สถูปอภิรดีศูนย์กลางงดงามไร้ขอบเขต มหาพุทธะสีทองสี่องค์แยกกันสะกดสี่มุม
พลังอันแข็งแกร่งสะกดลง แม้แต่พวกมหาวิทยราชมยุรี หยางเจี่ยน สั่ยหมิงจาง ก็ยากขยับเขยื้อนได้ตามใจ ยิ่งไม่อาจออกจากอาณาเขตครอบคลุมของสถูป
มหาวิทยราชมยุรี หยางเจี่ยน ลู่ยาเต้าจวินแสดงกายทองศาสนาพุทธ ยังคงไม่อาจหลุดพ้น
เพียงแแต่แม้สถูปนี้จะมากอิทธิฤทธิ์ กลับมีความลี้ลับอีกอย่าง
มันได้แต่สะกด ไม่อาจทำร้ายคน
นี่ทำให้พลังสะกดของสถูปต่อคนแต่ละคนแตกต่างกัน โดยพื้นฐานแล้วหยุดอยู่ในขีดจำกัดบนของแต่ละคนพอดิบพอดี แยกกันรับมือ มีสูงมีต่ำ
หลังจากการแสดงผลในวินาทีแรกสุด การเปลี่ยนแปลงพลังของมันก็คงค้างที่เดิม
ในะระยะเวลาที่สถูปคงอยู่ ต่อให้รับการโจมตีจากภายนอก พลังสะกดก็ไม่อ่อนด้อย
ในทางกลับกัน ไม่อาจปรับหรือเพิ่มความแข็งแกร่งเช่นกัน
ในมหาสงครามก่อนหน้านี้ ทุกฝ่ายทุ่มเทสุดกำลัง เป็นตอนที่โจมตีด้วยพลังทั้งหมด สถูปสะกดลงมา ทุกคนใช้พลังหมดสิ้น ยากจะมีการเปลี่ยนแปลง
แต่ตอนนี้เยี่ยนจ้าวเกอย่ำทำลายภัยพิบัติฟ้ากำเนิด เลื่อนจากเซียนกำเนิดสุญญตาสู่เซียนสวรรค์มหาชาล กลับทำให้สถูปอภิรดีศูนย์กลางไม่อาจสะกดเขาได้ต่อ
เยี่ยนจ้าวเกอที่สามบุปผาบนกระหม่อม เป็นเซียนสวรรค์มหาชาล พลังสุดที่เขาซึ่งอยู่ในระดับสุญญตาจะเทียบเคียงได้!
การสะกดของสถูปอภิรดีศูนย์กลางต่อเขาก่อนหน้านี้ ไม่มีค่าให้กล่าวถึง
แสงพิสุทธิ์กลมสมบูรณ์หลังศีรษะเยี่ยนจ้าวเกอส่องสว่างนพยมโลก ก้าวเดินออกจากใต้พระสถูปเจดีย์อย่างทระนง เดินไปหาทีปังกรพุทธะและเหล่าพุทธะแห่งแดนสุขาวดีตะวันตก!
“เรื่องราวในโลกยากจะเป็นไปตามต้องการ” ทีปังกรพุทธะในดวงตาปรากฏความอิดโรยที่หาได้ยาก ถอนใจยืดยาว
ท่านก้มมองทะเลเลือดด้านล่าง
ประกายโลหิตใกล้เหือดแห้งแล้ว แสงสว่างของลวดลายค่ายกลก็กำลังมืดสลัว
กลับเป็นอักขระ 卍 นับพันล้านตัวที่เกิดจากแสงพุทธบริสุทธิ์ของทีปังกรพุทธะสว่างมากขึ้น ครอบคลุมลวดลายค่ายกล
วาสนาที่ทีปังกรพุทธะรอคอยมาหลายปี วางแผนมาอย่างดี อยู่ใกล้ตรงหน้า ขาดแค่ครึ่งก้าว
ห้วงเวลาสุดท้ายกำลังจะมาถึง เพียงแค่ต้องรออีกเล็กน้อย ทีปังกรพุทธะก็จะก้าวเท้าก้าวสุดท้ายได้
“ทีปังกร เชิญแล้ว การวางหมากในวันนี้ไม่ใช่ของท่าน” เยี่ยนจ้าวเกอเดินไปใกล้ๆ มองพุทธะเก่าแก่ผู้นั้น
“เหล่าจวินส่งต่อคัมภีร์นภาไร้ขอบเขตให้โยม โยมกลับเดินอีกเส้นทาง จนปัญญา จนปัญญาแท้!” คำพูดของทีปังกรพพุทธะกลับทำให้คนอื่นๆ ตกตะลึง “น่าเสียดายอาตมาทราบเรื่องนี้เมื่อสายไป ไม่อย่างนั้นอาจคิดหาวิธีการได้”
“เรื่องราวมาถึงขั้นนี้ อดีตพุทธะไฉนต้องเปลืองลิ้นถ่วงเวลาอีก? ไม่มีประโยชน์หรอก” เยี่ยนจ้าวเกอไม่หยุดฝีเท้า
นักบวชศาสนาพุทธเช่นวัชรอภิณฑ์พุทธะ พระโพธิสัตว์กวนอิม มหาสถามปราปต์โพธิสัตว์ ต่างสีหน้าเคร่งขรึม
ถึงพวกท่านไม่มั่นใจว่าตอนนี้เยี่ยนจ้าวเกอมีพลังถึงขั้นไหน แต่สัมผัสแรงกดดันมหาศาลได้รางๆ
แรงกดดันที่ทำให้ทะเลใจในห้วงจิตของพวกท่านเกิดคลื่นยักษ์
ทว่าตอนนี้ทีปังกรพุทธะขาดแค่ครู่เดียวก็จะสำเร็จ เหล่าพุทธะแห่งแดนสุขาวดีตะวันตกถอยไม่ได้ มีแต่ขึ้นหน้าขัดขวางเยี่ยนจ้าวเกอ เพื่อชิงโอกาสให้แก่ทีปังกรพุทธะ
เยี่ยนจ้าวเกอสีหน้าคล้ายยิ้มไม่เชิงยิ้ม มองเหล่าพุทธะแห่งแดนสุขาวดีตะวันตก ตกสู่วงล้อมของอีกฝ่ายใบหน้ายังไม่เปลี่ยนสี การก้าวเท้ากลับเร่งเร็วขึ้น ไม่หลบหลีก พุ่งเข้าไปกลางวงเหล่าพุทธะโดยตรง
วัชรอภิณฑ์พุทธะสีหน้าเคร่งขรึม สายตาแน่วแน่ เข้ามารับมือ
แสงทองยิ่งใหญ่ผนึกรวมไม่หยุด ยิ่งรวมศูนย์ ก็ยิ่งสว่างไสว
พุทธเกษตรวัชระลงมาถึงเขตมารนพยมโลก พร่างพราวจุดเพชร แสงสว่างไร้สิ้นสุดไร้ประมาณ ส่องสว่างความว่างเปล่าไร้สิ้นสุด
แม้แต่ทุกการดำรงอยู่ในพุทธเกษตรก็ถูกแสงสวางที่บริสุทธิ์สว่างไสวครอบคลุม ไม่ว่าวัตถุเรื่องราวที่มีรูปร่างหรือมิติเวลาไร้รูปร่าง ต่างเปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งผนึกตัว
ทำลายอนิจจังความเป็นความตาย เกิดแก่เจ็บตายดุจฟองเงาฝันมายา ไม่แฝงความน่าสะพรึง ไม่เห็นความโลภความหวัง เป็นอิสระชั่วกาลนาน วัชระไม่พังทลาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี