“สหายร่วมเส้นทางหลิงทิ้งมงกุฎจนทรา เป็นนางทําของนางเอง กลับไม่เกี่ยวข้องกับสหายร่วมเส้นทางเฟิง”
วันนี้เกาหานไม่รู้อะไรไม่พูด พอพูดแล้วก็ไม่จบสิ้น
ลําแสงสีทองม่วงในม่านตาเยี่ยนจ้าวเกอกพริบพร้อมกับสานกัน กลายเป็นลวดลายอาคมที่ลี้ลับ
คัมภีร์เกิดนภามิใช่ไม่มีใดทําไม่ได้ แต่ตอนนี้ขณะอนุมาน สามารถ แยกแยะจริงปลอมลวงแท้ในคําพูดของเกาหานได้
“ส่วนสหายร่วมเส้นทางเยี่ยนตี๋บิดาของท่าน…” เกาหานไม่ รอเยี่ยนจ้าวเกอถาม พูดทันที “เขาปนเปื้ อนสภาวะแปลงกําเนิด ถ้าไป สืบสาวโดยไม่ตั้งใจ ก็จะมองเงื่อนงําไม่ออกได้ง่ายๆ ข้าเองก็รอเขา มาถึงโลกซ้อนโลก หลังจากเห็นสภาพดาบกฎเกณฑ์ช่วงแรกแล้ว จึงนึก ถึงเยี่ยนซิงถางกับตี๋ชิงเหลียนสองสหายร่วมเส้นทาง”
พูดถึงตรงนี้ เขาพลันหัวเราะ “เรื่องราวในโลกพิสดารจนยาก บรรยายโดยแท้ สหายร่วมเส้นทางเยี่ยนและตี๋เป็นปู่และย่าของท่าน ลูกหลานของสหายร่วมเส้นทางเซ่าจวินหวงผู้สืบทอดของใต้เท้าหนาน
จี๋ ถึงกับเป็นมารดาท่าน นี่กลับเป็นเรื่องราวที่ก่อนหน้าคิดไม่ถึงอีกครั้ง …”
เยี่ยนจ้าวเกอไม่หัวเราะ กล่าวราบเรียบ “พิสดารยากบรรยาย จริงๆ ตอนนั้นข้าเองก็นึกไม่ถึงว่าจะได้ยินเรื่องราวในอดีตและเรื่องราว ทั้งหมดจากปากพี่ร่วมเส้นทางท่าน”
“สหายร่วมเส้นทางหลิงปฏิบัติกับใต้เท้าหนานจี๋เหมือนผู้อาวุโสใน สํานักเต๋า” เกาหานเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ข้าติดตามใต้เท้าหนานจี๋ เพราะมี อุดมการณ์ร่วมกัน”
“เรื่องราวในอดีต ข้าผู้แซ่เกาสงสัยอยู่บ้างไม่เคยกระจ่าง วันนี้บอก สหายร่วมเส้นทางเยี่ยนท่าน อาจมีสักวันที่ท่านแก้ไขข้อสงสัยให้ข้าได้”
เกาหานพูดจบก็ประสานมือคารวะเยี่ยนจ้าวเกอกับเฟิงอวิ๋นเซิง จากนั้นถอยกลับ หายไปในความว่างเปล่ากว้างใหญ่
เยี่ยนจ้าวเกอใช้สายตาส่งเงาร่างเกาหานจากไปไกล ไม่รั้งคนไว้ ไม่ได้พูดจา
เฟิงอวิ๋นเซิงมองเยี่ยนจ้าวเกออย่างเป็นห่วงอยู่บ้าง
“ไม่เป็นไร วางใจ” เยี่ยนจ้าวเกอสังเกตเห็นสายตาของเฟิงอวิ๋นเซิง ก็หันหน้ามายิ้มน้อยๆ “เพียงแต่มีเรื่องราวบางส่วนที่ข้าจําเป็นต้อง สะสางดีๆ”
เฟิงอวิ๋นเซิงไม่ได้พูดอะไร เพียงพยักหน้าเบาๆ
เยี่ยนจ้าวเกอหลับตา ในห้วงสมองปรากฏภาพมากมาย หมุนไม่ หยุดราวกับโคมม้าวิ่ง
สิ่งที่อยู่ในส่วนลึกความทรงจํานับไม่ถ้วน วินาทีนี้ผุดขึ้นจากก้นบึ้ง จิตใจ กวนคนไม่หยุด
อย่างค่อยเป็นค่อนไป ไข่มุกที่กระจัดกระจายหลายชิ้นถูกเส้นด้าย ไร้รูปร่างเชื่อมต่อเข้าโดยกันโดยสมบูรณ์
เพียงแต่เส้นด้ายนี้ยังคงพันกันยุ่งเหยิง
เยี่ยนจ้าวเกอสะสางทุกสิ่งนี้ไม่หยุด
จากนั้นเขาก็เริ่มทดลองทําเรื่องที่เขาคิดทํามาโดยตลอด แต่ก็ลังเล มาโดยตลอดหลังสําเร็จระดับมหาชาล
ขึ้นสู่ระดับเซียนสวรรค์มหาชาล สามบุปผาบนกระหม่อม สาร จําเป็น ปราณ จิตของเยี่ยนจ้าวเกอเหนือกว่าอดีต การควบคุมการ
เปลี่ยนแปลงมิติช่องว่าง อนาคตและอดีต แข็งแกร่งอย่างไม่เคยมีมา ก่อน
ขณะที่เปลือกร่างกลายเป็นแข็งแกร่ง ความคิดจิตใจก็แข็งกล้าถึง ขีดสุด
บนศีรษะเขาปรากฏฉัตร ฉัตรปกคลุมสวรรค์
ปลายยอดเหมือนกับทําลายการจํากัดของมหาจักรวาล ขยับขยาย ไปยังระดับที่กว้างไกลกว่า
วินาทีนี้เยี่ยนจ้าวเกอคล้ายกับมีความรู้สึกวิญญาณออกร่าง
เหมือนกับคนทั่วไป วิญญาณแยกจาก ภูติผีท่องราตรี
เซียนสวรรค์มหาชาลผู้ยิ่งใหญ่เหมือนภูติผีวิญญาณ
สําหรับคนที่มีพลังขนาดเยี่ยนจ้าวเกอ ความรู้สึกนี้ย่อมไม่ธรรมดา
‘นี่เป็นความพิสดารที่เจ้ามรรคาจึงจะมี เหนือกว่าธรรมชาติ จิต ท่องเที่ยวอยู่นอกอากาศโกลาหล…’ เยี่ยนจ้าวเกอสัมผัสได้ ‘แต่เจ้า มรรคายังคงต้องหยุดนิ่งที่นี่ มีแต่หลุดพ้น ถึงจะกระโดดไปด้านนอกได้ โดยสมบูรณ์ จากนั้นไม่มีข้อจํากัดอีก’
‘เราอยู่ใกล้ระดับมรรคาถึงขีดสุด ใช้ความพิสดารที่ผู้ยิ่งใหญ่ระดับ เจ้ามรรคาถึงจะมีได้หลายส่วน กลับไม่อาจทนได้นาน กระนั้นก็มาก พอแล้ว…’
เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกว่าจิตใจของตัวเองเหมือนกับว่าวหลุดจากป่าน โดยสารลมเคลื่อนที่ ลอยพลิ้วไม่หยุด
แต่เขายังคงรักษาความมั่นคงให้แก่ความคิดจิตใจของตัวเอง เคลื่อนที่ไปหาเป้าหมายที่กําหนด
เคลื่อนที่ไปยังเป้าหมายที่อยู่ไกลที่สุดในส่วนลึกความทรงจํา หาก ไม่เคยลืมเลือนอย่างแท้จริง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี