ภายใต้การควบคุมของเซียวเซิง ฝ่ามือทั้งสองของตุ๊กตาหุ่นกระบอกท่านสุริยันศักดิ์สิทธิ์พลันลอยขึ้น และลอยผ่านไปราวกับภาพลวงตา
ดุจพระอาทิตย์กำลังคล้อยตกดิน แสงสุดท้ายที่หลงเหลืออยู่แปรเปลี่ยนเป็นภาพต่างๆ ทั้งสวยงาม ขมขื่น และลึกลับ
หัตถ์เงาสนธยา
วรยุทธ์วิชาสายหลักของสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ อันเป็นวิชาเจ็ดสุริยะเช่นเดียวกันกับหัตถ์เทพกลางเวหา
นับเป็นชื่อวรยุทธ์วิชาที่มีชื่อเรียกตามการเปลี่ยนแปลงกระบวนท่า ในบรรดาวรยุทธ์วิชาที่มีจำนวนไม่มากของสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์
เซียวเซิงได้ฝึกฝนและค้นคว้าวรยุทธ์วิชานี้มานานหลายปี จนรู้ลึกถึงแก่นแท้ของวิชาแล้ว
แม้แต่ผู้หลักผู้ใหญ่ร่วมสำนักที่มีวรยุทธ์แก่กล้ามากกว่าเขา ก็ยังมีความรู้ความเข้าใจในวรยุทธ์วิชานี้ไม่เท่าเขาด้วยซ้ำ
ภายใต้การกระตุ้นปราณจิตราของเซียวเซิง ตุ๊กตาหุ่นกระบอกนั้นราวกับจอมยุทธ์ที่มีชีวิต มันแสดงวรยุทธ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงที่ซับซ้อนมากมายนี้ออกมาได้ทุกรายละเอียด
“ขนาดควบคุมตุ๊กตาหุ่นกระบอกยังทำได้ถึงเพียงนี้ แล้วถ้าเจ้าตัวเซียวเซิงใช้เอง จะมีอานุภาพเพียงใดกัน”
ลูกศิษย์ของเขากว่างเฉิงที่ดูการปะทะอยู่ข้างๆ ต่างก็รู้สึกขมในคอ ฝ่ามือค่อยๆ มีเหงื่อซึมออกมา
สายตาของเยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้มองตุ๊กตาหุ่นกระบอกท่านสุริยันศักดิ์สิทธิ์ แต่กลับมองมือที่กำลังควบคุมตุ๊กตาหุ่นกระบอกของเซียวเซิง
เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูที่โจมตีมาด้วยพลังอันร้ายกาจ ตุ๊กตาหุ่นกระบอกท่านตงก็ฟาดฟันดาบออกไปโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง!
ในสายตาของทุกคน ตุ๊กตาหุ่นกระบอกที่แต่เดิมห้อยระโยงรยางค์ บัดนี้ราวกับเปลี่ยนเป็นเซียนมังกรผู้ทรงพลัง มันเหินทะยานขึ้นฟ้า ทำลายบรรดาภาพลวงตาที่เกิดจากแสงสนธยายามพลบค่ำออกทั้งหมด
แสงสีเขียวกระจายตัวออก ราวกับมังกรสะบัดเกล็ด บินเหินลัดฟ้า
ภาพลวงตาถูกทำลายทีละชั้น ประดุจฟองอากาศในความฝัน
แม้ว่าอาวุธที่อยู่ในมือของท่านตงจะเป็นดาบที่ทำจากไม้ แต่เยี่ยนจ้าวเกอก็ใช้ดาบแทนกระบี่โดยไม่สนใจรูปลักษณ์ของมัน กระบวนท่าเพลงกระบี่มังกรเขียวในชายเสื้อยังคงวิเศษสุดยอด และสลายวิชาอรหันต์เงาสนธยาของเซียวเซิง
ลูกศิษย์ของเขากว่างเฉิงส่งเสียงร้องยินดีพร้อมกันทันที
มุมปากของเซียวเซิงกลับเผยให้เห็นรอยยิ้มเยือกเย็น
“คิดว่าข้าเหมือนเฉาหยวนหลง ที่เป็นควายป่าเก่งแต่ใช้กำลังหรืออย่างไร”
พูดแล้ว เซียวเซิงก็บังคับตุ๊กตาหุ่นกระบอกให้เปลี่ยนกระบวนท่าดูซับซ้อนมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงที่มหัศจรรย์มากมายของวิชาหัตถ์เงาสนธยาพลันปรากฏขึ้น
ภายใต้การกระตุ้นของปราณจิตรา ตุ๊กตาหุ่นกระบอกของท่านสุริยันศักดิ์สิทธิ์เริ่มมีแสงอ่อนๆ ไหลเวียน ราวกับแสงสุดท้ายของพระอาทิตย์เข้าปกคลุมท่านตงอีกครั้ง
ครั้งนี้ ภาพลวงตานอกจากสวยงาม ขมขื่น ลึกลับ และมีการแปรเปลี่ยนสารพัดแล้ว ยังมีความรู้สึกสิ้นหวังเพิ่มเข้ามาด้วย
พระอาทิตย์ตกลับภูเขา ผืนแผ่นดินกำลังเข้าสู่ความมืดมิดยามค่ำคืน ขอบฟ้าเหลือเพียงแสงสนธยาสุดท้าย
ไม่ว่าจะพยายามยื้อดึงอย่างไร ไม่ยอมเพียงไร ก็เป็นสิ่งที่เปล่าประโยชน์
สิ่งที่จะเกิด ไม่ว่าอยางไรก็ต้องเกิด!
วินาทีนี้เซียวเซิงแสดงความหมายเบื้องลึกที่แท้จริงของวิชาหัตถ์เงาสนธยาออกมาจนหมดสิ้น
แสงสลัวยามสนธยาราวกับกรงขังแห่งความสิ้นหวัง ปกคลุมตุ๊กตาหุ่นกระบอกท่านตงไว้
กระนั้นกระบวนท่าเพลงกระบี่มังกรเขียวในชายเสื้อของเยี่ยนจ้าวเกอ ก็ยังคงราวกับมังกรฟ้าพุ่งทะยานขึ้นในอากาศ ล้ำเลิศเหนือชั้น
แต่วินาทีนี้ก็ทำได้แค่เพียงเบิกตากว้าง มองพระอาทิตย์ที่กำลังจะลับไป โดยที่ไม่สามารถรั้งดึงการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาตินี้ได้
แสงกระบี่สีเขียวมืดลงในพริบตา ด้วยเพราะแสงอาทิตย์มัวหม่น ความมืดมิดมาเยือนตรงหน้าทุกคนที่กำลังดูการประลองอย่างฉับพลัน และกลืนกินตุ๊กตาหุ่นกระบอกทั้งสองเข้าไป
เซียวเซิงยิ้มพลางกล่าว “สิ่งที่ต้องล่วงลับ สุดท้ายก็ต้องล่วงลับไป”
“การระลึกคิดถึงก็เป็นแค่การกระทำที่เปล่าประโยชน์เท่านั้น!”
ปราณจิตราของเขาพลันสั่นสะเทือน ฝ่ามือทั้งสองของตุ๊กตาหุ่นกระบอกท่านสุริยันศักดิ์สิทธิ์ฟาดลงบนจุดสำคัญบริเวณหน้าอกของท่านตงแล้ว!
“เหอะๆ…” เยี่ยนจ้าวเกอมองภาพตรงหน้า ในดวงตาฉายแววเยือกเย็น
ในขณะเดียวกัน ร่างกายของตุ๊กตาหุ่นกระบอกท่านตงก็บิดตัวด้วยความเร็ว และสะบัดข้อมือครั้งหนึ่ง!
ปลายดาบไม้เก็บเข้าหาตัว และรวมเป็นหนึ่งกับร่างกายของตุ๊กตาหุ่นกระบอก
พลังความสามารถที่เดิมทีถูกปลดปล่อยออกมาอย่างโดดเด่น จู่ๆ ก็กลับเป็นธรรมดา
ราวกับเก็บกระบี่เข้าฝัก ดุจมังกรแท้บินเหินอยู่กลางฟ้า หลบลอดซ่อนตัวไปในกลีบเมฆ
มังกรเขียวในชายเสื้อ เพลงกระบี่มังกรเมฆาซ่อนกระบี่!
รอยยิ้มบนใบหน้าของเซียวเซิงหุบลง ในใจเกิดลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี