สายตาเยี่ยนจ้าวเกอตกลงบนร่างเหยาซานที่รูปโฉมภายนอกเหมือนเช่นผู้อาวุโสหลี่อย่างกับแกะ
“ไม่เพียงแค่ลอกเลียนรูปลักษณ์ร่างกายภายนอกเท่านั้น แม้แต่ลมปราณขับพิษล้วนเลียนแบบได้ ไม่ลงมือจริงๆ จอมยุทธ์ร่วมสำนักล้วนยังมองไม่ออก” เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยชืดชา “ใช่หยกเลียนสังหารหรือไม่?”
ในเมื่อเป็นหยกเลียนสังหาร เช่นนั้นก็หมายความว่าผู้อาวุโสหลี่ตัวจริง เจ้าของเดิมของรูปลักษณ์นี้ถูกสังหารไปแล้ว
เยี่ยนจ้าวเกอเพ่งมองเหยาซาน ประกายตาเย็นเยียบ ไม่เจือปนอุณหภูมิอุ่นแม้แต่น้อย
ครั้นถูกเยี่ยนจ้าวเกอจ้องเขม็งเช่นนี้ ต่อให้เหยาซานแลมองคลื่นพายุจนชาชิน ก็รู้สึกเย็นเยือกในใจเป็นพักๆ เช่นกัน
ถึงแม้ไม่รู้ว่าพิรุธปรากฏอยู่ตรงที่ใด ทว่าในเมื่อถูกเยี่ยนจ้าวเกอมองออกแล้ว ความคิดแรกของเหยาซานก็คือต้องถอยทัพทันที
เพราะหากเยี่ยนจ้าวเกอมีการเตรียมการไว้แล้ว คิดอยากจะโจมตีปลิดชีพเขาอย่างรวดเร็วฉับไว เช่นนั้นเขาก็ไม่มีความมั่นใจว่าจะรอดพ้นไปได้
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ครั้นอยู่ต่อสู้สุดชีวิตต่อไปก็ไร้ซึ่งประโยชน์ใด ถึงขั้นเป็นเพียงแค่การดิ้นรนเฮือกสุดท้ายอย่างไร้ความหมาย เอาชีวิตตัวเองไปทิ้งเสียเปล่าๆ
ไม่อาจปลิดชีพเป้าหมายได้ ก็ควรปลีกหนีให้ไกลพันลี้ในทันใด ภายหลังค่อยวางแผนอีกครั้ง
เหยาซานนั้นคิดเช่นนี้ ทว่าเมื่อตอนเขาคิดจะถอยทัพออกไป กลับค้นพบว่าไม่ง่ายดายเหมือนที่คาดการณ์ไว้เช่นนั้นเลย
พลังปราณทั่วร่างพ่านพ่านดุร้ายน่าพรั่นพรึง แตกต่างจากท่าทีเกียจคร้านที่ซึมกระทือซื่อบื้อนั่นก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง บัดนี้เปลวเพลิงสีขาวและสายธารสีดำทะลักปรากฏรอบกายหัวจรดเท้ามันพร้อมกันแล้ว
เปลวเพลิงสีขาวปกคลุมทั่วร่างพ่านพ่าน ส่วนสายธารสีดำแต่ละสายแผ่ขยายออกมา ชั่วพริบตาเดียวกระจัดกระจายทุกหัวระแหงทั้งสี่ทิศ รูปร่างเสมือนกรงขัง จับเหยาซานพันธนาการปิดตายอยู่ในนั้น
เหยาซานประสงค์ใช้แรงทะลวงการสกัดกั้นของกรงขังสายธารสีดำ ทว่าเขาเพิ่งจะถูกสายธารสีดำรั้งให้ฝีเท้าเนิบช้าลงนิดหน่อย พ่านพ่านก็ได้มาถึงเบื้องหน้า บีบบังคับให้เขาไม่อาจไม่โต้ตอบด้วยพลังทั้งหมดแล้ว
เมื่อเขาหลบการรุกโจมตีของพ่านพ่านได้วัฏจักรหนึ่งแล้ว กรงขังสายธารทมิฬตรงหน้าก็ฟื้นคืนสภาพเดิมอีกครั้ง ถึงขนาดที่แกร่งกว่าเมื่อครู่เสียอีก
ชัดเจนว่าสายธารสีดำยิ่งทรงพลังขึ้นเรื่อยๆ ตามกาลเวลาที่เลยผ่าน
เดิมทีเหยาซานตั้งใจจะต้านทานการโจมตีของพ่านพ่านซึ่งๆ หน้าสักหน่อย ต่อสู้สุดชีวิตเพื่อออกจากวงล้อมเสียก่อน หากแต่เปลวเพลิงสีขาวบนร่างพ่านพ่านรวมตัวกัน พลังสุดขั้วบ้าระห่ำ
นี่ทำให้เหยาซานค้นพบความสิ้นหวัง ถ้าหากกล้าคำนึงแต่วิ่งหนี ประสบพบการโจมตีด้วยกำลังทั้งหมดของพ่านพ่าน เกรงว่าคงต้องบาดเจ็บสาหัสคาสนาม แต่ไหนแต่ไรก็หนีไม่พ้น
ปี่เซียะภูเขาตัวนี้ของเยี่ยนจ้าวเกอ แกร่งยิ่งกว่าที่พวกเขาคาดไว้
เขากวาดมองปราดผ่านอีกฟากหนึ่งด้วยหางตา ก็แลเห็นสหายที่ปลอมกายกลายเป็นรูปโฉมตนเองผู้นั้นถูกสกัดกั้นหนทางไปด้วย ยากจะปลีกตัวเช่นกัน
หัวใจเหยาซานพลันจมดิ่งสู่ก้นบึ้ง
เวลานี้อาหู่ช่วยพวกจวินลั่วกลับออกมาแล้ว เขาแยกเขี้ยวยิงฟันมองไปยังพวกเขา หัวร่อหยันเหอะๆ “เคล็ดวิชาวายุเทพนิมิตทมิฬ เหอะๆ ข้าเองก็ร่ำเรียนวิชานี้ด้วยพอดี พวกเรามาออกแรงสักหน่อยเป็นไร?”
กลุ่มเหยาซานทั้งสองได้ยินดังนั้นนี้ ต่างก็เปล่งเสียงฮึดฮัด ไม่ได้พูดจา
จอมยุทธ์ใต้บัญชาของสำนักเขากว่างเฉิงคนอื่นๆ ในเหตุการณ์ ยามนี้ต่างก็เข้าใจกระจ่าง มองดูเหยาซานที่ยังคงอยู่ในรูปลักษณ์ของผู้อาวุโสหลี่ด้วยสีหน้าพิศวง
ได้ยินเยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยถึงหยกเลียนสังหาร คนที่เคยได้ยินคำเล่าลือของมันก็ตื่นรู้ทันใด หลังจากนั้นแววตาที่มองไปยังเหยาซานก็เปลี่ยนเป็นเย็นเยียบขึ้นมา
เหยาซานมองทางเยี่ยนจ้าวเกออย่างไม่ยินยอมอยู่บ้าง “เจ้าไม่ได้ลงมือด้วยตัวเอง และก็ไม่ได้ให้พยัคฆ์ตัวนั้นออกมือ แต่เรียกปี่เซียะภูเขาสัตว์พาหนะของเจ้า แสร้งตื่นตระหนกเสียการควบคุมมาหยั่งเชิงข้า แท้จริงแล้วในใจเจ้าไม่มั่นใจเหมือนกัน ถูกหรือไม่?”
“จนกระทั่งข้าถูกบีบให้หลบหลีกการโจมตีของปี่เซียะภูเขา เผยให้เห็นรากฐานวิทยายุทธ์ เจ้าถึงได้มองความลับของข้าทะลุปรุโปร่ง?”
เยี่ยนจ้าวเกอพลันยิ้มอย่างเย็นชา “ดูเหมือนว่าเจ้าจะเข้าใจผิดไปเรื่องหนึ่งแล้ว ตอนนี้เจ้ากำลังจะตกอยู่ในกำมือข้า ต่อจากนี้ควรจะเป็นเจ้าที่ตอบข้าเกี่ยวกับเรื่องผู้เหลือรอดแห่งสำนักเขานิมิตทมิฬของพวกเจ้า เจ้าคิดว่าตอนนี้ยังมีเวลาว่างมาถามคำถามข้าอีกรึ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี