ใจกลางแดนสุขาวดีตะวันตก เป็นวิหารศาสนาพุทธหลังหนึ่ง ไฟตะเกียงสว่างไสว แสงเจ็ดสีวนเวียน
ทีปังกรพุทธะมาถึงที่นี่ ประนมมือไหว้ไปทางวิหาร
ที่นี่คือที่ที่อามิตาภพุทธเจ้าหนึ่งในสองศาสดาแห่งศาสนาพุทธ ผู้ปกครองแดนสุขวดีตะวันตกอยู่
ในวิหารไม่มีเสียงตอบคำขอของทีปังกรพุทธะ มีแค่ปัทมาสน์สีเขียวสิบสองกลีบแท่นหนึ่งลอยออกมา ตกลงเบื้องหน้าทีปังกรพุทธะ
“พระพุทธองค์เมตตา” ทีปังกรพุทธกล่าวขอบคุณ แล้วขึ้นไปบนบัวเขียวสิบสองกลีบนั้น
ปัทมาสน์นำท่านบินออกจากแดนสุขาวดีตะวันตก มาถึงความว่างเปล่าไร้สิ้นสุพนอกเขตแดน จากนั้นก็เริ่มลอยสูง เหมือนกับไปยังสถานที่ที่อยู่ ‘สูง’ กว่าความว่างเปล่าไร้สิ้นสุพนอกเขตแดน
ทีปังกรพุทธะนั่งบนบัวเขียวสิบสองกลีบ นิ่งเงียบไม่พูดจา ความคิดล่องลอย
ครั้งมหาภัยพิบัติ ท่านเคยไปยังจุดหมายเดียวกันบน ‘เส้นทาง’ เดียวกัน เพียงแต่ครั้งนี้ เรื่องที่ต้องการกระทำกลับแตกต่าง
ปัทมาสน์เขียวบรรทุกทีปังกรพุทธะ ‘ลอยขึ้น’ ค่อยๆ เข้าใกล้สถานที่แห่งหนึ่ง
ที่นั่นยากกำหนดตำแหน่ง ยากค้นหาร่องรอย เหมือนกับแดนเซียนอันเป็นมายา น่าอัศจรรย์สุดบรรยาย
“สหายเก่ามาเยือน ไม่ทราบสหายร่วมเส้นทางเสวียนตูอยู่หรือไม่?”
ครู่ต่อมา ตรงหน้าทีปังกรพุทธะสว่างขึ้น แดนเซียนนั้นพลันกว้างขวางขึ้น ถูกรับเข้ามาด้านในแล้ว
ในนี้ดารดาษด้วยดอกไม้วิญญาณและหญ้าประหลาด สัตว์วิเศษนกเซียนกระจายอยู่ทั่ว
ระหว่างน้ำตกอันงดงาม ตั้งไว้ด้วยตำหนักที่ดูธรรมดาหลังหนึ่ง
บนประตูตำหนักแขวนแผ่นป้าย เขียนว่า ‘วังดุสิต’ สามคำ ดูธรรมดาไม่มีความพิเศษ แต่ว่าจุดประกายการบำเพ็ญ ยิ่งเป็นคนที่มีระดับพลังฝึกปรือสูง ยิ่งทำความเข้าใจความลี้ลับนับไม่ถ้วนจากด้านในได้
เด็กคนหนึ่งยืนอยู่หน้าประตูตำหนัก คารวะทีปังกรพุทธะ “นายผู้เฒ่าน้อยรออยู่ที่ตำหนักข้าง ขอให้อดีตพุทธะไปพูดคุย”
“ได้” ทีปังกรพุทธะพยักหน้า ลงจากปัทมาสน์สีเขียว ติดตามนักพรตเด็กเข้าไปในตำหนัก
มาถึงตำหนักข้างหลังหนึ่ง ด้านในมีคนนั่งอยู่บนอาสน์ เป็นพระอาจารย์เสวียนตู ผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งเป็นผู้สืบทอดสายเอกพิสุทธิ์
สองฝ่ายคุ้นเคยกันมาตั้งแต่ยุคโบราณตอนต้น สนทนากันบ่อยๆ
ยังเกิดการกระทบกระทั่งกันตอนมหาภัยพิบัติในยุคสมัยนี้
แต่ว่าทีปังกรพุทะะคล้ายลืมเลือนเรื่องราวในตอนเกิดมหาภัยพิบัติหมดสิ้น สีหน้าสงบนิ่ง กล่าวเหมือนคิดถึงเล็กน้อย “ไม่ได้มาวังดุสิตเสียนาน เหล่าจวินสาบายดี? สหายร่วมเส้นทางเสวียนตูสบายดี?”
ท่านหยิบอาสน์ใบหนึ่งมาอย่างคุ้นเคย แล้ววางลงตรงหน้าพระอาจารย์เสวียนตู ก่อนจะนั่งประจัญหน้ากับอีกฝ่าย
พระอาจารย์เสวียนตูไม่ได้พูดถึงเรื่องในอดีต กล่าวอย่างราบเรียบ “นายผู้เฒ่าใหญ่ย่อมสบายดี ส่วนข้าไม่ได้เรื่อง เพียงอยู่ไปวันๆ”
“สหายร่วมเส้นทางเสวียนตูถ่อมตนไปแล้ว” ทีปังกรพุทธะยิ้ม “โยมศึกษความเรียบง่าย สร้างสายฟ้าในที่ไร้เสียง แสดงความสามารถแท้จริงในความธรรมดา บรรลุการถ่ายทอดวิชาของเหล่าจวินอย่างล้ำลึก ก้าวย่างได้เหนือกว่าและสูงกว่าคนมากมาย คนที่เหลือเพียงได้วาสนาสองสามส่วน”
กล่องแพรใบหนึ่งปรากฏขึ้นในแสงพุทธสมบูรณ์บนศีรษะของท่าน
ทีปังกรพุทธะหยิบกล่องแพรออกมา จากนั้นวางลงบนพื้น ผลักไปถึงจุดที่พระอาจารย์เสวียนตูเอื้อมมือถึง
“ข้าได้มาโดยบังเอิญเมื่อหลายปีก่อน อาจจะช่วยเหลือสหายร่วมเส้นาทงได้อีกแรง”
พระอาจารย์เสวียนตูมองกล่องแพรใบนั้น เปลือกตาสั่นไหวเล็กน้อย ยื่นมือมาจับกล่องแพร แล้วเปิดออก
แสงวิเศษพุ่งปะทะหน้า ส่องใบหน้าของพระอาจารย์เสวียนตู
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี