ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 1709
ฉวีซูออกจากแดนสุขาวดีบัวขาว มายังสถานที่ที่ทุกคนแย่งชิงธงเหลืองโบ่วกี้
ถึงจะห่างกันไกลแสนไกล แต่ฉวีซูขึ้นสู่มหาชาล แต่ชั่วครู่ก็มาถึงรอบนอกแล้ว
ทว่าต่อจากนั้นเป็นเพราะว่าการต่อสู้ของยอดฝีมือจำนวนมาก ด้านในอาณาเขตสนามรบมิติเวลาสับสน เขาได้แต่ค่อยๆ เคลื่อนไหวเข้าใกล้
เวลานี้เยี่ยนจ้าวเกอกับนาจาเข้าไปด้านในแล้ว
ปราณมาร ปราณปีศาจ ยังมีแสงพุทธ ไปจนถึงปราณพิสุทธิ์ของสำนักเต๋าที่ยิ่งใหญ่ ต่างเติมเต็มที่นี่ ปะทะกันเอง รุนแรงเป็นพิเศษ
นาจาทนไม่ไหว เท้าเหยียบกงล้ออัคคี ตั้งหอกไฟขึ้น คนเหมือนกับกลายเป็นมังกรไฟตัวหนึ่ง พุ่งขวางทะลวงไปด้านหน้า
เปลวเพลิงลุกโชนกระจายทั่ว ปราณมาร ปราณปีศาจ ยังมีแสงพุทธต่างดับลง กลายเป็นเชื้อเพลิงของเปลวไฟ
สภาวะที่เกรี้ยวกราดทำให้มารเซียนทั้งหลายถอยหนี ได้แต่หลบความแหลมคมชั่วคราว
ทว่าไม่ทันไร คนที่อยู่เหนือความคาดหมายคนหนึ่งก็ขวางอยู่ตรงหน้านาจา
อัสนียิ่งใหญ่ไพศาลม้วนคลุมมาถึง ปะทะกับเปลวเพลิงรอบตัวนาจา เพลิงและสายฟ้าปะทะกัน แสงสายฟ้าแตกร้าว เพลิงลามไปทั่วสี่ทิศ
ระหว่างสายฟ้า ชายชราสวมมงกุฎ ใส่ชุดนักพรตผู้หนึ่ง ยืนอยู่บนสวรรค์ชั้นเก้า สายฟ้าหลายสายเหมือนกับกลายเป็นรถรองรับเขา ก้อนเมฆงดงามแผ่กระจาย เป็นวิถีการสืบทอดสายหยกพิสุทธิ์ แต่กลับมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง
“อาจารย์ลุงหนานจี๋?” นาจาเห็นดังนั้น อดงงงันไม่ได้
แต่เขาสังเกตเห็นอย่างรวดเร็วว่า ในสถานที่ที่อยู่ไกลออกไปมีแสงสายฟ้าหลายชั้นกะพริบ มีลำดับขั้นตอน แสดงสัจธรรมมากมายอย่างเช่นการเปิดออกของความโกลาหล การเปลี่ยนแปลงของมิติเวลา การหมุนเวียนของห้าธาตุ การก่อเกิดของทุกสรรพวัตถุ การรวมตัวของหยินหยาง กลางสลับระหว่างกลางวันกลางคืน
ที่นี่ยืนด้วยเซียนสวรรค์มหาชาลสำนักเต๋าที่สวมมงกุฎ ใส่เสื้อนักพรตคนหนึ่งอย่างชัดเจน
บนโลกใบนี้มีจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋สองคนหรือ?
ย่อมเป็นไปไม่ได้
“มารเงา เป็นเจ้า!” นาจาตอบสนองทันที พิโรธโกรธกริ้ว
มิน่าเมื่อครู่ตอนเขาสัมผัสกับแสงสายฟ้านั้น ก็รับรู้ได้ถึงความบิดเบี้ยวบ้าคลั่งด้านใน
‘จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋’ ที่อยู่ต่อหน้าเขา เด่นชัดว่าเปลี่ยนมาจากมารเงา มารไม้อิกซึ่งเป็นหนึ่งในหกสุดยอดมาร
แตกต่างกับวิชาแปดเก้าของหยางเจี่ยน การเปลี่ยนเงาเป็นความจริงของมารเงา นอกจากจะเลียนแบบรูปลักษณ์ของอีกฝ่ายได้สมบูรณ์แบบ ยังเลียนแบบระดับพลังของอีกฝ่ายได้โดยสิ้นเชิง
เพียงแต่เป็นเพราะความเกี่ยวข้องของหลักการวิชาลับนี้ เขากับคู่ต่อสู้ แม้มีระดับพลังทัดเทียบ แต่ว่ารากฐานยังคงเป็นวิถีมาร ไม่ลงมือยังพอว่า พอลงมือก็ถูกคนมองเลศนัยออกอย่างรวดเร็ว
“ยินดีกับสหายร่วมเส้นทางนาจาประสบภัยกลับมา” ‘จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋’ ผู้นี้ใบหน้าปรากฏรอยยิ้ม ทักทายนาจา จากนั้นก็พยักหน้าแก่เยี่ยนจ้าวเกอ “สหายร่วมเส้นทางเยี่ยนก็มาแล้ว”
เยี่ยนจ้าวเกอจับจ้องอีกฝ่าย หัวคิ้วพลันขมวด
นาจาสัมผัสปัญหาได้พร้อมกัน เห็น ‘จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋’ ที่อยู่ตรงข้ามรูปร่างหน้าตาถึงกับเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จากชายชราใบหน้าน่าเกรงขามซูบตอบคนหนึ่ง เป็นคนหนุ่มปากแดงฟันขาว หล่อเหลาสดใส
แต่ว่านี่กลับมิใช่เปลี่ยนชราเป็นเด็ก เพราะว่าหน้าตาของคนหนุ่มผู้นั้น เป็นตัวนาจาเอง!
กายดอกบัวเหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน ศีรษะสวมห่วงจักรวาล มือถือกหอกไฟเล่มหนึ่ง สองเท้าเหยียบกงล้ออัคคี บนแขนพันผ้าต่วนป่วนฟ้าเหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน
นาจาเห็นดังนั้นก็เดือดดาล “มารสวะ เจ้าหาที่ตาย!” ตั้งหอกแทงใส่ทันที
คนหนุ่มตรงหน้ายิ้มแฉ่ง “สหายร่วมเส้นทางฝีมือดีนัก ข้าไม่อาจไม่มากันท่านก่อน”
ทางหนึ่งยิ้ม ทางหนึ่งหยิบหอกป้องกันการโจมตีของนาจา
สองฝ่ายปะทะคมหอก ร่างกายสั่นไหวพร้อมกัน การประมือรอบนี้ไม่แบ่งแยกสูงต่ำ
เขาใช้ความสามารถที่แท้จริง ส่ายร่างวูบหนึ่ง บังเกิดศีรษะสองข้างและแขนสี่ข้าง แสดงร่างสามเศียรหกกร พลังสั่นสะเทือนจักรวาล ทำให้คนอื่นๆ ที่สู้กันอยู่รอบๆ มิอาจไม่หลบหนี
แต่แทบจะเป็นเวลาเดียวกัน นาจา ‘ที่อยู่ตรงข้าม’ ก็เสกสามเศียรหกกร ความแข็งแกร่งของสภาวะไม่ด้อยไปกว่า
สองคนพริบตาเดียวสู้กันเป็นพัลวัน ฟ้าพลิกแผนดินคว่ำรอบหนึ่ง แม้แต่สถานที่ที่พวกเขาเคลื่อนไหว คนอื่นๆ แทบมิอาจเข้าใกล้
เยี่ยนจ้าวเกอมองไกลออกไป ตอนแรกมารเงาแปลงเป็นจักรพรรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ ต่อสู้กับผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่เทวราชผู้นั้น ตอนนี้นาจามาแล้ว มันเปลี่ยนเป็นร่างนาจาอีก ทำศึกใหญ่กับนาจา
ถึงจะเป็นเช่นนี้ แต่ว่าจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ก็มีคู่ต่อสู้คนใหม่
พลังของหลายฝ่ายผสมกัน กลายเป็นศึกสับสน สู้กันจนฟ้าดินพังทลาย
กลางสมรภูมิ จุดศูนย์รวมที่ทุกคนแย่งชิงเป็นเมฆดาราขมุกขมัวลวงตาผืนหนึ่ง
ได้รบผลกระทบจากศึกใหญ่ เมฆดาราใกล้จะแหลกสลาย
กลางเมฆดารา เห็นแสงทองได้รางๆ ในแสงทองเหมือนมีดอกบัวสีทองกับดินโคลนสีดำเดี๋ยวหายเดี๋ยวปรากฏ
‘เป็นธงเหลืองโบ่วกี้จริงๆ หรือ?’ เยี่ยนจ้าวเกอกำลังคิด จิตในพลันปรากฏเงาชั้นหนึ่งปกคลุม
เขาเงยหน้าขึ้นมองโดยสัญชาตญาณ กลางสนามรบมีคนไม่น้อย รวมถึงนาจาสองคน ต่างเคลื่อนไหวเหมือนกับเขา
ยามนี้ในความว่างเปล่าพลันแตกออก พทธะองค์หนึ่งปรากฏกาย
ทั่วทั้งร่างพุทธะองค์นั้นมีแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีไหลเวียน
เป็นมหาวิทยราชมยุรี!
………………..
ประวัติการอ่าน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี