ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 197

เมื่อได้ยินข้อสงสัยของเยี่ยนจ้าวเกอ ถังหย่งฮ่าวก็นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง

เยี่ยนจ้าวเกอและสวีเฟยระแวดระวังถึงจุดนี้ต่างก็แปลกใจอยู่บ้าง สวีเฟยเอ่ยถาม “ศิษย์พี่ถัง ท่านรู้อะไรใช่หรือไม่”

ถังหย่งฮ่าวขมวดคิ้วพลางกล่าวตอบ “ระหว่างทางมายังที่นี่ ข้าได้พบบางคนเข้า และได้ยินข่าวลือบางอย่าง ทว่าตอนนี้ยังไม่อาจยืนยัน”

“พอจะเล่าให้ข้าฟังสักหน่อยหรือไม่” เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ย

ถังหย่งฮ่าวมองเยี่ยฉงโจวและหลี่จิ้งหว่านแวบหนึ่ง ก่อนจะถอนใจและไม่ได้เปล่งเสียงออกมา แต่ใช้ปราณจิตราส่งกระแสจิตไปยังเยี่ยนจ้าวเกอและสวีเฟย ‘ในข่าวลือ ผู้ที่ก่อปัญหาคือผู้อาวุโสเฉินแห่งเมืองทะเลมรกต ซึ่งนำคณะมายังทะเลสาบปิดนภาครั้งนี้’

ในสมองเยี่ยนจ้าวเกอปรากฎหน้าตาของชายชราหัวแข็งผู้นั้นออกมา ‘ผู้อาวุโสเฉิน?’

‘ตอนนี้ยังไม่อาจยืนยัน เหมือนกับว่าไม่พบร่องรอยผู้อาวุโสเฉินแล้ว รอเขาปรากฎกายก่อน จึงจะสามารถสะสางข้อเท็จจริงเรื่องราวให้ชัดเจนได้’ ถังหย่งฮ่าวกล่าว

เขาเกิดที่สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ ศิษย์ร่วมสำนักเมืองทะเลมรกตคือศัตรูคู่อาฆาต ไม่อาจให้ค่าได้มากนัก ตัวเขาเองก็ไม่ใช่คนที่ตัดสินชี้ขาดสะเปะสะปะเช่นกัน

ทว่าเยี่ยนจ้าวเกอยังคงฟังเข้าใจ ความหมายภายในคำพูดของถังหย่งฮ่าว คือจะชี้ว่าผู้อาวุโสเฉินขณะนี้ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร

ยอดฝีมือมหาปรมาจารย์อาวุโสท่านหนึ่ง พลันหายสาบสูญไป น่าเหลือเชื่ออยู่บ้างจริงๆ

‘ถูกนพยมโลกชักจูง ไม่มากก็น้อยล้วนมีสาเหตุอยู่บ้าง เหมือนเช่นหลิวเซิ่งเฟิงที่มีอุปนิสัยโหดเหี้ยมทารุณ ชอบทรมานผู้อื่น ทั้งยังถูกสำนักคุมขังควบคุมนิสัยไว้’ เยี่ยนจ้าวเกอนวดขมับของตน ‘มหาปรมาจารย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งยอดฝีมือมหาปรมาจารย์ที่มีพลังฝึกปรือสูงล้ำ ปณิธานมักจะยิ่งแน่วแน่มากขึ้น ไม่ง่ายที่จะถูกนพยมโลกสั่นคลอน’

‘แต่ก็เป็นเพราะว่าปณิธานแน่วแน่ด้วยเช่นกัน วันใดวันหนึ่งความคิดเกิดเปลี่ยนแปลงแล้ว ก็จะปรากฎความหัวแข็งให้เห็นมากยิ่งขึ้นเช่นเดียวกัน ดื้อดึงและบ้าระห่ำมากยิ่งขึ้น’

เยี่ยนจ้าวเกอหายใจออกยาวคำหนึ่ง ‘ผู้อาวุโสโม่แห่งเขาไร้พรมแดนนั้นเป็นเพราะสาเหตุอันใด ข้าก็ไม่แนใจ แต่ดูจากลักษณะของเขา เห็นได้ชัดเจนว่าร้ายกาจสุดขั้ว เต็มไปด้วยความโกรธแค้นอยุติธรรม ผู้อาวุโสเฉินแห่งเมืองทะเลมรกต ก่อนหน้านี้ดูเหมือนว่าแม้จะหุนหันพลันแล่นและหัวแข็งอยู่บ้าง แต่ในที่สุดแล้วยังเปิดเผยตรงไปตรงมาใจกว้างต่อผู้คน’

ถังหย่งฮ่าวได้ยินดังนั้นก็ผงกศีรษะ หลังจากสวีเฟยไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งแล้ว เขาเอ่ยด้วยความลังเลอยู่บ้างว่า ‘เป็นไปได้หรือไม่ ว่าเป็นเพราะเรื่องหลานชายของเขา’

‘หืม?’ เยี่ยนจ้าวเกอประหลาดใจไม่น้อย ใบหน้าถังหย่งฮ่าวก็เผยเห็นสีหน้าเข้าใจในทันใดอยู่หลายส่วน

สวีเฟยกล่าวอธิบาย ‘จ้าวเกออาจจะไม่ค่อยเข้าใจนัก เพราะเรื่องมันค่อนข้างนานมาแล้ว หลายปีก่อนผู้อาวุโสเฉินสูญเสียบุตรชาย บุตรสาวมีหลานชายแท้ๆ สืบทอดเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น แต่ก็ป่วยกระออดกระแอดมาโดยตลอด หมดหนทางฝึกยุทธ์เช่นกัน ทำได้เพียงแค่บำรุงรักษาอย่างช้าๆ เท่านั้น ปล่อยให้ร่างกายนับวันยิ่งอ่อนแอลงเรื่อยๆ กลายเป็นผู้อาวุโสเฉินที่ความทุกข์ใจใหญ่หลวงมากที่สุด’

เขาถอนใจครั้งหนึ่ง ‘นี่เป็นเรื่องหลายปีมาแล้ว สองสามปีมานี้ไม่มีข่าวสารส่งออกมาเลย ก็ไม่รู้เช่นกันว่า…เฮ้อ!’

‘เช่นนี้เองหรือ…’ เยี่ยนจ้าวเกอผงกศีรษะ ไม่ได้กล่าวอะไรมากนัก

สายตาของเขาทอดมองไกลออกไป แต่ละสนามต่อสู้ตรงนั้นต่างก็ค่อยๆ แบ่งแยกผลแพ้ชนะ

นพยมโลกสิ้นหวังเยื้องกราย แดนมารแตกสลายแว้งกัด เหล่ายอดฝีมือภาคีบึงน้ำไร้ขอบเขตไม่มีหวังจะชนะแล้ว ผู้ที่สามารถหลีกหนีได้ล้วนเริ่มหลบหนี ผู้ที่หลีกหนีไม่ได้ก็ต่อสู้เอาเป็นเอาตาย

ผู้คนจำนวนน้อยที่ไม่ได้ตกเป็นมาร หลังจากถูกจับเป็นแล้ว ยังมีความเป็นไปได้ที่จะกลับมามีชีวิตอยู่หลายส่วน

ที่เหลือส่วนมากล้วนกลายเป็นมารแล้ว ต่อให้ถูกจับเป็น หลังจากบังคับถามให้พูดข้อมูลออกมาแล้ว เกินกว่าครึ่งก็จะถูกบั่นคอด้วยเช่นกัน

สงครามอันดุเดือดสิ้นสุดลงทีละสนาม บัดนี้ความเปลี่ยนแปลงของทะเลสาบปิดนภาค่อยๆ สงบลงในที่สุด

พลังปราณอันแข็งแกร่งสายต่อสาย เริ่มเข้าใกล้ยังใจกลางผิวทะเลสาบใหม่อีกครั้ง

ผู้ที่มาถึงก่อนก็คือหญิงชราผมสีขาวอมเทาคนหนึ่ง หลังโก่ง ไอต่อเนื่องมิขาดปาก ดูเหมือนว่าอ่อนแออย่างยิ่งยวด

ทว่ากลุ่มเยี่ยนจ้าวเกอ สวีเฟย และถังหย่งฮ่าวล้วนรู้จักดี ว่าหญิงชราผู้นี้ก็คือผู้อาวุโสเก่าแก่แห่งหอคลื่นโหม ยอดฝีมือที่ทั่วทั้งเขตแดนบึงพิภพมีจำนวนเพียงหยิบมือ

ครั้นจางเหยาเห็นหญิงชราผู้นั้น ก็ยิ่งส่งเสียงร้องด้วยความดีอกดีใจ “อาจารย์ย่า!”

หร่วนผิงก็แสดงการเคารพด้วยเช่นกัน “ศิษย์หร่วนผิงเคารพท่านอาจารย์ย่า”

หญิงชรามองจางเหยา ใบหน้าเผยเห็นสีหน้ารักใคร่เอ็นดูอยู่หลายส่วน

กลุ่มเยี่ยนจ้าวเกอ รวมไปถึงเยี่ยฉงโจวที่ร่างกายบาดเจ็บหนัก อีกทั้งหลี่จิ้งหว่านและเซียวอวี่ก็รุดหน้าขึ้นมาคารวะหญิงชราพร้อมกัน

หลังจากหญิงชราได้ฟังหร่วนผิงและจางเหยารายงานสถานการณ์แล้ว สายตาตกไปอยู่บนร่างเยี่ยนจ้าวเกอ หลังจากสังเกตอย่างละเอียดแล้ว จึงเอื้อนเอ่ยอย่างช้าๆ ว่า “กว่างเฉิงช่างมีหวังอย่างยิ่ง”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี