สายฟ้าระเบิดติดต่อกัน ขณะไหลซัด ไม่เพียงโอบล้อมมหาสถามปราบต์โพธิสัตว์ ถึงขั้นระเบิดใส่หนอนเก้าเศียร กดดันจนหนอนเก้าเศียรไม่อาจไม่ลดสภาวะโจมตีต่อทางเยี่ยนจ้าวเกอชั่วขณะ
ทว่ามหาสถามปราบต์โพธิสัตว์ก็ไม่ได้รีบร้อน แต่มองดูกระบี่ลงทัณฑ์เซียนในมือเยี่ยนจ้าวเกอ คล้ายนึกอะไรออก
แสงสีเขียวบนกระบี่ลงทัณฑ์เซียนเงียบสงัด ทำลายทุกสรรพวิชา แต่ขณะที่สร้างอานุภาพอันน่าสะพรึง กลับกระตุ้นตัวตนในระดับสูงกว่าได้โดยง่าย
สายลมและก้อนเมฆกระเพื่อมระหว่างจักรพรรดิ จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ใช้ม่านแสงสายฟ้าที่สร้างขึ้นจากวิชาลับสายฟ้าอนัตตา เปลี่ยนเป็นไม่มั่นคงขึ้นมาอย่างกะทันหัน เหมือนกับได้รับแรงกดดันที่มาโดยฉับพลัน
“มีเจ้ามรรคาคิดเคลื่อนไหวแล้ว” ไม่เพียงแต่ตัวจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ แม้แต่มหาสถามปราบต์โพธิสัตว์กับหนอนเก้าเศียรที่อยู่ตรงข้าม จิตใจเหมือนกระจกใส
เจ้ามรรคาไม่ได้มาอย่างแท้จริง แต่ว่าความสนใจของอีกฝ่ายก็มาอยู่ตรงนี้อย่างชัดเจน
วิชาลับของจักรพรรดิอายวุัฒนาหนานจี๋สามมารถขัดขวางการส่งข่าวของมหาสถามปราบต์โพธิสัตว์กับหนอนเก้าเศียรที่อยู่ในระดับมหาชาล แต่ว่าเกิดเจ้ามรรคามีความคิดเคลื่อนไหวก็สามารถลบเลือนได้อย่างรวดเร็ว
ในสถานการณ์เช่นนี้ จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋จำเป็นต้องหลบหนีซ่อนตัวให้เร็วที่สุด
เยี่ยนจ้าวเกอไม่ควบคุมกระบี่ลงทัณฑ์เซียนต่อ ถึงแม้กระบี่ลงทัณฑ์เซียนจะเป็นศาสตราวุธ เยี่ยนจ้าวเกอในฐานะเจ้าของเดิมทียังไม่ได้ไปถึงระดับมหาชาล แต่ว่าสถานการณ์ในวันนี้มีความพิเศษ ยากจะบอกว่าเจ้ามรรคาสักคนจะทำลายกฎหรือไม่
ดังนั้นพอพวกเยี่ยนจ้าวเกอกับจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋กดดันคู่ต่อสู้ของแต่ละคนได้ ก็เริ่มออกจากอาณาบริเวณปัจจุบันทันที
มหาสถามปราบต์โพธิสัตว์กับมหาเทวะเก้าเศียรเเปลี่ยนจากตั้งรับเป็นโจมตี
ตอนนี้หนอนเก้าเศียรสงบเพลิงโทสะ เยือกเย็นลงแล้ว ขอแค่ถ่วงเวลาการหนีของพวกเยี่ยนจ้าวเกอได้ก็พอ
ระหว่างคู่ต่อสู้ระดับเดียวกัน ถ้าหากไม่คิดสู้ตาย ต้องการถอยหนีอย่างเดียว โอกาสสำเร็จมีสูงยิ่ง
แต่จะถอยอย่างไร สถานการณ์แตกต่างกันไป
เมื่อไม่มีความได้เปรียบด้านความเร็วอย่างเผิงท่องเมฆหมื่นลี้ ยามเผชิญการพัวพันของมหาสถามปราบต์โพธิสัตว์และหนอนเก้าเศียร พวกเยี่ยนจ้าวเกอกับจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋คิดจะถอนตัว ไม่ใช่ใช้เวลาแค่ชั่วครู่
แต่หากถ่วงเวลาไว้ได้ จนคนอื่นมาถึง จะจากไปได้หรือไม่ก็ยากจะบอกแล้ว
มหาสถามปราบต์โพธิสัตว์กับหนอนเก้าเศียนรู้เรื่องนี้ดี จึงพัวพันไม่ลดละ เล็งเป้าหมายที่เยี่ยนจ้าวเกอและกระบี่ลงทัณฑ์เซียนโดยเฉพาะ
แต่ว่าในตอนนั้นเอง ม่านแสงสายฟ้าเปิดออก พลังที่หนักอึ้งและมีสภาวะยิ่งใหญ่มาจากด้านนอก
แสงพุทธของมหาสถามปราบต์โพธิสัตว์กับพายุของหนอนเก้าเศียรปะทะกับแสงสว่างสีเหลืองมัวซัวและหนักอึ้งนั้น หนึ่งพุทธหนึ่งปีศาจต่างขมวดคิ้ว “มารดาแห่งแผ่นดิน!”
เหมือนกับดินไร้สิ้นสุดครอบคลุมสี่ทิศ ช่วยขวางทางทัพไร้ตามให้แก่พวกเยี่ยนจ้าวเกอ
สายฟ้าด้านจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ดังขึ้น สายฟ้าพุ่งลงบนดิน ดินไม่แหลกสลาย กลับมีต้นไม้สูงเทียมฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนเติบโตอย่างบ้าคลั่ง
พริบตานั้น จักรวาลอันกว้างใหญ่ปรากฏป่ายุคดึกดำบรรพ์ในทันใด
ความกว้างใหญ่ของพื้นที่ที่ป่าคลอบคลุม เหมือนกับถมเต็มจักรวาลทะเลดาว ความสูงใหญ่ของต้นไม้ที่อยู่ด้านในเหนือกว่าจินตนาการของคนทั่วไป แต่ละต้นเหมือนกับเสาค้ำฟ้า
กิ่งใบหนาแน่นเหมือนกับกรงขัง ถึงกับจองจำยอดฝีมือชั้นมหาชาลอย่างหนอนเก้าเศียรกับมหาสถามปราบต์โพธิสัตว์ไว้ด้านใน
วินาทีถัดมา พายุพัดโหม ตัดต้นไม้ใหญ่ทีละต้นๆ เหมือนกับมีด
แสงพุทธสว่างไสว สาดส่องโลกอันมืดมิดใต้เงาต้นไม้ ไม่ได้พองออกด้านข้าง พองออกไปด้านข้าง ผลักป่าไม้คว่ำลงอย่างต่อเนื่อง
มหาสถามปราบต์โพธิสัตว์กับหนอนเก้าเศียรออกจากวงล้อมได้อย่างผ่อนคลาย
แต่ตรงหน้าไม่มีเงาของพวกเยี่ยนจ้าวเกอกับจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋แล้ว
มหาสถามปราบต์โพธิสัตว์อุ้มศพของอรหันต์แคะหู อรหันต์ถุงผ้าที่กายทองมัวหม่นยืนอยู่ด้านข้าง นักบวชศาสนาพุทธสองท่านต่างถอนใจ
จ้าวปีศาจร้อยตาสงบจิตใจ สีหน้าไม่น่าดูถึงขีดสุด
หนอนเก้าเศียรกลายเป็นร่างมนุษย์ใหม่ สีหน้าน่าเกลียดยิ่งกว่าจ้าวปีศาจร้อยตา “มารดาแห่งแผ่นดิน...”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี