลง หรือถึงขั้นย้อนกลับได้ทุกเวลา
“พวกเราต้องเอากระบี่สังหารเซียนมาให้ได้ แต่จะเอามาอย่างไร จำเป็นต้องขบคิดให้ละเอียดกว่าเดิม” เยี่ยนจ้าวเกอพูด “ในสถานการณ์ที่ข่าวสารไม่รั่วไหล เส้นทางนอกรีตไม่ทราบว่าพวกเรามองความจริงออกแล้ว พวกเขาก็ไม่มีทางตั้งรับ จะต้องคอยจ้องค่ายกลลงทัณฑ์เซียนของพวกเรา และต้องการจับพวกเราในทีเดียว”
ในสถานการณ์เช่นนี้ เรื่องราวย่อมขึ้นอยู่กับตอนที่พวกเยี่ยนจ้าวเกอค้นหากระบี่ในครั้งหน้า
เทวกษัตริย์ไร้ประมาณกับโถงเซียน ไปจนตลอดแดนสุขาวดีตะวันตก เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะวางหลุมพรางไว้ในที่ลับ ใช้กระบี่สังหารเซียนเป็นเหยื่อล่อ รอให้พวกเยี่ยนจ้าวเกอกินเบ็ด
“แต่คิดล่อพวกเราให้ติดเบ็ด เดินเข้าไปหลุมพรางของพวกเขาอย่างไม่รู้ตัว พวกเขาจะต้องนำทองแท้เงินขาวออกมาถึงจะทำได้ ไม่อย่างนั้นต่อให้พวกเราไม่ทราบเรื่อง ก็ไม่มีทางติดกับ”
เยี่ยนจ้าวเกอพ่นลมหายใจออกเบาๆ “กระบี่สังหารเซียนกับเทวกษัตริย์ไร้ประมาณไม่อาจกำไว้ในมือไม่ปล่อย ไม่อย่างนั้นจะถูกอวิ๋นเซิงเจ้ากับผู้อาวุโสสั่ว และเจ้าแม่อู๋ตังเซียนสวรรค์สำนักเต๋าเราสัมผัสได้ง่ายดาย คิดตกปลา เขาจะต้องโยนเหยื่อล่อออกมา”
“พวกเรามีความเป็นไปได้ที่จะงับเหงื่อ ส่วนอันตรายอยู่ด้านหลัง พวกเราจะหลุดจากเบ็ดได้อย่างไร ออกจากแหจับปลาหลายชั้นได้อย่างไร” เฟิงอวิ๋นเซิงกระจ่างแจ้ง “ถึงอย่างไรก็เป็นยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่ระดับเต๋า จะต้องอยู่ใกล้ๆ สร้างความลำบาก ไม่ให้เวลาพวกเราหลอมเปลี่ยนกระบี่สังหารเซียนและวางค่ายกลลงทัณฑ์เซียน ถึงเวลาจะต้านทานอานุภาพของเจ้ามรรคาไม่ได้ ถูกจับในคราวเดียว”
เยี่ยนจ้าวเกอเบ้ปาก “วิกฤติการณ์ๆ โอกาสมักตามมาหลังอันตราย ต้องดูก่อนว่าหยางเอ้อร์หลางมีความสามารถอันใด ไม่อย่างนั้นอันตรายในครั้งนี้เกรงว่าจะสูงกว่าเดิม”
“เขาบอกว่าต้องการใช้ตะเกียงเคลือบหยกมายาทดลองแลกเปลี่ยนวาสนาอย่างหนึ่ง เพียงแต่ไม่ทราบว่าพูดจากตรงไหน?” เฟิงอวิ๋นเซิงเลิกคิ้วน้อยๆ “หรือว่าจะตามหาทีปังกรพุทธะ?”
ในยุคโบราณตอนต้นมีเรื่องเล่าของตะเกียงสามใบ แยกกันเกี่ยวข้องกับเทวกษัตริย์บรรพกำเนิด เทวกษัตริย์เต๋า และทีปังกรพุทธะที่ตอนนั้นเข้าสู่เต๋า กลายเป็นหรานเติงเต้าหยิน
เยี่ยนจ้าวเกอสีหน้าฉายแววครุ่นคิด “มีความเป็นไปได้ แต่ว่านั่นออกจะโบราณไปแล้ว หากว่ามีวิธีการอะไรจริงๆ ข้ารู้สึกว่าทีปังกรพุทธะสมควรวางแผนไว้ตั้งแต่ยุคโบราณตอนต้นแล้ว”
ตอนนั้นท่านเข้าสู่สำนักเต๋าแปลงกายเป็นหรานเติงเต้าหยิน ค่อนข้างใกล้ชิดกับสำนักเต๋า มีความต้องการอันใดก็สร้างความพอใจได้สะดวก
เยี่ยนจ้าวเกอถึงขั้นสงสัยว่า สาเหตุที่ตอนนั้นอีกฝ่ายเข้ากับสำนักเต๋า เป้าหมายในตอนแรกอาจอยู่ตรงนี้
เรื่องราวที่เกี่ยวข้องยาวนานไปแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี