เข็มแกนน้ำแข็ง ไม่ได้ใช้เข็มจริงๆ แทงคนแต่อย่างใด แต่เป็นการใช้วิธีพิเศษ ใช้โอสถพิเศษเสริม ปรับเลือดลมภายในร่างกายอีกฝ่าย ทำให้มันบังเกิดการเปลี่ยนแปลง ก่อเกิดความเย็นเยียบจากภายในสู่ภายนอก ส่งผลให้ทุกกระเบียดนิ้วทั่วกายรู้สึกเย็นเฉียบอย่างยากจะทานทน เจ็บปวดรวดร้าวเสมือนเข็มทิ่มแทงก็ไม่ปาน
เฟิงอวิ๋นเซิงเป็นคนที่เรียบง่ายตรงไปตรงมา และเด็ดขาดฉับพลัน ในเมื่อตัดสินใจจะลองก็ต้องอดทน เช่นนั้นนับว่าเป็นการฝึกฝนสำหรับนางเช่นกัน
นางในขณะนี้ ทั่วร่างศีรษะจรดเท้า มีไอสีขาวหลายสายซึมทะลุออกมาฉับพลัน เย็นเยียบหาที่เปรียบไม่ได้ ทั้งกายล้วนราวกับปกคลุมด้วยน้ำค้างแข็งชั้นหนึ่ง
ทุกสิ่งที่สัมผัสถูกร่างกายนาง ต่างก็ถูกแช่แข็งทั้งสิ้นเช่นกัน
ทว่าในความเป็นจริง วิชาเข็มแกนน้ำแข็ง เพื่อประสิทธิผลแล้ว จะกักไอเย็นจำนวนมากไว้ในร่างกายคน ส่วนที่รั่วซึมออกมาภายนอกนั้น เป็นเพียงแค่ส่วนน้อยเท่านั้น
เวลานี้ด้วยผลที่มาจากเลือดลมร่างกายเฟิงอวิ๋นเซิงยุ่งเหยิงวุ่นวาย นางจึงต่อต้านการโคจรของตนได้ยากอย่างยิ่ง
ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ ความเจ็บปวดที่เหลืออยู่ แค่คิดก็รับรู้ได้
รวมทั้งนางจะรู้สึกตื่นตัว ประสาทฉับไวอยู่ตลอดเวลา จนถึงขั้นที่ความเจ็บปวดจากเข็มแกนน้ำแข็งทวีคูณเป็นเท่าตัว
เดิมทีเฟิงอวิ๋นเซิงนั่งขัดสมาธิ ทว่าบัดนี้ไม่อาจรักษาท่วงท่าของตนได้โดยสิ้นเชิง ทำได้เพียงเอนกายตะแคงข้างลงบนพื้น งอตัว กอดเข่าตัวกลมไปตามจิตใต้สำนึก
นางกัดฟันกรอดไร้สุ้มเสียงเล็ดลอด เป็นการยืนหยัดสิ่งสุดท้ายที่นางจะสามารถทำได้แล้ว
เยี่ยนจ้าวเกอยืนอยู่ตรงหน้ากายนาง มองดูภาพฉากนี้ด้วยใบหน้าไร้การแสดงออกซึ่งอารมณ์
อาหู่เองก็ยืนอยู่ข้างๆ เช่นกัน เขาจดจ้องเฟิงอวิ๋นเซิงด้วยสีหน้าท่าทางหนักแน่นจริงจัง หลังจากนั้นครู่ใหญ่ถึงได้พ่นลมหายใจออกมาคำหนึ่ง “คุณชาย แม่นางเฟิงช่างเก่งกาจเสียจริง”
ชายหนุ่มไม่ได้พูดจา นับเวลาในใจเงียบๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า
อิงหลงถู พ่านพ่าน และโร่วโร่วรออยู่ด้านข้าง ในแววตาของทั้งสามต่างก็เผยให้เห็นความตระหนกตกใจ แม้ก่อนหน้านี้เฟิงอวิ๋นเซิงจะบอกกล่าวพวกเขาไว้แล้ว ทว่าตอนนี้พวกเขาก็ยังคงร้อนใจพุ่งพรวดขึ้นไป
“วันนี้พอแค่นี้ หากเลยเถิดไปจะแย่ยิ่งกว่าไม่ได้ทำ”
ในที่สุดเยี่ยนจ้าวเกอก็เปล่งเสียงตะโกนเบาๆ ฝ่ามือดุจสายฟ้ากระแทกเข้าที่หลังของเฟิงอวิ๋นเซิง
ร่างกายเฟิงอวิ๋นเซิงสั่นเทิ้มชั่วครู่ ในที่สุดไอเย็นที่พรั่งพรูบนร่างก็เริ่มกระจายหายไป น้ำค้างแข็งสลายสิ้น
นางจะเอ่ยปากพูดแต่ก็ไม่ทันได้เอ่ย พลันหมดสติไปเสียก่อน
สำหรับผู้ที่เผชิญหน้ากับโทษทัณฑ์เข็มแกนน้ำแข็งแล้ว การที่หมดสติสลบไสลไป แท้จริงแล้วล้วนเป็นความสุขที่ไม่มีสิ่งใดยิ่งใหญ่ไปกว่านี้แล้ว
เยี่ยนจ้าวเกอกดฝ่ามือบริเวณกลางหลังเฟิงอวิ๋นเซิงไม่ได้คลายออก ช่วยนางปรับเลือดลมภายในร่างกายขึ้นใหม่อีกครั้งอย่างไม่หยุดหย่อน
หากลงโทษเข็มแกนน้ำแข็งผู้คนจริงๆ แม้จะหยุดลงโทษกลางคัน ก็จะไม่ปรับเลือดลมให้เช่นนี้
วิธีการของเยี่ยนจ้าวเกอในตอนนี้ คือทำให้เฟิงอวิ๋นเซิงไม่ถึงขั้นที่ได้รับความทุกข์ทรมานเสียเปล่า เมื่อจ่ายราคาค่าแลกเปลี่ยนออกไปมหาศาล สิ่งได้รับตอบแทนต้องเป็นการพัฒนา
ขณะเดียวกันก็ไม่ใช่ให้ความอบอุ่นแก่เฟิงอวิ๋นเซิงจนหน้ามืดตามัวเช่นกัน การไล่ความเย็นจะทำให้ประสิทธิผลที่แลกมาอย่างยากลำบากกลับลดต่ำลงโดยสิ้นเปลืองเสียด้วยซ้ำไป
หลังจากนั้นเนิ่นนาน เฟิงอวิ๋นเซิงถึงได้ค่อยๆ ฟื้นสติกลับมา ถึงแม้ว่าความรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวจะยังไม่ได้หายไปจนหมดสิ้น ทว่านางก็พอทนไหวแล้ว
เฟิงอวิ๋นเซิงไม่ได้กล่าวอะไรมากนัก กลับมายังท่วงท่านั่งตัวตรงใหม่อีกครั้ง กำหนดลมหายใจขับพิษอย่างล้ำลึก ปรับเลือดลมร่างกายตนเอง ตามการชี้นำของเยี่ยนจ้าวเกอ
“ถึงจะยากลำบากจนแทบสิ้นลม แต่สัมฤทธิ์ผลทันทีจริงๆ ” หลังจากประสบผลสำเร็จ ใบหน้าของเฟิงอวิ๋นเซิงก็เผยเห็นรอยยิ้มอันอ่อนแรง
เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ย “ใช้คัมภีร์แห่งจันทราเป็นรากฐาน ใช้วิชาหยินหยางค้ำจุนเป็นยุทธวิธี แล้วจึงเสริมวิชาเข็มแกนน้ำแข็งเร่งความเร็วเข้าไปอีก ประสานเข้ากับวีธีเสริมอื่นๆ เมื่อทำเช่นนี้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นพลังจันทราของเจ้า หรือพลังฝึกปรือวรยุทธ์เฉพาะตัวของเจ้า ล้วนจะรุดหน้าอย่างรวดเร็ว”
เขามองนัยน์ตาเฟิงอวิ๋นเซิงอย่างลึกซึ้งวูบหนึ่งแล้ว ก่อนจะกล่าวว่า “เจ้าอดทนได้นานเท่าใด ก็ใช้วิธีเหล่านี้ได้นานเท่านั้น ต่อให้เวลามีจำกัด ประสิทธิผลก็จะชัดเจนมากเช่นกัน”
เฟิงอวิ๋นเซิงยิ้ม “ถึงแม้ว่าจะยากเย็นอย่างยิ่งจริงๆ แต่ข้าจะมุ่งมั่นต่อไปเรื่อยๆ จนสุดกำลังของข้า”
ทว่าสถานการณ์ใหญ่ในตอนนี้ ยุทธวิธีนี้ ทำให้บรรลุผลได้ยากยิ่งแล้ว
ไม่ต้องกล่าวถึงสิ่งอื่น เนื่องด้วยของภาคีบึงน้ำไร้ขอบเขตเคลื่อนไหวร่วมมือกับโลกปีศาจอัคคีก่อนหน้านี้ สองสามเดือนที่ผ่านมา ปีศาจอัคคีก่อความวุ่นวายบนดินแดนทะเลตะวันออกตลอดมา จนกระทั่งปัจจุบันก็ยังไม่สงบสุขโดยสิ้นเชิง
ประกายตาเยี่ยนจ้าวเกอเปลี่ยนเป็นครึ้มลึกอยู่หลายส่วน “จะตีเหล็ก กายต้องแกร่ง หวังว่าโอสถเซียนกลับสวรรค์ของท่านพ่อ จะประสบผลได้โดยเร็ว”
ขณะครุ่นคิดไปพลาง เยี่ยนจ้าวเกอกลับมาถึงที่พำนักของตน และเริ่มฝึกปรือต่อไปอีกครั้ง
เครื่องหยกสีฟ้าน้ำแข็งชิ้นหนึ่งปรากฏขึ้นในมือ มันเป็นสิ่งที่ได้มาจากการที่สือเถี่ยเที่ยวเสาะหาซากวัตถุจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์มังกรน้ำแข็งก่อนหน้า แล้วนำกลับมาให้เยี่ยนจ้าวเกอ
ปราณบริสุทธิ์ที่แฝงอยู่ภายในเครื่องหยก บัดนี้ถูกชายหนุ่มดูดซับไปจนแทบเกลี้ยง
เยี่ยนจ้าวเกอกำเครื่องหยกไว้ ถ่ายปราณจิตรา ดูดเสี้ยวปราณบริสุทธิ์สุดท้ายที่เหลืออยู่เข้าสู่ภายในร่างกายตนเอง
แสงวาววับบนพื้นผิวเครื่องหยกมืดสลัวลงไปโดยสิ้นเชิง แต่ปราณจิตราอันเย็นเยียบภายในร่างกายเยี่ยนจ้าวเกอกลับยิ่งแก่กล้ายิ่งใหญ่ มังกรน้ำแข็งแต่ละตัวที่ยึดครองอยู่ในจุดลมปราณของเขาแข็งแกร่งเติบใหญ่ ส่งเสียงร้องคำรามออกมาตลอดเวลา
วิญญาณกระดูกมังกรน้ำแข็งก่อนหน้านี้ กับปราณบริสุทธิ์ที่อยู่ภายในเครื่องหยกชิ้นนี้ ยามนี้ล้วนถูกเยี่ยนจ้าวเกอดูดซับเรียบร้อยแล้ว
ในแง่ของคุณภาพนั้น ด้อยกว่าปราณเพลิงร้อนแผดเผาที่เขาได้มาจากการหลอมเปลี่ยนคัมภีร์ทำลายสวรรค์เป็นเชื้อไฟสัจจะอัคคี ทว่าในแง่ปริมาณ กลับหนาหนักกว่ามากนัก
ปราณจิตราสายหนึ่งเย็นสายหนึ่งร้อน ทั้งสองสายแก่กล้า สั่นกระเพื่อมอยู่ภายในร่างกายเยี่ยนจ้าวเกอไม่หยุดยั้ง ส่งเสียงคล้ายมังกรคำรามออกมา
ในจุดตันเถียนชี่ไห่ของเขา ปราณสะอาดกระจัดกระจาย กลุ่มธาตุปราณบริสุทธิ์ปรากฏ กลืนกินพลังเพลิงและน้ำแข็งอย่างไม่หยุดยั้ง ทำให้ความว่องไวของปราณจิตรากายตนยิ่งมายิ่งมากขึ้น ยิ่งมายิ่งคล่องแคล่วขึ้น
หลังกลับมาที่สำนัก เป็นเวลาเกือบครึ่งปีแล้ว ที่เยี่ยนจ้าวเกอกักตัวพำนัก นานๆ ครั้งจะออกไปด้านนอก มุ่งมั่นฝึกปรือไม่หยุดหย่อน ทำให้พลังฝึกปรือของเขารุดหน้าอย่างฉับไวด้วยเช่นกัน พุ่งสู่ขั้นที่สูงยิ่งกว่าสุดตัว!
………….
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี