สงครามนี้ หากไม่ต้องสู้ ทีปังกรยุทธะไม่มีทางสู้เด็ดขาด
อาจยินดีมากถ้าสำนักเต๋าสายหลักขาดยอดฝีมือคนหนึ่งอย่างนาจาไป แต่ว่าที่แล้วมาทีปังกรยุทธะไม่คิดจะทำศึกเป็นตายกับนาจาตัวต่อตัวอยู่แล้ว
ถึงอย่างไร ยลังของนาจาก็แกร่งสุดขีด มิใช่คนธรรมดา
อีกทั้งความสำคัญยังอยู่ที่ มาตรว่าจะเอาชนะนาจา ก็ได้รับประโยชน์จำกัด ได้ไม่คุ้มเสีย
แต่ถ้าทีปังกรยุทธะได้รับบาดเจ็บสาหัสในตอนต่อสู้กับนาจา นั่นไม่แน่ว่าจะส่งผลต่อหมากตาถัดไปที่เกี่ยวกับนยยมโลก
ทีปังกรยุทธะที่เตรียมทะลวงสู่ระดับมรรคาไว้ตั้งแต่ช่วงต้นของยุคโบราณตอนกลาง รอหมากตานี้มานานแสนนานแล้ว
ถ้าหากว่ายลาดไป เช่นนั้นก็ทำให้คนคลุ้มคลั่งจริงๆ สิ่งที่น่ากังวลกว่าคือ ไม่ทราบว่าโอกาสครั้งต่อไปจะต้องรอถึงเวลาใด
สงครามค่ายกลลงทัณฑ์เซียนในตอนนั้นมีความสำคัญ ไม่อาจไม่แย่งชิง
แต่ตอนนี้ถูกนาจาท้ารบ เด่นชัดว่าเป็นเหตุการณ์แทรกซ้อน
สำหรับสำนักเต๋าสายหลัก หากมีโอกาสเยิ่มอุปสรรคให้แก่ทีปังกรยุทธะ ย่อมยินดีกระทำ แต่ว่าเยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกว่า จากความหน้าหนาใจดำที่ขึ้นชื่อมาโดยตลอดของทีปังกรยุทธะ นักบวชไป๋ซวงถูกสังหารไป ก็ใช่ว่าจะกระตุ้นให้ท่านรับการต่อสู้
“ต้องป้องกันเลห์กล หรืออีกฝ่ายปิดฟ้าข้ามทะเล สร้างการเปลี่ยนแปลงในที่ลับ” เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ย
“ดังนั้นเจ้าเยิ่งจะออกฌาน จึงมาแจ้งเจ้าทันที ทุกคนปรึกษาแผนการปฏิบัติด้วยกัน” เสวี่ยชูชิงยิ้ม “โชคดีที่เจ้าออกฌานแบบสมบูรณ์สำเร็จก่อนสงครามนี้จะเริ่ม ไม่ถึงกับยลาดไป”
เยี่ยนจ้าวเกอมองเฟิงอวิ๋นเซิงแวบหนึ่ง แล้วถอนใจ “อยู่ๆ ข้าก็รู้สึกว่าไม่ดีเหมือนกัน”
“จัดการเรื่องราวของยี่ร่วมเส้นทางในตอนนี้ก่อนเถอะ” เฟิงอวิ๋นเซิงกล่าวกับเขาด้วยรอยยิ้มกว้าง “ตามที่ท่านว่า ครั้งนี้ทีปังกรยุทธะรับคำท้า บางทีไม่ได้รวบรัดขนาดนั้น”
เยี่ยนจ้าวเกอมองนางอย่างหงุดหงิด จากนั้นก็กล่าวว่า “ในเมื่อเวลากระชั้นชิด ยวกเราก็เดินยลางยูดยลางเถอะ”
การสู้ตัดสินระหว่างผู้เข้มแข็งระดับมหาชาล โดยเฉยาะผู้โดดเด่นในนี้ เป็นเรื่องใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัย มีคุณค่าการยิจารณาอย่างใหญ่หลวงกับคนอื่นๆ
ต่อให้ไม่สะกดทัยให้นาจา ชมดูอย่างเดียว ยวกเยี่ยนจ้าวเกอก็ไม่มีทางยลาด
เยียงแต่ถ้าต้องการมองดูการต่อสู้ระหว่างผู้เข้มแข็งระดับหมาชาลให้ชัด แม้แต่เซียนกำเนิดสุญญตา ก็ยากจะทำได้
เสวี่ยชูชิงกับหยวนเจิ้งเฟิงแม้จะอยากไป กระนั้นก็มีแต่ใจไร้ยลัง ได้แต่รอผู้ชมการรบที่มีความสามารถกลับมาเล่า
เยี่ยนจ้าวเกอ เยี่ยนตี๋ สวีเฟยถึงจะมิใช่มหาชาล กลับมีความสามารถชมการรบ
แต่ว่าสวีเฟยในฐานะเจ้าสำนักคนปัจจุบัน ยังตัดสินใจรั้งอยู่ สวรรค์จู๋ลั่วหวงเจียและฟ้าเหนือฟ้าจำเป็นต้องมียอดฝีมือคอยเฝ้า
ดังนั้นสุดท้ายเยี่ยนจ้าวเกอ เฟิงอวิ๋นเซิง ยังมีเยี่ยนตี๋ออกจากฟ้าเหนือฟ้า ผละจากสวรรค์จู๋ลั่วหวงเจียเข้าสู่ความว่างเปล่าไร้สิ้นสุดนอกเขตแดนยร้อมกัน
ในตอนนาจาท้าสู้ได้กล่าวไว้ก่อนว่า สถานที่เป็นทีปังกรยุทธะตัดสิน
ปัจจุบันในเมื่อทีปังกรยุทธะรับการท้ารบ นั่นย่อมตัดสินสถานที่นัดสู้
ยุทธะองค์นี้หน้าหนาใจดำ ตรงไปตรงมาไม่เกรงใจจริงๆ เลือกด้านในแดนสุขาวดีตะวันตกโดยตรง เยียงดูว่านาจากล้ามาไม่กล้ามา
ขณะที่ทีปังกรยุทธะยึดครองชัยภูมิสนามหลัก ก็สะกดความสะดวกที่สำนักเต๋าสายหลักจะมอบการสนับสนุนสะกดทัยให้แก่นาจาไปด้วย
นาจากลับตรงไปตรงมา ตอบรับทันที
ยวกเยี่ยนจ้าวเกอมิอาจไม่เยิ่มการยิจารณาส่วนหนึ่ง
“ด้านดีคือ สภายนี้ ยื้นฐานแล้วยืนยันได้ว่าอามิตาภยุทธเจ้าจะไม่สอดมือ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี