สภาวะเหมือนแบ่งฟ้าฟันทะเล เยี่ยนจ้าวเกอฉีกทะเลเพลิงไฟขาวที่เปลี่ยนมาจากแสงพุทธของมหาสถามปราปต์โพธิสัตว์เบื้องหน้า
‘ก่อนหน้านี้ตอนอยู่ในระดับสุญญตา เขาผสานวรยุทธการสืบทอดสายข้างสามพิสุทธิ์ สร้างวรยุทธใหม่เป็นของตัวเอง ยังมีร่องรอยให้สืบสาว พอมองเห็นต้นตอได้บ้าง’ ใต้สถูปอภิรดีศูนย์กลาง ลู่ยาเต้าจวินมองเยี่ยนจ้าวเกอลงมือ คิ้วขมวดแน่น ‘ตอนนี้กลับมองเงื่อนงำไม่ออกแล้ว…’
เยี่ยนจ้าวเกอแยกแสงไฟทั่วฟ้า ยื่นมือหนึ่งออกมาตั้งนิ้วชี้นิ้วกลางดุจกระบี่ แทงใส่มหาสถามปราปต์โพธิสัตว์
โพธิสัตว์ใต้เท้าเกิดบัว ยกท่านถอยหลบไปด้านหลัง
ทว่าเยี่ยนจ้าวเกอเร็วยิ่งกว่า ถึงมหาสถามปราปต์โพธิสัตว์จะใช้ก้าวเท้าเกิดดอกบัวเคลื่อนย้ายความว่างเปล่า ยังคงเห็นประกายกระบี่ที่ปลายนิ้วของเยี่ยนจ้าวเกอยิ่งมายิ่งใกล้ท่าน
มหาสถามปราปต์โพธิสัตว์จนปัญญา พนมมือผนึกรวมร่างธรรมไร้ประมาณ
แสงสว่างไร้สิ้นสุดแผ่ไปทั่วบริเวณ จากนั้นก็หุบลงไปที่จุดหนึ่ง
แสงทองผนึกรวมเป็นแท่นบัวเก้ากลีบตรงหน้าทรวงอกร่างธรรมโพธิสัตว์
แท่นบัวนี้ลอยไปยังด้านหน้า ปะทะกับประกายกระบี่ที่ปลายนิ้วเยี่ยนจ้าวเกอ
ในความว่างเปล่าบนเขตมาร บริเวณที่แท่นบัวเคลื่อนผ่านล้วนถูกเผาทะลุ เกิดเส้นทางที่ว่างเปล่าสายหนึ่ง
แสงสว่างไร้ประมาณผนึกหลอมและหดตัวในระดับสูง กลายเป็นความร้อนที่ยากจินตนาการ ยังเหนือกว่าเปลวไฟ
ประกายแสงกีดกันทำลายล้างหลอมละลายทุกสิ่งที่พบเจอ แท่นบัวเก้ากลีบใช้ป้องกันแทนโจมตี มีทั้งตั้งรับและจู่โจม อานุภาพน่าสะพรึง ปะทะกับปลายกระบี่ของเยี่ยนจ้าวเกอ
เทียบกับแท่นบัวเก้ากลีบนี้ ประกายกระบี่ของเยี่ยนจ้าวเกอเล็กไม่อาจสัมผัสได้ ราวกับเทียนเหลือกลางสายลม
กระนั้นหลังจากสองสิ่งปะทะกัน ประกายกระบี่ที่เหมือนอ่อนแอนั้นก็ถึงกับแทงแท่นบัวเก้ากลีบทะลุ!
แท่นบัวที่ถูกแทงทะลุไม่แข็งแกร่งอีกต่อไป แสงสว่างไร้ประมาณที่ผนึกรวมยากจะรวมตัวต่อ เริ่มกระจายไปรอบๆ
แสงสว่างกระจายไปทั่วสี่ทิศ แต่กลับสูญเสียจิตอันไร้สิ้นสุดไร้ประมาณไร้ขอบเขตก่อนหน้า พอหายไปจุดหนึ่ง ก็เล็กลงจุดหนึ่ง
พร้อมกับที่แท่นบัวเก้ากลีบแตก เส้นแสงก็รีบหรี่ลงอย่างรวดเร็ว
ประกายกระบี่ที่ดูเหมือนธรรมดาไม่มีใดพิเศษนั้น กลืนพ่นยืดหดเหมือนหย่อมเพลิง แทงใส่มหาสถามปราปต์โพธิสัตว์ต่อ
“พระพุทธองค์เมตตา” ทีปังกรพุทธะมองทะเลเลือดด้านล่างที่ใกล้จะแห้งเหือด แต่ยังคงหลงเหลือ ถอนใจยาว เปล่งคำสรรเสริญคุณ เซ่นมุกค้ำทะเลสิบแปดชิ้นให้พุ่งใส่เยี่ยนจ้าวเกอพร้อมกัน หมายจะล้อมเว่ยช่วยจ้าว โจมตีศัตรูเพื่อช่วยแก้ไขวงล้อมให้มหาสถามปราปต์โพธิสัตว์
บนมุกค้ำทะเลส่องแสงห้าสี มองดูจนลายตา สะกดขวัญวิญญาณ
เยี่ยนจ้าวเกอมองท้องฟ้า เป่าลมสามครั้ง ปราณพิสุทธิ์สามสายไหลไปบนศีรษะตนราวกับทะเลเมฆ
เส้นแสงห้าสีของมุกค้ำทะเลถูกปราณพิสุทธิ์กลบ พลันส่องไม่ถึงตัวเยี่ยนจ้าวเกอ
มุกที่หนักอึ้งเหมือนกับท้องฟ้าร่วงลง กระแทกศีรษะเยี่ยนจ้าวเกออย่างแม่นยำ
เยี่ยนจ้าวเกอกลับเหมือนไม่เห็นของวิเศษที่ชื่อเสียงเจิดจรัส สังหารผู้ยิ่งใหญ่ระดับสุดยอดมามากมายนี้ในสายตา
ปลายนิ้วเขามีประกายกระบี่กะพริบ หลังจากทะลวงแท่นบัวเก้ากลีบ ก็ออกอีกหนึ่งกระบี่ไปด้านหน้าต่อ
มหาสถามปราปต์โพธิสัตว์คิดจะหลบหลีก แต่ประกายกระบี่ที่แข็งแรงไม่อาจทำลาย ยังแทงทำลายศีรษะท่าน
กายทองพุทธะที่เปล่งบุปผาแสงสว่างไสว เหมือนกับลูกหนังลมรั่ว
เยี่ยนจ้าวเกอชักนิ้วถอยหลัง ปากแผลบนศีรษะมหาสถามปราปต์โพธิสัตว์มีแสงหลายสายไหลออกมาจากด้านในไม่หยุด
การถอนกระบี่เหมือนกับถอนลมหายใจชีวิตจากมหาสถามปราปต์โพธิสัตว์จนหมดสิ้น
ขณะเดียวกัน มุกค้ำทะเลพุ่งถึงเหนือศีรษะเยี่ยนจ้าวเกอ
เห็นเยี่ยนจ้าวเกอเหมือนหลบไม่ทัน สมองเขาตอนนี้เปิดออก มีควันขาวสายหนึ่งพุ่งสู่ฟากฟ้าอีกครั้ง
พอถูกควันขาวนี้สะกด ปราณพิสุทธิ์สามสายบนศีรษะเยี่ยนจ้าวเกอก็ผสมกัน สามพิสุทธิ์รวมเป็นหนึ่งปราณ
หนึ่งปราณนี้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว กลายเป็นฉัตรคันหนึ่ง คลุมศีรษะเยี่ยนจ้าวเกอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี