ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 285

ยามเมื่อเยี่ยนตี๋และจอมมารหยวนเทียน ฃเข้าไปในมิติต่างแดนเหนือเขากว่างเฉิงด้วยกัน มหาค่ายกลคุ้มกันเขากว่างเฉิงพลันถูกกระตุ้น

ลวดลายค่ายกลราวกับรุ้งกินน้ำหลายสายทอดผ่านท้องนภา เปล่งแสงขึ้นมารอบเขากว่างเฉิง โดยมียอดเขานภากาศ ยอดเขาหลักของเขากว่างเฉิงเป็นศูนย์กลาง ประกอบกันเป็นค่ายกลมโหฬารที่อาณาเขตกว่างใหญ่ค่ายหนึ่ง

ค่ายกลนี้ยื่นขยายออกไกลออกไปตลอดเวลา ไกลลิบลับจนมองไม่เห็นจุดสิ้นสุด

เหนือยอดเขานภากาศ ฟากฟ้าสั่นไหวเล็กน้อยครู่หนึ่ง ปรากฏรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสมหึมาซึ่งเกือบจะโปร่งแสงออกมา ความยาวรอบด้านไม่รู้ได้ว่าเท่าไร ทว่าใหญ่ยักษ์เสียยิ่งกว่าทั้งเขากว่างเฉิงเป็นร้อยเป็นพันเท่า เติมเต็มท้องฟ้าแล้วในขณะนี้

หลังปรากฏออกมาในพริบตา สี่เหลี่ยมจัตุรัสนี้ก็กลับไปโปร่งแสงอีกหน ทำให้ผู้คนไม่อาจพบเห็นด้วยตาเปล่า

เหนือสุดยอดเขานภากาศ ผู้เฒ่าสองคนเงยหน้ามองท้องฟ้าพร้อมกัน ด้วยพลังฝึกปรือของพวกเขา กลับสามารถเห็นความจริงแท้ในนั้นได้

ทั้งสองคนนี้คือผู้อาวุโสใหญ่ทั้งสองของสำนักเขากว่างเฉิง ผู้อาวุโสเก่าแก่จางคุน และผู้อาวุโสสูงสุดหอคัมภีร์ยุทธศาสตร์ ซินตงผิงนั่นเอง

สำนักเขากว่างเฉิง เท่าที่ผู้คนในโลกหล้าทราบ มหาปรมาจารย์ขั้นบรรลุธรรมทั้งสามท่านนอกจากอดีตเจ้าสำนักหยวนเจิ้งเฟิงแล้ว เว้นผู้อาวุโสเก่าแก่แซ่เหออีกท่านหนึ่งซึ่งกำลังคุ้มกันหยวนเจิ้งเฟิงอยู่ อีกสองคนล้วนอยู่ที่นี่แล้ว

ผู้อาวุโสจางจดจ้องท้องฟ้า พลางรำพึงรำพันกับตนเองว่า “เป็นจอมมารหยวนเทียนดังคาด! คิดไม่ถึงว่าเยี่ยนตี๋จะเคลื่อนย้ายเขาจากโลกภายนอกเข้าไปในมหาค่ายกลนภา ไม่เอ่ยถึงก่อนว่าเขาทำได้เช่นไร หากแต่นี่ก็อันตรายเกินไปแล้วเช่นกัน พาศัตรูขั้นศักดิ์สิทธิ์เข้าสู่ใจกลางสำนัก นี่คงต้องตายกันไปข้างหนึ่ง!”

ซินตงผิงมองดูท้องฟ้าเช่นเดียวกัน ไม่ได้พูดกล่าว

บิดาบุตรเยี่ยนตี๋และเยี่ยนจ้าวเกอสามารถย้ายจอมมารหยวนเทียนกลับเขากว่างเฉิงได้ ก็เหนือความคาดหมายของเขาโดยสิ้นเชิงแล้ว

เยี่ยนตี๋กลับสำนักเร็วกว่าที่เขาคาดการณ์ไว้ยิ่งนัก

หากแต่เยี่ยนตี๋เองกลับมาไม่เท่าใด ยังพาจอมมารหยวนเทียนกลับมาด้วย เขายังคงถูกหยวนเทียนตรึงไว้ ไม่อาจแยกร่างทำสิ่งอื่น

ซินตงผิงพลางครุ่นคิด ใต้ฝ่าเท้าแตะแผ่วเบา สัมผัสมหาค่ายกลนภาที่สร้างมิติต่างแดนนั้นออกมา

เบื้องหน้าเขาและผู้อาวุโสจาง ปรากฏแดนลวงตาแสงวาวโรจน์ออกมาฉับพลัน ในแดนลวงตาก็คือทัศนียภาพภายในมิติต่างแดน

จากนั้น ทั้งสองพลันค้นพบว่าเยี่ยนตี๋ที่สวมเสื้อคลุมนภา เจตจำนงตัดสลับ เสมองอาณาบริเวณ หยวนเทียนที่ขั้นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์กำลังเสียเปรียบอย่างคาดไม่ถึง!

บัดนี้ผนวกกับการกุมชัยภูมิมหาค่ายกลนภาเข้าไปอีก พลังความสามารถของเยี่ยนตี๋พุ่งสูงขึ้นอีกขั้น!

แม้ว่าเพื่อที่จะป้องกันศัตรูนอกคนอื่น เยี่ยนตี๋ไม่ได้กระตุ้นพลังมหาค่ายกลทั้งหมด โดยส่วนมากคือคงเสถียรภาพมิติต่างแดน กักหยวนเทียนไว้ภายใน

ทว่าแม้จะทำเช่นนี้ ระหว่างที่ดาบสรรค์มังกรทะยานในมือเขาตัดสลับ ก็โจมตีจนหยวนเทียนทรุดถอยไม่เป็นกระบวนท่าเช่นกัน

จอมมารศักดิ์สิทธิ์ผู้สง่าน่าเกรงขาม สะบักสะบอมสิ้นท่า!

นับแต่หยวนเทียนเหยียบย่างขั้นศักดิ์สิทธิ์เป็นต้นมา ไหนเลยจะเคยผลุนผลันร้อนรนเช่นตอนนี้?

ผู้อาวุโสจางสูดหายใจเข้าลึกคำหนึ่ง “ถ้าหากสามารถสร้างฟ้าดินในช่วงเวลาอันสั้นได้ ไฉนเลยการสังหารจอมมารระดับศักดิ์สิทธิ์ที่ปัญหาอันใหญ่หลวงนี้ที่นี่ จะเป็นไปไม่ได้”

ซินตงผิงมองดูภาพฉากนี้ หลังจากนั้นเนิ่นนานจึงกล่าว “เป็นเช่นนี้ไม่ผิด แต่ว่าในระยะเวลานี้ ยิ่งสั้นเท่าใดยิ่งดี เพราะหากยิ่งยืดเยื้อนานเท่าใด ความผันแปรก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น”

สิ้นเสียงพูด เขากว่างเฉิงเบื้องล่างทั้งสองคน ก็คล้ายกับสั่นสะเทือนฉับพลันครู่หนึ่ง

คิ้วขาวราวหิมะทั้งสองของผู้อาวุโสจางขมวดย่นเข้าหากัน มองไปยังทิศยอดเขาอรรณพ “…เป็นทางหุบเขาผนึกเวหา?”

แรงสั่นสะเทือนจากทิศยอดเขาอรรณพส่งทอดมาราวกับแผ่นดินไหวเป็นพักๆ ต่อเนื่องทั่วทั้งเขากว่างเฉิงคล้ายกับโยกคลอนขึ้นมาพร้อมกัน

“มีศิษย์น้องกงรักษาการณ์หุบเขาผนึกเวหาอยู่ เหตุใดจึงเกิดความเปลี่ยนเปลี่ยนฉับพลันขึ้นได้?” ผู้อาวุโสจางเพ่งมองยอดเขาอรรณพ

ซินตงผิงที่อยู่ข้างๆ สีหน้าสงบนิ่ง “ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไร ก็จำเป็นต้องแก้ไขให้เร็วที่สุด”

“ฟางจุ่นสาบสูญไม่แน่ชัด ผู้ใดก็ไม่รู้ได้ว่าสุดท้ายแล้วเขาไปทำอะไร” ซินตงผิงเอื้อนเอ่ย “ถึงแม้ว่าตอนนี้ยังไม่อาจด่วนสรุป แต่บางเรื่องก็ควรเตรียมใจไว้บ้างเช่นกัน”

เขามองไปยังผู้อาวุโสจาง “รวมถึงศิษย์น้องกงด้วย คนอื่นต่างไม่ใช่คู่ต่อสู้ฟางจุ่น พวกเราคนใดคนหนึ่งไปตรวจดูเถอะ ส่วนอีกคนหนึ่งรั้งอยู่ที่นี่ ควบคุมดูแลค่ายกลให้เยี่ยนตี๋”

ผู้อาวุโสจางมองซินตงผิงอย่างเอาจริงเอาจัง แววตาซินตงผิงเงียบสงัดไร้คลื่น ดุจดั่งน้ำนิ่งเฉกเช่นปกติ ไม่พบความเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี