ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 266

“ช่วยเหลือเพราะเป็นผู้นำ สมาชิก พันธมิตร หรือจะเป็นเพราะน้ำใจ?” สวีเฟยกล่าว “กระทั่งยังมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นเพราะอุปนิสัยของหยวนเทียนเองอีกด้วย”

“แต่ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไร ก็จำต้องป้องกันหยวนเทียนคนนี้ และแผนการต่อไปของสำนัก ก็จำต้องใคร่ครวญเรื่องของเขาเอาไว้ด้วย”

เยี่ยนจ้าวเกอได้ยินแล้วก็ผงกศีรษะ “จอมมารหยวนเทียนช่างเป็นความยุ่งยากเสียจริง จำเป็นต้องระวังไว้ก่อน”

สวีเฟยเอ่ย “จ้าวเกอ ต่อไปนี้เจ้าต้องระวัง”

สายตาของเขามองไปที่บนรอยประทับมารหลังมือของเยี่ยนจ้าวเกอ “อย่างไรท่านอาจารย์ก็พลังฝึกปรือค่อนข้างสูง หากศัตรูคิดจะเปิดประตูนพยมโลกของเกาะทรายขึ้นอีก เป็นไปได้อย่างมากที่จะเล็งเจ้าเป็นเป้าหมาย”

ชายหนุ่มกล่าวอย่างเด็ดขาด “ถึงแม้ไม่ใช่เพื่อประตูนพยมโลก ก็อาจจะเพ่งเล็งข้าอยู่ดี ข้าตาย แรงกดดันของรอยประทับมารทั้งหมดจะตกอยู่ที่ร่างของท่านอาจารย์ลุงใหญ่ เมื่อเป็นเช่นนี้ จะก่อกวนความสนใจของท่านอาจารย์ลุงใหญ่ขึ้นอีกขั้น พวกเขาต้องการทำเรื่องอื่น ก็ง่ายมากยิ่งขึ้น”

สีหน้าท่าทางสวีเฟยหนักแน่นจริงจังอยู่บ้าง “ใช่น่ะสิ…”

เขาใจกว้างตรงไปตรงมากับผู้คน ทว่านอกเหนือจากความเปิดเผย ก็ค่อนข้างสุขุมเช่นกัน ไม่ชอบคาดเดาไปเอง บางคำพูดไม่อาจกล่าวออกมาได้

เยี่ยนจ้าวเกอกลับเข้าใจความหมายในวาจาสวีเฟยที่ยังพูดไม่จบในคราวเดียว

ถ้าหากสำนักเขากว่างเฉิงยังมีคนเป็นไส้ศึกของภาคีบึงน้ำไร้ขอบเขต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นยอดฝีมือคนหนึ่งที่มีระดับพลังความสามารถค่อนข้างสูง คิดจะลอบสังหารเยี่ยนจ้าวเกอล่ะก็ จะปกปิดซ่อนเร้นอย่างถึงที่สุด ยากจะป้องกันไว้ก่อนได้

อีกทั้งไม่อาจใช้แววตากังขาปฏิบัติกับทุกๆ คนได้ หรือจะแยกเยี่ยนจ้าวเกอออกไปโดยสิ้นเชิง ทั้งหมดล้วนทำได้เพียงพึ่งการระแวดระวังของชายหนุ่มเองแล้ว

เขาตบไหลสวีเฟย “ศิษย์พี่สวีไม่ต้องห่วง ข้าจะระมัดระวัง”

ระหว่างพูดจา เยี่ยนจ้าวเกอก็ยิ้มไปด้วย “ถึงข้าจะไม่ค่อยชอบนัก แต่คล้ายกับว่าเรื่องพวกนี้มักจะมาหาข้าอยู่เสมอ ข้าว่าข้าเกิดมาเป็นเหยื่อล่อ สำนักสามารถสร้างวงล้อมไว้รอบนอกข้า ซุ่มสังหารไส้ศึกภาคีบึงน้ำไร้ขอบเขตได้พอดี”

สวีเฟยเอื้อนเอ่ยด้วยใบหน้าเช่นเดิม “หลักการเช่นนี้ก็ไม่เลว หากแต่เจ้าจะอยู่ในอันตรายอย่างมาก”

“ข้ารู้ว่าจ้าวเกอเจ้ามีของวิเศษติดกาย มหาปรมาจารย์ขั้นซ่อนจิตมิเกรงกลัว กระนั้นหากเป็นมหาปรมาจารย์ขั้นกำเนิดญาณพลันลงมือใกล้ตัวเล่า? ก็ไม่แน่ว่าเจ้าสามารถต้านไว้จนยอดฝีมือที่ซุ่มอยู่รอบๆ มาคุ้มกันได้”

หลังเสียงสวีเฟยหยุดชะงักเล็กน้อยครู่หนึ่ง เสียงก็ทวีความหนักแน่นจริงจังขึ้นอีก “…ถ้าหากเป็นมหาปรมาจารย์ขั้นรูปญาณ เช่นนั้นแม้แต่เวลาจะตอบโต้ล้วนไม่มี”

เยี่ยนจ้าวเกออมยิ้มเอ่ย “ศิษย์พี่สวี สิ่งที่ท่านกล่าวไม่ผิดหรอก เป็นเช่นนั้นจริงแท้ แต่ตอนนี้ศัตรูอยู่ในที่ลับข้าอยู่ในที่แจ้ง บางเรื่องก็ไม่มีทางเลือกเช่นกัน”

“หากแต่ข้าเองก็จะไม่เอาชีวิตน้อยๆ ของข้ามาล้อเล่น แม้จะไม่คิดแยกตัวออกไป แต่ระยะนี้ข้าต้องลดการติดต่อกับยอดฝีมือระดับสูงของสำนักโดยลำพังลง นอกจากที่จำกัดไว้ไม่กี่คนแล้ว เหล่าผู้อาวุโสคนอื่นๆ ทั้งหลาย ทำได้เพียงเอ่ยขออภัยไว้ก่อนแล้ว เชื่อว่าพวกเขาก็จะเข้าใจได้เช่นกัน”

สวีเฟยผงกศีรษะ “เจ้ารู้ดีอยู่แก่ใจก็พอ”

หลังจากเยี่ยนจ้าวเกอส่งสวีเฟยออกไปแล้ว เขาไม่ได้กลับห้องสงบจิตทันที หากแต่เดินออกไปข้างนอกตามอารมณ์

ชายหนุ่มทะลุผ่านป่าเขา มาถึงด้านหน้าน้ำตกแห่งหนึ่ง มองดูน้ำตกไหลกระเซ็นเงียบๆ

ไม่รู้ผ่านไปเนิ่นนานเพียงใด ครั้นเขาเตรียมจะหันกายกลับออกไป พลันไหววูบในใจ

เส้นสายตาทอดมองไปอีกฟาก ก็แลเห็นว่าไกลออกไปมีเงาร่างหนึ่งปรากฏ กลับเป็นหญิงสาวผู้หนึ่ง

ดวงหน้าหญิงสาวงามแฉล้ม หากแต่อุปนิสัยเย็นเยียบอยู่บ้าง ซึ่งก็คือซือคงจิงนั่นเอง

ซือคงฉิงเดินเข้ามาใกล้ ถึงค่อยพบเยี่ยนจ้าวเกอ มองดูแล้วรู้สึกเพียงว่าเยี่ยนจ้าวเกอราวกับหลอมกลืนเข้าเป็นหนึ่งเดียวกับแวดล้อมรอบๆ ทำให้นางยากสังเกตเห็น

“ศิษย์พี่เยี่ยน” ซือคงจิงแสดงคารวะก่อน

เยี่ยนจ้าวเกอผงกศีรษะ “ศิษย์น้องซือคง ไม่พบกันนาน ยินด้วยที่พลังฝึกปรือของเจ้ารุดหน้าฉับไว”

เปรียบเทียบกับตอนการประชุมฝ่านภาที่ทะเลสาบปิดนภา พลังฝึกปรือของซือคงจิงตอนนี้ เหยียบย่างจากขั้นจิตราชั้นในเข้าสู่ขั้นจิตราชั้นนอกแล้ว

หูเยี่ยนจ้าวเกอได้ยินเสียงเสียงหลอดเลือดของนางรินไหล หนักแน่นประหนึ่งปรอทก็ไม่ปาน ไม่ปรากฏความเฉื่อยชาแม้แต่น้อย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี