ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 30

อาหู่เข้าไปในห้องแล้วพูดว่า “ข้อมูลที่ได้มาเบื้องต้นบอกว่ามีคนเคยพบเห็นกล้วยไม้ทองสิบกลีบที่เทือกเขามฤคลับตาขอรับ”

เยี่ยนจ้าวเกอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ‘เทือกเขามฤคลับตาหรือ…อยู่ด้านนอกของหุบเหวปราการมังกรใกล้ๆ นี้ และอยู่ในแผ่นดินของอาณาจักรถังตะวันออกด้วย’

“อืม ตอนนี้ข้ากำลังว่าง เช่นนั้นไปเดินเล่นแถวเขตเทือกเขามฤคลับตาสักหน่อยแล้วกัน ดูสิว่าจะหลอกล่อให้หัวหน้าค่ายชื่อหลิงออกมาได้อีกหรือไม่”

ความผิดปกติของหุบเหวปราการมังกร การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเฒ่ามารหัวขวาน แล้วยังมีการเคลื่อนไหวลับๆ ของหัวหน้าค่ายชื่อหลิงอีก อีกทั้งทางสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ก็มีการเคลื่อนไหวก่อนเกิดเรื่องทั้งหมดอีกด้วย

แม้ว่าราชาอาณาจักรถังตะวันออกจะโน้มเอียงมาทางเขากว่างเฉิง ทว่าฝ่ายเขากว่างเฉิงมีเพียงเหยียนซวี่คุมการณ์อยู่ในอาณาจักรถังตะวันออก เห็นได้ชัดว่ายังไม่เพียงพอ

ผู้อาวุโสฝ่ายอาญาแห่งเกาะตะวันออกก็มีภารกิจติดตัว จึงไม่สะดวกนักที่จะอยู่ในอาณาจักรนานๆ ถึงกระนั้นเขากว่างเฉิงก็ได้ส่งจอมยุทธ์คนอื่นๆ มาสมทบแล้ว แม้ว่าในตอนนี้เหตุการณ์ของอาณาจักรถังตะวันออกจะยังไม่สงบ แต่คนของทางเขากว่างเฉิงก็ยังคงไม่ขาดแคลน

เพียงแต่ไม่รู้ว่าหัวหน้าค่ายชื่อหลิงหนีจนมุมแล้วจะเสี่ยงอันตรายเพราะเข้าตาจนอีกครั้งหรือไม่

ส่วนการออกคำสั่งให้คนเบื้องล่างออกตามหากล้วยไม้ทองสิบกลีบนั้น มีความสำคัญสำหรับเยี่ยนจ้าวเกอมากกว่า

ขณะเดียวกันการแย่งชิงตำแหน่งเจ้าสำนักเขากว่างเฉิงรุ่นต่อไป ระหว่างบิดาของเยี่ยนจ้าวเกอและอาจารย์ลุงรองของเขาก็กำลังเข้าสู่ช่วงที่สำคัญที่สุดอย่างช้าๆ

เนื่องจากอาจารย์ปู่ของเยี่ยนจ้าวเกอ ประมุขสำนักในปัจจุบันมีความคิดที่จะเข้าฌานเพื่อฝึกปราณมานานแล้ว ทว่าการเข้าฌานในครั้งนี้ไม่เหมือนกับครั้งก่อน เพราะไม่มีกำหนดออกจากฌานที่แน่นอน อาจใช้เวลายาวนานมาก แม้กระทั่งมีอันตรายถึงชีวิตก็เป็นได้

ฉะนั้นเจ้าสำนักจึงวางแผนแต่งตั้งผู้รับช่วงต่ออย่างเป็นทางการก่อนที่จะเข้าฌานไป

สำหรับบิดาของเยี่ยนจ้าวเกอ การกำจัดเหล่าผู้อาวุโสปฏิบัติกิจอย่างชุยซินและเหวินหนิงจือนั้น ไม่ได้ส่งผลกับสถานการณ์โดยรวมเลย

ณ ขณะนี้ เตาผลึกหินชั้นในที่ยังหลอมอาวุธวิญญาณไม่ได้ ก็พูดได้เพียงว่าช่วยเพิ่มคะแนนความประทับใจเล็กน้อยเท่านั้น ไม่สามารถกำหนดผลลัพธ์ชี้ขาดได้

หากมองจากบางมุมแล้ว การเลื่อนขั้นในสำนักของเยี่ยนจ้าวเกอดูจะมีส่วนช่วยได้มากกว่า

เยี่ยนจ้าวเกอรู้เรื่องนี้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง และได้มีการตระเตรียมเอาไว้แต่เนิ่นๆ แล้ว ฉะนั้นในขณะที่ศึกษาเตาผลึกหินชั้นใน เขาก็ทำการวางแผนอีกเรื่องหนึ่งอยู่เช่นกัน

นั่นก็คือ ‘กลั่นโอสถชนิดหนึ่ง’ ซึ่งเป็นโอสถวิเศษที่ยังไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อนในโลกแปดพิภพ นับจากหลังวิกฤติการณ์ครั้งใหญ่

หากทำเรื่องกลั่นโอสถนี้สำเร็จได้ ก็จะถือเป็นผลงานชิ้นใหญ่สำหรับการแข่งขันช่วงชิงตำแหน่งเจ้าสำนักของบิดา แทบจะสามารถชี้ขาดผลลัพธ์ในท้ายที่สุดได้เลยทีเดียว

หลังออกจากที่พัก เยี่ยนจ้าวเกอก็ครุ่นคิดในใจ ขณะเดินอยู่บนถนนของเมืองใกล้ปราการ

“จริงสิ คุณชายขอรับ ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง วัตถุดิบปรุงโอสถสองชนิดที่ท่านให้ข้าตามหาก่อนหน้านี้ ขาดตลาดโดยสิ้นเชิงในอาณาจักรถังตะวันออก ข้าลอบเข้าไปในคลังลับของวังแล้ว ถึงได้มาจำนวนเล็กน้อย”

“เมื่อลองตรวจสอบก็พบว่าเป็นเพราะหอศิลาโอสถ มหาอำนาจที่กลั่นโอสถผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาณาจักรถังตะวันออก กว้านซื้อไปทั้งหมดขอรับ”

“ขณะเดียวกัน จู่ๆ หอศิลาโอสถก็เริ่มวางขายโอสถศักดิ์สิทธิ์รักษาบาดแผลที่สาบสูญไปตั้งนานแล้ว นามว่า ‘หมอกควันสลาย’ ขอรับ”

เยี่ยนจ้าวเกอครุ่นคิด ก่อนกล่าวว่า “ข้าจำได้ว่า ‘หมอกควันสลาย’ เป็นความลับเฉพาะของท่านตันหั่ว เซียนกระบี่และนักปราชญ์ระดับสูง ทว่าไม่มีการสืบทอดตั้งแต่ล่วงลับไป”

ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ หลังจากที่เริ่มมีการแบ่งเป็นโลกแปดพิภพอย่างเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้ว ตันหั่วเป็นจอมยุทธ์ระดับสูงสุดในจำนวนน้อยนิด ที่สร้างสิ่งต่างๆ ด้วยกำลังของตนเอง ซึ่งเขาเคยบรรลุถึงระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย

คนผู้นี้มีนิสัยหยิ่งยโสเป็นอย่างยิ่ง ถึงกระนั้นก็เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถอย่างแท้จริง

ในขณะที่มีวิชากระบี่ยอดเยี่ยมเป็นที่หนึ่ง เขาก็ยังเป็นนักกลั่นโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงอีกด้วย เป็นเลิศทั้งวิชากระบี่และวิชากลั่นโอสถอย่างแท้จริง

เพียงแต่เขาไม่ได้มีความสัมพันธ์อันดีกับเขากว่างเฉิงมากนัก

และคนผู้นี้ได้ล่วงลับไปหลายปีแล้ว

“อาจจะเป็นเพราะหอศิลาโอสถบังเอิญมีโชค ได้วิชาปรุงโอสถลับที่ท่านนักปราชญ์ผู้นั้นทิ้งเอาไว้ก็ได้ขอรับ” อาหู่คาดเดา

เยี่ยนจ้าวเกอผงกศีรษะด้วยท่าทีที่ไม่ได้สนใจนัก เพราะเขาไม่ได้ใส่เรื่องนี้สักเท่าไร

แท้จริงแล้วหมอกควันสลายเป็นโอสถศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้รักษาบาดแผลที่หาได้ยากนักในปัจจุบัน ทว่าสำหรับตัวเขาเองแล้วไม่ใช่สิ่งขาดไม่ได้

เมื่อเดินไปได้สักพัก ภายในใจของเยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง จึงเงยหน้าขึ้นมองไป ก่อนจะเห็นเงาของคนกลุ่มหนึ่งปรากฏอยู่อีกฟากถนน

แม้ว่าคนกลุ่มนั้นจะอยู่ห่างกับเยี่ยนจ้าวเกอค่อนข้างมาก แต่ด้วยระดับความสามารถในการฟังของเขาแล้ว จึงได้ยินสิ่งที่พวกเขาถกเถียงกันอย่างชัดเจน

“ศิษย์น้องเฟ่ย เห็นอยู่ว่าอีกฝ่ายจงใจสร้างความลำบากให้เจ้า เหตุใดเจ้าจะต้องไปฟังที่เขาพูดด้วยเล่า!”

เด็กหนุ่มร่างสูงใหญ่คนหนึ่งกล่าวด้วยสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์

เยี่ยนจ้าวเกอจำได้ว่าเขาคือ ‘หลานเหวินเหยียน’ เขาเป็นศิษย์รุ่นเยาว์ที่ร่วมเดินทางมาจากสำนักพร้อมชายหนุ่ม เพื่อฝึกฝนในครั้งนี้

สองสามคนข้างๆ หลานเหวินเหยียนล้วนเป็นศิษย์รุ่นเยาว์ที่ร่วมเดินทางมาฝึกฝนเช่นกัน

หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจฝึกฝนที่หุบเหวปราการมังกรก่อนหน้านี้ นอกจากเยี่ยจิ่งที่หายตัวไปแล้ว ในบรรดาศิษย์น้องอีกสิบห้าคนที่เหลือ บางคนเลือกที่จะเดินทางกลับสำนัก ในขณะที่บางคนเลือกอยู่ที่เมืองใกล้ปราการเพื่อฝึกฝนต่อไป

ด้านหน้าของพวกหลานเหวินเหยียน มีเด็กหนุ่มที่มีอายุใกล้เคียงกันนั่งคุกเข่าอยู่บนพื้น พลางยิ้มเจื่อนๆ

“ศิษย์พี่หม่าเป็นผู้ที่ดูแลการฝึกทั้งหมดของข้าในยามปกติ เรื่องที่เขาสั่ง ข้าก็ต้องทำตามแน่อยู่แล้ว”

หลานเหวินเหยียนโกรธสุดขีด “แต่ระดับวรยุทธ์ของเจ้าในตอนนี้ หากไปใต้มหาน้ำตกนั้น แค่ครึ่งชั่วยามก็อาจเกิดเรื่องขึ้นได้”

“นี่ตั้งหนึ่งชั่วยาม เขาคิดจะฆ่าเจ้าหรืออย่างไร”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี