พอเห็นเซียนเมฆดำกำลังจะเข้ามาในค่ายกล พระอาจารย์เสวียนตูก็ขมวดคิ้วขึ้นมา
เขาคิดขัดขวาง แต่ว่ารูปไท่จี๋ก่อนกำเนิดที่ก่อนหน้านี้คลุมน่านน้ำในธารสวรรค์ ยามนี้สลายไปโดยสมบูรณ์
บัวเขียวที่ลอยนิ่งอยู่กลางน้ำ กำลังจะบานออกอีกครั้ง
เสียงเวิงดังขึ้นบนพิณฝูซีอีกรอบหนึ่ง!
สายพิณเส้นที่สามขาด แสงสว่างไหลเวียน รูปไท่จี๋ก่อนกำเนิดใบใหม่ปรากฏขึ้น ครอบคลุมรอบๆ ธารสวรรค์อีกครั้งหนึ่ง
ถึงตรงนี้ พิณฝูซีชิงเวลาชั่วครู่ให้ใหม่
แต่ว่าสายพิณที่เหลืออยู่ มีแค่เส้นสุดท้าย
คนที่อยู่บนสมรภูมิรบกันรุนแรงขึ้นกว่าเดิม
ลู่ยาเต้าจวินหมุนน้ำเต้าติดต่อกัน ประกายคมจากการลงมือครั้งสุดท้ายของมีดบินสังหารเซียนถูกเขาเก็บ แต่ว่าความแข็งแกร่งของการหยุดร่างล่อลวงจิตใจ กลับถูกผลักดันสู่จุดสูงสุด
หลังจากแสงขาวหมุนอยู่บนร่างหยางเจี่ยนรอบหนึ่ง ก็ครอบคลุมกายทองมหาเทวะอีกครั้ง ทำให้พวกเขาสับสน
เฟิงอวิ๋นเซิงพ่นลมหายใจออกยาวๆ ไม่ซ่อนในความว่าเปล่าอีก แต่ว่าสาวเท้าไปเบื้องหน้า ฟันดาบใส่น้ำเต้าสังหารเซียนในมือลู่ยาเต้าจวิน!
ประกายดาบสีดำกับเส้นแสงสีขาวที่น้ำเต้าพ่นออกมา ปะทะและส่องสะท้อนกันเอง
แสงสีดำหมุนอย่างหักโหม แสงสีขาวกลับสั่นไหวขึ้นมา
ปะทะกับของวิเศษเช่นนี้ เฟิงอวิ๋นเซิงได้เปรียบกว่าหยางเจี่ยน ด้วยการคุกคามจากประกายดาบเหวลึกโกลาหลสูญ กำลังจะฟันเส้นแสงสีขาวนั้นให้ขาดลง
ทว่าวานรขาวเชื่อมฟ้าตัวหนึ่ง ยามนี้ไล่ตามมาใหม่ หยุดเฟิงอวิ๋นเซิงไว้
ประกายดาบของเฟิงอวิ๋นเซิงบ้าคลั่งน่ากลัว แต่ว่าวานรขาวตรงหน้าก็สุดที่คนธรรมดาจะเทียบได้เช่นกัน
เมื่อครู่ยามเผชิญหยางเจี่ยน หยวนหงถูกเล่นงานอย่างน่าอนาถ แต่ว่านั่นเป็นเพราะสิ่งที่เขาถนัด หยางเจี่ยนไม่เพียงกระทำได้ ยังบดขยี้เขาในทุกๆ ด้าน
กระนั้นเผชิญหน้าคนอื่นนอกจากหยางเจี่ยน หยวนหงแสดงวิชากรเปลี่ยนแปลงเชื่อมฟ้าดินออกมา ประสานกับพละกำลังอันมหาศาล เป็นยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่ระดับสุดยอดไม่กี่ตนในเผ่าปีศาจเช่นกัน
เขาต่อสู้กับเฟิงอวินเซิง ผลแพ้ชนะยากจะแยกแยะออกในระยะเวลาสั้นๆ กลับทำให้เฟิงอวิ๋นเซิงมิอาจเข้าใกล้ลู่ยาเต้าจวิน
เผิงท่องเมฆหมื่นลี้หันไปหาเรื่องหยางเจี่ยน
ถึงแม้เขาจะสู้หยางเจี่ยนไม่ได้ แต่ด้านหยางเจี่ยนก็ได้รับการโจมตีจากยอดฝีมือศาสนาพุทธเช่นกัน
ลู่ยาเต้าจวินไม่ได้ลงมือ แต่คอยควบคุมสถานการณ์ โยกย้ายยอดฝีมือเผ่าปีศาจ คอยหาโอกาส
พระอาจารย์เสวียนตูซึ่งกอดพิณฝูซีไว้มาโดยตลอด ไม่ได้ออกโรงลงมือด้วยตัวเอง ยิ่งเป็นเป้าหมายที่เขาให้ความสำคัญกว่า
มีดบินสังหารเซียนเดี๋ยวเก็บเดี๋ยวปล่อย ขณะที่เคลื่อนย้ายไปอย่างเป็นธรรมชาติ ก็ส่งผลคุกคามคน แม้แต่นักบวชศาสนาพุทธก็กำลังป้องกันแสงสีขาวอันน่ากลัวสายนั้นเช่นกัน
สั่วหมิงจางเห็นดังนั้นก็ขมวดคิ้ว แต่ไม่อาจปล่อยทีปังกรพุทธะที่อยู่ตรงหน้าตนไป
ไม่อย่างนั้นทีปังกรพุทธะจะต้องไม่ร่วมมือกับเขาไปรับมือลู่ยาเต้าจวิน แต่อาศัยเขาขัดขวางลู่ยาเต้าจวิน จากนั้นอดีตพุทธะองค์นี้ก็จะไปเอาค่ายกลลงทัณฑ์เซียน
ถึงหยางเจี่ยนจะพิสูจน์แล้วว่าตอนเผชิญมีดบินสังหารเซียนในวันนี้ตนมิใช่ไม่มีพลังโต้กลับ แต่กลับยังมีคู่ต่อสู้คนอื่นๆ อย่างเผิงท่องเมฆหมื่นลี้คอยพัวพันด้านข้าง ทำให้เขามิอาจตัดสินสูงต่ำกับลู่ยาเต้าจวินได้อย่างแท้จริง
เขากลับคิดปล่อยยุทธวิชัยพุทธะกับมหาสถามปราบต์โพธิสัตว์ไป
ในสถานการณ์ปกติ เผิงท่องเมฆหมื่นลี้จะไปหยุดคนจากศาสนาพุทธเช่นกัน
ระหว่างเผ่าปีศาจกับศาสนาพุทธเป็นคู่ต่อสู้ที่ช่วงชิงค่ายกลลงทัณฑ์เซียนเหมือนกัน
แต่ปัญหาอยู่ที่พวกยุทธวิชัยพุทธะมีธงวิเศษบัวเขียวในมือ นอกจากหยางเจี่ยนแปลงเป็นมหาพุทธะใช้พุทธเกษตรในฝ่ามือขังพวกท่านแล้ว ประจัญหน้ากับคู่ต่อสู้คนอื่นอย่างเผิงท่องเมฆหมื่นลี้ พวกยุทธวิชัยพุทธะไม่จำเป็นต้องสนใจ พุ่งเข้าไปในค่ายกลลงทัณฑ์เซียนได้โดยตรง
แม้แต่มีดบินสังหารเซียนของลู่ยาเต้าจวินก็เกรงว่าจะทำอะไรพวกท่านไม่ได้
หากปล่อยให้พวกท่านเข้าไปในค่ายกลลงทัณฑ์เซียน ผลลัพธ์จะย่ำแย่ยิ่งกว่าเซียนเมฆดำตนเดียวเสียอีก
ดังนั้นหยางเจี่ยนได้แต่สะกดเหล่านักบวชจากศาสนาพุทธอย่างยุทธวิชัยพุทธะ ทางหนึ่งต่อสู้กับเผิงท่องเมฆหมื่นลี้ ขณะเดียวกันยังต้องคอยระวังมีดบินสังหารเซียนของลู่ยาเต้าจวิน
เห็นลู่ยาเต้าจวินแสดงอานุภาพเหลือล้น มีสภาวะข่มขวัญทุกผู้คนชั่วขณะ ธารสวรรค์ตรงหน้าสั่นไหวเบาๆ อีกครั้ง
แสงดาวหกสายสว่างขึ้นในความว่างเปล่า กลิ่นอายการฆ่าฟันแผ่พุ่ง
บุรุษที่สวมมงกุฎ ใส่ชุดเต๋า เค้าหน้าน่าเกรงขามเหมือนจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ปรากฏตัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี