กระดิ่งสั่นวิญญาณเดิมนับได้ว่าเป็นสินสงครามของเฟิงอวิ๋นเซิง
ที่เยี่ยนจ้าวเกอพูดกลับมิใช่เพื่อเอาใจภรรยาของตัวเอง แต่เป็นความจริง
ดังนั้นเฟิงอวิ๋นเซิงจึงไม่เหนียมอาย หลังคิดเล็กน้อยก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ได้”
สองคนสนทนากัน กลับถึงจักรวาลฟื้น มาถึงฟ้าเหนือฟ้าอีกครั้ง
พวกสวีเฟยกับเกาชิงเสวียนกลับมานานแล้ว สวีเฟยกับร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก ยังมีพ่านพ่านตอนนี้กำลังเข้าฌานพักฟื้น
เกาชิงเสวียนเป็นแขกที่เขากว่างเฉิง ยังมิได้จากไป รอคอยพวกเยี่ยนจ้าวเกอกลับมา
สองฝ่ายพบกัน เยี่ยนจ้าวเกอเพียงพูดถึงปัญหาของกระบี่สังหารเซียน มิได้พูดถึงหยางเจี่ยนมากนัก
กลับมิใช่เพราะไม่เชื่อใจเกาชิงเสวียนกับเสวี่ยชูชิง แต่ปัจจุบันมีเรื่องราวมากมาย ยิ่งคนรู้น้อยเท่าไหร่ยิ่งดีเท่านั้น
คนที่รู้เรื่องเมื่อมีมากแล้ว หมายถึงร่องรอยเพิ่มขึ้น เบาะแสเพิ่มขึ้น ถูกอีกฝ่ายทำนายอนุมานได้ง่ายกว่าเดิม
พวกเกาชิงเสวียนเข้าใจเรื่องนี้เช่นกัน
แค่เรื่องกระบี่สังหารเซียน ได้ยินเพียงเล็กน้อย ก็มากพอที่จะทำให้จิตใจของพวกนางหนักอึ้งได้แล้ว
“เรื่องราวจะดีขึ้นหรือไม่ ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ ขึ้นอยู่กับหลังจากนี้” เยี่ยนจ้าวเกอว่า “พวกเราทำเป็นไม่รู้ไปก่อนเพื่อจะได้มีโอกาสใช้แผนซ้อนแผน”
พวกเสวี่ยชูชิงกับเกาชิงเสวียนต่างพยักหน้าช้าๆ
“เช่นนั้นก็สร้างภาพลวงให้ครบสี่สิบเก้าปี” เกาชิงเสวียนลุกขึ้น “ถ้าหากยึดตามคำพูดของจ้าวเกอเจ้า ครั้งนี้เกรงว่าเหล่าเจ้ามรรคาสามารถอนุมานระยะเวลาที่แม่นยำระหว่างการทำพิธีสองครั้งของเจ้าออกแล้ว”
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า “มิผิด เส้นทางนอกรีตคิดวางแผนเล่นงานพวกเรา อย่างเร็วที่สุดสี่สิบเก้าปีให้หลังกระบี่สังหารเซียนค่อยปรากฏขึ้นบนโลกอีกครั้ง มีแต่ตอนนั้นอีกฝ่ายจะปล่อยเหยื่อล่อปลาออกมา พวกเราค่อยมีโอกาส ไม่อย่างนั้นหากอีกฝ่ายคิดซ่อนกระบี่สังหารเซียนตลอด พวกเรากลับมิอาจลงมือ”
“ถึงจะเป็นเช่นนี้ก็ยังต้องปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์” เสวี่ยชูชิงเอ่ย “เวลาต่อจากนี้จะต้องจับตาดูการต่อสู้ของเส้นทางนอกรีตสองเส้นทางอย่างใกล้ชิด”
หลังจากเยี่ยนจ้าวเกอบอกเล่าเรื่องราวของกระบี่สังหารเซียนเสร็จ เสวี่ยชูชิงก็บอกเขากับเฟิงอวิ๋นเซิงถึงสภาพล่าสุดในการต่อสู้ของโถงเซียนและแดนสุขาวดีบัวขาว
พร้อมกับที่พวกเยี่ยนจ้าวเกอตามหากระบี่ลงทัณฑ์เซียน โถงเซียนกับแดนสุขาวดีบัวขาวก็ยัคงสู้รบดุเดือด
ประมาณห้าสิบปีก่อน เป็นเพราะว่าเศษศิลามนุษย์กำเนิดที่เดิมเป็นของเทวกษัตริย์ไท่อี้ผู้ช่วยให้รอด เทวกษัตริย์ไร้ประมาณกับพระศรีอาริย์พัวพันกันมาตลอด ไม่ยอมเลิกรา
ถึงแม้เศษศิลามนุษย์กำเนิดจะตกไปอยู่ในมือของพระศรีอาริย์แล้ว แต่ว่าเทวกษัตริย์ไร้ประมาณก็ไม่ยอมแพ้ สู้กับพระศรีอาริย์มาถึงวันนี้
โถงเซียนกับแดนสุขาวดีบัวขาว ไปจนตลอดแดนสุขาวดีตะวันตกกับเผ่าปีศาจ ต่างทำศึกกันต่อเนื่อง ระหว่างกันมีผลแพ้ผลชนะ
คนอื่นๆ บางทีไม่อาจตัดสินผลลัพธ์การทำศึกระหว่างเจ้ามรรคาได้โดยตรง แต่ว่าการต่อสู้อย่างรุนแรงที่เล็งเป้าหมายไปยังประชากรและความสรัทธาของเส้นทางนอกรีตทั้งสองยิ่งมายิ่งรุนแรง
สมมติว่าฝั่งหนึ่งในนี้เสียหายมากเกินไป อาจะทำให้เจ้ามรรคาฝ่ายตัวเองลงมือช่วยเหลือ
เมื่อเป็นแบบนี้ การต่อสู้ระหว่างเจ้ามรรคาทั้งสองย่อมได้รับผลกระทบโดยอัตโนมัติ
ดังนั้นการทำสงครามขนาดใหญ่ทุกด้านระหว่างโถงเซียนกับแดนสุขาวดีบัวขาวจึงดำเนินมาเกือบห้าสิบปีแล้ว
ในประวัติศาสตร์การต่อสู้ของสองฝ่าย แม้นมีสงครามดุเดือดที่กินเวลามากกว่าร้อยปี แต่อย่างไรก็เกิดขึ้นน้อยสุดขีด
ศึกใหญ่ทุกด้านตลอดเวลาห้าสิบปี เปรียบเทียบกันแล้ว เห็นได้ไม่บ่อยนัก
ถึงอย่างไรพลังศรัทธาที่มั่นคง นอกจากสงครามความศรัทธา ยังจำเป็นต้องพักฟื้น จะต้องมีผ่อนมีตึงสลับกันไปจึงจะถูกต้อง
แต่ว่าครั้งนี้เรื่องราวเกี่ยวพันถึงเศษศิลามนุษย์กำเนิด สองฝ่ายล้วนทุ่มเทเต็มที่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี