อาหู่มองดูบ่อน้ำพุวิเศษสีฟ้านั้นด้วยความสงสัยใคร่รู้ ส่วนเยี่ยนจ้าวเกอเงยหน้าขึ้นมองฟ้าดินโดยรอบ
ชายหนุ่มสัมผัสการโคจรพลังปราณระหว่างฟ้าและดิน แล้วยื่นมือออกไปใช้ปราณจิตราดึงน้ำพุสีฟ้าสายหนึ่งมาไว้ที่กลางฝ่ามือ จากนั้นค่อยสัมผัสและทำความเข้าใจอย่างถี่ถ้วน
หลังจากนั้นเนิ่นนาน เยี่ยนจ้าวเกอค่อยกระซิบกระซาบรำพันว่า “จังหวะยังคงไม่เหมาะสมเต็มที่ จำเป็นต้องให้ที่แห่งนี้สั่งสมพลังชีวิตอีกสักหน่อยถึงจะใช้ได้”
สิ้นเสียงพูด เยี่ยนจ้าวเกอก็มองไปรอบๆ จากนั้นออกแรงที่เท้าอีกครั้ง
คราวนี้เขากระแทกให้หินและดินที่อยู่โดยรอบพังทลายลง กลบฝังตาน้ำพุของบ่อน้ำพุร้อนสีฟ้านั่นลงอีกครั้ง
ดูเหมือนว่าความเปลี่ยนแปลงของดินและหินบนทุ่งหิมะ ยากที่จะเลี่ยงไม่ให้ไม่สะดุดตาอยู่บ้าง
ปราณจิตราทั่วร่างเยี่ยนจ้าวเกอเปลี่ยนแปลงฉับพลัน กลายเป็นเย็บเยียบจนเสียดกระดูก ปราณจิตราสีขาวโพลนหลายสายประหนึ่งกับมังกรน้ำแข็งหลายตัว กำลังเหินบินวนเวียนอยู่บนท้องฟ้า จากนั้นก็โฉบลงมาบนพื้นแผ่นดินใหญ่ แช่แข็งดินและหินที่ถูกแหวกออกมาก่อนหน้านี้ไว้ดังเดิม
อาหู่อยู่ด้านข้างก็ช่วยหาจุดบกพร่องแล้วแก้ไขเพิ่มเติม จัดฉากสถานที่อีกครั้ง ทำให้ดูไปแล้วที่นี่กลมกลืนไปกับบริเวณโดยรอบ ไม่ถึงกับแตกต่างกันจนเกินไปด้วยเช่นกัน
เมื่อจัดการทั้งหมดนี้เสร็จสิ้น เยี่ยนจ้าวเกอจึงกล่าวว่า “ไป ไปที่ต่อไปกันก่อน”
เยี่ยนจ้าวเกอเดินนำหน้าไปพลาง เอื้อนเอ่ยไปพลาง “อาหู่ ส่งดาบจตุเพชรฆาตที่ก่อนหน้าข้าฝากเจ้าไว้ออกมา”
อาหู่กระทำตามคำสั่ง หยิบดาบสั้นสี่เล่มที่ยาวไม่เกินหนึ่งฉื่อ ดูแล้วธรรมดาทั่วไปอย่างยิ่งส่งให้เยี่ยนจ้าวเกอ
เมื่อมองดูอย่างละเอียดแล้ว ก็สามารถค้นพบได้ว่า ดาบสั้นสี่เล่มนี้ ชัดเจนว่ายังไม่ได้ลับคมทั้งสิ้น ปลายดาบนั้นทู่
กระนั้นบนคมดาบกลับเปล่งประกายอยู่ด้วยธารแสงสีแดงก่ำ ประหนึ่งกับเพลิงคุโชนก็ไม่ปาน
ชายหนุ่มรับดาบสั้นสี่เล่มนี้มา โดยใช้ปราณจิตราของตนม้วนเอาไว้ ทำให้ปลายดาบเรียงอกันย่างเป็นระเบียบลอยอยู่กลางอากาศ ก่อนจะหยุดอยู่ข้างกายของเขา
ขณะที่ประกายดาบกวัดแกว่ง ก็คล้ายกับมีประกายเพลิงปลิวว่อนอยู่รำไร รวมตัวกันอยู่เหนือศีรษะของเยี่ยนจ้าวเกอ กลายเป็นเส้นทางเพลิงลวงตาสายหนึ่ง ยื่นขยายออกไปไกลไม่มีสิ้นสุด
เยี่ยนจ้าวเกอพาอาหู่เดินต่อไปข้างหน้า ตามทิศทางคร่าวๆ ที่เส้นทางเพลิงยื่นขยายออกไป
ภาพเส้นทางเพลิงที่ยื่นขยายออกไปสายนั้นเริ่มคงที่ขึ้นเรื่อยๆ ตามการรุดหน้าของพวกเขา สุดท้ายตรงดิ่งไปยังทิศทางหนึ่ง
เส้นทางเพลิงสายนี้ เด่นสะดุดตาท่ามกลางพายุหิมะอย่างยิ่ง ทว่ามีเพียงเยี่ยนจ้าวเกอที่เป็นผู้ขับเคลื่อนดาบเพชรฆาตสี่เล่มนั้นเท่านั้น ถึงจะสามารถมองเห็นได้
หลังจากไล่ไปตามทิศทางที่เส้นทางเพลิงนำทาง บุกป่าฝ่าดงยาวเหยียดจนไม่เห็นจุดสิ้นสุด ในที่สุดพวกเยี่ยนจ้าวเกอทั้งสองก็หยุดฝีเท้าลง
ชายหนุ่มมองไปตามเส้นทางเพลิงที่ตกไปบนพื้นหิมะ ก็เห็นว่าเส้นทางเพลิงลวงตาตรงดิ่งลงสู่ใต้ดิน
เขาแหงนหน้าขึ้นสังเกตสภาพแวดล้อมโดยรอบครู่หนึ่ง สัมผัสทิศทางการไหลเวียนของพลังปราณที่นี่ หลังจากนั้นพักใหญ่ถึงพึมพำกับตนเองว่า “ที่นี่น่าจะใช้ได้”
ทันใดนั้น เขาพลันตบฝ่ามือลงไปบนพื้นเบาๆ ทำให้ผิวดินสั่นไหวครู่หนึ่ง
ดาบเพชฌฆาตทั้งสี่เล่มที่ลอยค้างอยู่กลางอากาศหล่นลงมา ปลายดาบสัมผัสกับพื้นผิวดิน
เยี่ยนจ้าวเกอยื่นมือออกไป พาให้ดาบเพชฌฆาตทั้งสี่เล่มซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้เสียบเข้าไปภายในพื้นดิน
เวลานี้บนด้ามดาบที่เหลืออยู่ด้านนอกดินมีแสงเพลิงสีแดงผุดขึ้นออกมา ชั่วขณะถัดมา แสงเพลิงสีแดงก่ำจึงค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีฟ้าน้ำแข็ง
เขาผงกศีรษะ ก่อนจะดึงดาบเพชฌฆาตทั้งสี่เล่มออกมาทีละเล่ม จากนั้นก็นำกระสวยเบิกดินแดนออกมาอีกครั้ง พวกเขาลงไปนั่งพร้อมกัน เพื่อดำดิ่งลงสู่พื้นปฐพีใหญ่เบื้องล่าง
ภายในดินเยือกแข็ง ดูเหมือนว่ากระสวยเบิกดินแดนรุดหน้าได้ไม่ว่องไวขนาดนั้น
หากแต่ไม่นาน เยี่ยนจ้าวเกอที่ขับเคลื่อนกระสวยเบิกดินแดนก็รู้สึกได้ว่าแรงดันด้านหน้าผ่อนเบาลง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี