ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 27

ในตอนที่เหวินหนิงจือได้รับคำสั่งเรียกพบจากผู้อาวุโสฝ่ายอาญา เขายังคิดเลยว่าเป็นเพราะเรื่องของเยี่ยนจ้าวเกอ

แต่ครั้นมาถึงเมืองใกล้ปราการ และรู้ว่าตนเองต้องเข้ารับการสอบสวนก็อึ้งไป

เพราะต่อให้เขาคิดจนสมองแตกก็ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรตนเองถึงต้องเข้ารับการสอบสวน

และเมื่อเขารู้เรื่องราวทั้งหมดว่าเป็นเช่นไรแล้ว เขาก็ต้องอ้าปากค้างไปอึ้งงันไปอีกครั้ง

แม้จะบอกว่าปลดออกจากตำแหน่งชั่วคราว แต่เมื่อผ่านครั้งนี้ไป ต่อให้เหวินหนิงจือผ่านการสอบสวนไปได้ ก็ยากที่จะกลับไปหุบเขาวายุวิญญาณได้อีกครั้ง อีกทั้งการที่ได้ย้ายไปดำรงตำแหน่งปฏิบัติกิจในพื้นที่อื่นก็เป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับเขาแล้ว

กลุ่มกองกำลังฝ่ายอาจารย์ลุงรองของเยี่ยนจ้าวเกอคิดจะแย่งชิงตำแหน่งผู้อาวุโสปฏิบัติกิจแห่งหุบเขาวายุวิญญาณ และเนื่องจากเหวินหนิงจือทำให้ตำแหน่งหลุดมือไปแล้ว จึงยากที่จะแข่งขันกับคนทางฝ่ายของเยี่ยนจ้าวเกอได้อีก

แม้ว่าท้ายที่สุดจะยังมีคนเชื่อมั่นในตัวเขาต่อไป ทว่าก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงที่จะถูกตราหน้าว่า ’ไร้ความสามารถ’ ได้

เหวินหนิงจือที่เดิมทีชีวิตราบรื่นไปเสียทุกอย่าง และมีแววได้เลื่อนขั้นสูงต่อไปอย่างชัดเจน ทว่าจู่ๆ อนาคตก็พลันกลับตาลปัตรมืดมนขึ้นมา

“เยี่ยน! จ้าว! เกอ!”

เหวินหนิงจืออยากจะตะโกนออกมาด้วยความโมโห แต่เมื่ออ้าปากแล้วกลับไม่มีเสียงออกมา อีกทั้งเมื่อกลืนน้ำลายก็รู้สึกราวกับจะกระอักเลือด

“คุณชายขอรับ ในเวลาเพียงสั้นๆ ผู้อาวุโสปฏิบัติกิจพลาดท่าไปถึงสองคนเพราะท่านแล้วนะขอรับ”

เยี่ยนจ้าวเกอได้ยินคำพูดของอาหู่แล้วก็ได้แค่ยักไหล่ ก่อนจะพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “คิดๆ ดูแล้วทางฝั่งท่านอาจารย์ลุงรองคงจะค่อยๆ เริ่มให้ความสำคัญกับข้า ไม่มองข้าเป็นเด็กอีกต่อไป”

“ซึ่งมันเป็นทั้งเรื่องดีและเรื่องไม่ดี ท่านอาจารย์ลุงรองจับตามองย่อมไม่ใช่เรื่องดี แต่ว่าวันหลังหากมีพวกไม่เอาไหนคิดจะจัดการข้า ก็คงต้องคิดให้ละเอียดรอบคอบแล้ว”

ส่วนทางด้านเหวินหนิงจือ ด้วยเพราะมีผลตัดสินชี้ขาดได้ออกมาแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอจึงไม่ได้ให้ความสนใจอีกต่อไป แต่ค่อนข้างสนอกสนใจกับสิ่งที่จะได้รับมากกว่า

สำหรับบทลงโทษของเยี่ยนจ้าวเกอ คือเก็บตัวทบทวนความผิดของตนเองระยะหนึ่ง จากนั้นค่อยเป็นผู้นำคณะในการไปตรวจสอบความผิดปกติของหุบเหวปราการมังกรครั้งต่อไป

เยี่ยนจ้าวเกอไม่เห็นว่าบทลงโทษนั้นเป็นปัญหาอะไร อย่างน้อยก็ได้ซุ่มฝึกฝนวงรยุทธ์ในช่วงทบทวนความผิด

เดิมทีเขาต้องเข้าไปยังหุบเหวปราการมังกรอีกครั้งอยู่แล้ว เพื่ออาศัยปราณพิษบริเวณหุบเหวปราการมังกรในการฝึกฝนเคล็ดวิชาเหวเวหาทวนกระแส

เทียบกับการลงโทษที่ไม่แสบไม่คันแล้ว บำเหน็จรางวัลมีค่ากว่ามาก

บำเหน็จที่สำนับมอบให้เนื่องจากการค้นพบวิธีพัฒนาเตาผลึกหินชั้นในขึ้นไปอีกขั้นนั้น ก็คือยาวิเศษล้ำค่าหนึ่งเม็ดอันมีนามว่า ‘ลูกกลอนวิญญาณทมิฬ’

“คุณชายขอรับ ในบรรดาโอสถต่างๆ ที่เขากว่างเฉิงครอบครองในขณะนี้ โอสถที่ยอดเยี่ยมที่สุดยังคงเป็นลูกกลอนเซียนกว่างเฉิง ทว่าลูกกลอนวิญญาณทมิฬก็เป็นหนึ่งในบรรดาโอสถคุณภาพดีที่สุด” อาหู่หัวเราะพลางกล่าว “ล้ำค่าหายากยิ่ง อีกทั้งการหลอมก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ทั่วทั้งเขากว่างเฉิงปริมาณลูกกลอนวิญญาณทมิฬจำกัดยิ่งนัก”

เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มจางๆ “ที่สำคัญคือเหมาะที่จะใช้พอดี”

ความจริงแล้วในมือของของเขายังมีวิธีปรุงยาที่ได้ประสิทธิภาพกว่าลูกกลอนวิญญาณทมิฬอยู่ ถึงกระนั้นการหลอมโอสถชนิดนี้ยังคงมีความยากมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งยังมีส่วนผสมมากมายที่ยังต้องเก็บรวบรวม

สำหรับเยี่ยนจ้าวเกอในตอนนี้แล้ว ลูกกลอนวิญญาณทมิฬนับว่าเป็นบำเหน็จรางวัลที่ไม่เลวเลยทีเดียว เพราะมันช่วยให้จอมยุทธ์ในการฝึกปราณได้อีกขั้น

ตอนนี้เยี่ยนจ้าวเกออยู่ในจุดสูงสุดของขั้นจิตราชั้นในระยะท้าย ซึ่งขั้นจิตราชั้นนอกระยะต้นกำลังกวักมือเรียกเขาแล้ว

ขั้นจิตรานอกระยะต้น ปราณจิตราจะปลดปล่อยจากภายในออกสู่ภายนอก ทว่าขั้นจิตราชั้นนอกระยะกลาง กลับเป็นการฝึกปราณจิตราอย่างแท้จริง โดยควบคุมลมปราณให้เป็นรูปร่าง

คิดอยากจะบรรลุจากขั้นจิตราชั้นนอกระยะต้นไปสู่ขั้นจิตราชั้นนอกระยะกลาง การฝึกลมปราณจิตราของจอมยุทธ์เองเป็นก้าวหนึ่งที่สำคัญยิ่ง

จึงกล่าวได้ว่า นี่นับเป็นโอสถที่เหมาะสมให้เยี่ยนจ้าวเกอกินในตอนนี้เป็นที่สุด

เห็นได้ชัดว่าสำนักพิจารณาถึงปัจจัยด้านนี้ ก่อนจะบำเหน็จรางวัลให้เยี่ยนจ้าวเกอ ซึ่งไม่ใช่การตัดสินใจที่ไร้เหตุผล

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี