สืบสาวถึงที่สุด สถานการณ์ร่วมกันต่อจากนี้ของขุมกำลังทุกฝ่ายต่างอยู่ที่นพยมโลก
ความอดทนต่อนพยมโลกในบางครั้ง ต่างก็เพื่อภายภาคหน้า ถึงขั้นมอบความสะดวกสบายส่วนหนึ่งให้นพยมโลก
นพยมโลกรู้เรื่องนี้เต็มอก มีแผนการของตัวเองเช่นกัน ทุกฝ่ายกำลังเตรียมตัวอยู่
ครั้งนี้สำนักเต๋าให้เฟิงอวิ๋นเซิงเฉือนอำนาจมารสวรรค์ปัจฉิมธรรมส่วนหนึ่งทิ้งคืนแก่นพยมโลก มีเหตุผลคล้ายกัน
ไม่อย่างนั้นขุมกำลังทั้งหมดร่วมมือกันสะกด ต่อให้ไม่กลุ้มรุมโจมตี ก็ทำให้นพยมโลกยากจะพัฒนาเหมือนบึงน้ำนิ่ง ติดอยู่ในสภาพลำบาก
ในการช่วงชิงสารีริกธาตุศากยมุณีเมื่อก่อนหน้า นพยมโลกลงมืออย่างฉับพลัน ช่วยเหลือเผ่าปีศาจ ต้องได้อะไรสักอย่างจากเผ่าปีศาจแน่
กล่าวให้ถูกต้อง นี่เป็นเผ่าปีศาจมอบความสะดวกส่วนหนึ่งให้นพยมโลก แน่นอนว่าเป้าหมายสุดท้ายก็เพื่อความราบรื่นของตัวเอง การแลกเปลี่ยนตรงหน้าต่างฝ่ายต่างได้สิ่งที่ต้องการ เผ่าปีศาจได้ผลประโยชน์ส่วนหนึ่ง แต่ในระดับลึกกว่า ยังเพื่อการวางสถานการณ์ระยะยาว
วิธีการในตอนนี้ของพวกเยี่ยนจ้าวเกอก็มีส่วนที่เหมือนกับพวกเขา
กล่าวในระดับหนึ่ง วินาทีที่แลกเปลี่ยนกับนพยมโลก นี่ก็มิใช่เรื่องราวระหว่างอวี่เย่กับเนี่ยจิงเสินอีกแล้ว แต่เป็นการติดต่อระหว่างสำนักเต๋าทั้งหมดกับนพยมโลก ถึงขั้นยังอาจม้วนขุมกำลังอื่นๆ เข้ามา ข้องเกี่ยวกับสถานการณ์ใหญ่โดยรวมในอนาคต
หลังจากวางแผนเรียบร้อย ทุกคนก็เริ่มติดต่อกำลังคน
คนที่ติดต่อเป็นคนแรก ก็คือเจ้าแม่อู๋ตังผู้ควบคุมค่ายกลลงทัณฑ์เซียนในปัจจุบัน เจ้าแม่อู๋ตังไม่มีความคิดเห็นขัดแย้ง
นางกับค่ายกลลงทัณฑ์เซียนหลอมรวมเข้าไปในความว่างเปล่า เหมือนกับลอยอยู่เหนือ ‘ฟ้า’ ก่อนหน้านี้ส่วนใหญ่จับตาดูศึกใหญ่ของโถงเซียนกับแดนสุขาวดีบัวขาว ตอนนี้เริ่มย้ายความสนใจไปที่นพยมโลก
คนอื่นๆ ยากจะสัมผัสการเปลี่ยนแปลงไร้รูปร่างในนี้ได้โดยตรง ทว่ามารสวรรค์ไร้พันธนาในฐานะผู้ยิ่งใหญ่ระดับมรรคา จะต้องสัมผัสได้แน่
ทางหยางเจี่ยนก็ได้รับการแจ้งข่าวเช่นกัน ถึงเขาจะไม่ได้กลับมา แต่ก็ส่งข่าวตอบ บอกว่าตนจะให้ความสนใจเรื่องนี้
บางทีอาจไม่เข้าร่วมการเคลื่อนไหวซึ่งเป็นทั้งการแลกเปลี่ยนและการแลกคมในครั้งนี้กับนพยมโลกด้วยตัวเอง แต่ว่าหยางเจี่ยนจะจับตาดูทิศทางของขุมกำลังอื่นๆ เช่นเผ่าปีศาจ แดนสุขาวดีตะวันตก หลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกคนอื่นเป็นชาวประมงฉวยโอกาส
ข่าวส่งไปให้พระอาจารย์เสวียนตูที่อยุ่ในวังดุสิตด้วย อีกฝ่ายจะให้ความสนใจเช่นกัน
อีกด้านหนึ่ง สั่วหมิงจางผนึกสวรรค์ไท่อันหวงหยา ออกมาจากด้านใน
ครั้งนี้เขาออกมา ได้นำธงวิเศษบัวเขียวที่กลับมาสะอาดบริสุทธิ์อีกครั้งออกมาด้วย มอบให้เยี่ยนจ้าวเกอ
ถึงในการเผชิญกับวิถีมารแห่งนพยมโลก ธงวิเศษบัวเขียวสมควรยากแสดงความสามารถ แต่ของล้ำค่าเช่นนี้ เยี่ยนจ้าวเกอยังรับไว้ด้วยความปรีดา
ทุกคนเก็บกวาดเรียบร้อย ขณะมองอวี่เย่กับเยว่เจิ้นเป่ยที่สีหน้ายังนับว่าสงบนิ่ง เยี่ยนจ้าวเกอถอนใจเบาๆ “พวกเราเดินทาง”
ทุกคนออกจากสวรรค์สำนักเต๋า ข้ามผ่านความว่างเปล่าไร้สิ้นสุดหลายชั้น
สำหรับพวกเขาแล้ว ตำแหน่งไม่ต้องตั้งใจค้นหา
สำหรับจอมยุทธ์ที่พลังฝึกปรือค่อนข้างต่ำบางทีอาจลำบาก แต่ว่าพวกเยี่ยนจ้าวเกอในปัจจุบันไม่ทันไรก็เหยียบลงบนชายฝั่งยมโลกผืนหนึ่ง
ด้วยพลังฝึกปรือของพวกเยี่ยนจ้าวเกอ เฟิงอวิ๋นเซิง สั่วหมิงจาง การทำลายปราณมารนพยมโลกที่กัดกินความว่างเปล่าแห่งนี้อยู่มิใช่เป็นไปไม่ได้ แต่ว่าตอนนี้ไม่มีความจำเป็นต้องเคลื่อนไหวแบบนี้
ยืนนิ่งอยู่บนอาณาเขตสีดำทะมึน อวี่เย่ไม่ได้เหม่อลอยเหมือนยามปกติ แต่ว่าเพ่งสมาธิ สองตาเป็นประกาย
ตรงกันข้าม เยี่ยนจ้าวเกอกวาดมองชายฝั่งยมโลกรอบๆ สายตาไม่มีจุดรวมศูนย์ เหมือนกับกำลังเหม่อ
เฟิงอวิ๋นเซิงเก็บกลิ่นอาย อยู่ในชายฝั่งยมโลก นางเหมือนกับปลาได้น้ำมากกว่า คล้ายหลอมรวมกับความมืดโดยสิ้นเชิง ทำให้คนยากจะสัมผัสได้
อีกด้านหนึ่งสั่วหมิงจางยืนอยู่ตรงนั้น เหมือนใจกลางจักรวาล ต่อให้จะอยู่บนชายฝั่งยมโลกที่ปราณมารแผ่พุ่ง ยังคงดึงดูดสายตาสะท้านจิตใจ
“เจ้ามาที่นี่ก็เสี่ยงอันตรายเช่นกัน ทราบหรือไม่?” สั่วหมิงจางยืนนิ่ง อยู่ๆ ก็ถามอวี่เย่ด้านข้าง
“ผู้เยาว์ทราบ” อวี่เย่ตอบ “พวกจ้าวเกอบอกข้าแล้ว”
นางเป็นคนที่ฝึกฝนคัมภีร์โกลาหลสูญ โลกนี้มีหนึ่งไม่มีสอง
ขอแค่นางยังมีชีวิต คนอื่นๆ แม้ได้คัมภีร์โกลาหลสูญ ก็มิอาจฝึกฝน
ถ้ามิใช่เช่นนี้ ครั้งกระโน้นนางคงไม่ถูกจางปู้ซวีไล่ฆ่า
การดำรงอยู่ของคัมภีร์โกลาหลศูนย์ สำหรับนพยมโลก และมารสวรรค์ไร้พันธนาแล้ว ขวางหูขวางตามากเช่นกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี