ท้องทะเลกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา แต่นี่ไม่อาจสร้างความลำบากให้พวกเยี่ยนจ้าวเกอได้
พ่านพ่านปล่อยกระแสน้ำสีดำออกมาหมุนเวียนรอบร่างกาย ก่อตัวเป็นม่านกันน้ำทะเลไว้ด้านนอก พาเยี่ยนจ้าวเกอกับอาหู่เดินไปในทะเลอย่างเชื่องช้า
เยี่ยนจ้าวเกอมองรอบๆ “ศิษย์น้องซือคงน่าจะอยู่ใกล้ๆ นี้”
อาหู่สนใจเพียงโอวหยางฉีนั่น รอยยิ้มบนใบหน้าดูดุร้ายเล็กน้อย “คุณชาย ในเมื่อแน่ใจแล้วว่าเจ้าหนุ่มนั่นมีปัญหา เช่นนั้นพวกเราจับเขาเถอะขอรับ”
ชายหนุ่มลูบคาง “ไม่รู้ว่าเขากับปราชญ์ภาพวาด ผู้อาวุโสโม่มีความสัมพันธ์ใด เกาะภาพวาดที่ปราชญ์ภาพวาดอยู่ ข้าจำได้ว่าอยู่ตรงจุดตัดระหว่างทะเลชั้นนอกทิศเหนือกับทะเลชั้นนอกทิศตะวันออก”
ถึงแม้ปราชญ์ภาพวาดจะไม่ได้ตั้งสำนัก แต่ยังมีศิษย์ของตนเองอยู่ เพียงแต่เร้นกายอยู่ด้านนอก ไม่ทำตัวโดดเด่นเช่นเดียวกับปราชญ์ภาพวาด
ปราชญ์ภาพวาดไม่สนใจเรื่องทางโลก ใช้ชีวิตอยู่นอกทะเล
แต่ถ้าหากคิดว่าปราชญ์ภาพวาดนิสัยดีล่ะก็ นั่นเป็นความเข้าใจผิดอย่างใหญ่หลวง
‘ภาพหมึก’ ของปราชญ์ภาพหมึกมีชื่อเสียงลือเลื่อง แต่สิ่งที่ได้รับการขนาดนามเคียงคู่กับมันยังมี ‘ภาพโลหิต’!
ฆ่าคนดั่งแขวนภาพ คู่ต่อสู้ที่ถูกปราชญ์ภาพวาดสังหาร จะถูกจิตวรยุทธ์ของเขาทำให้กลายเป็นหมึกย้อมเลือด ใช้ฟ้าดินเป็นผืนผ้าใบ ใช้โลหิตวาดภาพ ฝากรอยเลือดไว้ในธรรมชาติเนิ่นนาน
เมื่อคิดถึงความแข็งแกร่งของผู้อาวุโสโม่ อาหู่ก็หดคอ
คุณชายของตนถึงแม้จะมีเขากว่างเฉิงคอยหนุนหลัง ทว่าบัดนี้สำนักกำลังคุมเชิงกับสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์อยู่ ถึงแม้พอจะลงมือได้บ้าง ตรงหน้ากลับเป็นถิ่นของปราชญ์ภาพวาด หากไปยั่วโมโหท่านอาวุโสโม่เข้า ผลลัพธ์ก็ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว เขาต้องถูกอีกฝ่ายกำจัดโดยไม่มีข้อแก้ตัว
ถ้าหากเป็นหญิงสาวที่ประมือกับซือคงจิงลงมือยังพอทำเนา ซือคงจิงเป็นศิษย์เขากว่างเฉิง ต่อให้อีกฝ่ายเป็นคนของปราชญ์ภาพวาด เขากว่างเฉิงก็จะปกป้องลูกศิษย์ของตัวเอง
ส่วนโอวหยางฉี แม้จะมีพฤติกรรมประหลาด แต่ปัจจุบันไม่ได้ตั้งตัวเป็นศัตรูกับเขากว่างเฉิง
ในสถานการณ์เช่นนี้ ถ้าหากอีกฝ่ายเป็นคนของผู้อาวุโสโม่ เยี่ยนจ้าวเกอลงมือจับตัวเขาไว้ ก็นับว่าหาเรื่องใส่ตัว ไม่ต่างอะไรกับการท้าทายผู้อาวุโสโม่
การท้าทายจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ ไม่ใช่เรื่องเล็กในโลกแปดพิภพ
ต่อให้ผู้อาวุโสโม่ไม่ได้ตอบโต้ ปล่อยให้เยี่ยนจ้าวเกอกลับวารีพิภพอย่างปลอดภัย และมุ่งหน้าไปยังแผ่นดินใหญ่โดยมีเขากว่างเฉิงคุ้มกัน นั่นเท่ากับเป็นการทำให้ผู้อาวุโสโม่จนใจ และก็เป็นการผลักเขาให้ไปอยู่ฝั่งสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์
เช่นนั้นสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์คงจะยิ้มทั้งยามตื่นและยามฝันแน่
เมื่อคิดถึงตรงนี้ อาหู่ก็อดเข็ดขยาดไม่ได้ ได้แต่ละทิ้งความคิดจับโอวหยาางฉี
หลังจากเยี่ยนจ้าวเกอครุ่นคิดครู่หนึ่ง เขาก็เอ่ยขึ้นว่า “อืม อาหู่ ไปจับเขากันเถอะ”
อาหู่งงงัน “คุณชาย ถ้าเกิดว่า…”
เยี่ยนจ้าวเกินนั่งขัดสมาธิบนหลังพ่านพ่าน สองมือวางบนหัวเข่าทั้งสองข้าง พยักหน้าเล็กน้อย “ทำเถอะ ไม่มีปัญหาแน่”
อาหู่ได้ยินดังนั้นก็มิได้พูดอันใดอีก กระโจนพุ่งออกไปยังผิวทะเล มุ่งหน้าไปหาโอวหยางฉีที่อยู่ไกลออกไปเหมือนพยัคฆ์ติดปีก
เยี่ยนจ้าวเกอใช้ข้อศอกยันหัวเข่า เท้าคาง ดวงตาไม่ได้มองสิ่งใด ในหัวครุ่นคิดปัญหามากมาย
ทว่าไม่นานต่อจากนั้น อาหู่ก็พาโอวหยางฉีกลับมา
“คุณชาย เจ้าหนุ่มนี่มีพลังไม่ธรรมดา ในหมู่คนที่มีพลังฝึกปรือระดับเดียวกัน อย่าว่าแต่จับเป็นเลย ข้าคิดเอาชนะเขา จำต้องเปลืองแรงอยู่บ้าง”
อาหู่ครุ่นครุ่นคิดพลางกล่าว “ถึงจะมีพลังฝึกปรือสู้แม่นางซือคงไม่ได้ แต่ก็ใกล้เคียงกัน”
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า มองดูโอวหยางฉีที่ถูกจับมาเบื้องหน้า ก่อนจะกล่าว “สวัสดี พวกเราพบกันอีกแล้ว”
โอวอย่างฉีกแค่นหัวเราะ “มิทราบว่าข้าน้อยล่วงเกินต่ออัจฉริยะของเขากว่างเฉิงตอนไหน จึงได้รับการปฏิบัติจากคุณชายแห่งกว่างเฉิงเช่นนี้”
ถึงแม้จะพูดจาเกรงใจอยู่ แต่ความสงสัยและความประชดประชันในน้ำเสียงกลับชัดเจนยิ่ง
จอมยุทธ์ที่เดินทางบนทะเลชั้นนอกไม่เคยมีความรู้สึกดีต่อหกแดนศักดิ์สิทธิ์มาแต่ไหนแต่ไร จึงไม่ค่อยเกรงกลัวเท่าไรนัก
ฝ่ายโอวหยางฉีฉีนิ่งเงียบขณะที่มองเยี่ยนจ้าวเกอ
“คำถามข้อที่สอง คนร่วมสำนักข้าตอนนี้อยู่ที่ใด” เยี่ยนจ้าวเกอถามเสียงเรียบ
“ข้าจะรู้ได้อย่างไร” โอหยางฉีตอบ
อาหู่ถลึงตา มองโอวหยางฉีที่จู่ๆ ก็ขลาดกลัวด้วยความประหลาดใจ
หรือโอวหยางฉีจะลักลอบเรียนวิชากระบี่รุ้งเลือนมา หรือเขาอาจจะหนีออกมาเพราะกระทำความผิด ถูกอาจารย์ขับไล่แล้วอย่างนั้นหรือ
เยี่ยนจ้าวเกอกลับพูดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “เจ้าย่อมรู้ บางทีอาจแค่ลืมไปชั่วขณะ มิต้องรีบร้อน พวกเราขึ้นเกาะภาพวาดก่อน ถ้าอยู่ที่นั่นเชื่อว่าเจ้าจะนึกขึ้นได้ง่ายกว่าเดิม”
ครั้งนี้อาหู่ไม่เพียงแต่ถลึงตา แม้แต่ปากก็ยังเผลออ้าออก ตกตะลึงอยู่ชั่วขณะ
คุณชายของเขาจับศิษย์ของเขามา แล้วทั้งคิดจะไปที่ถึงหน้าบ้านของเจ้าตัวด้วย
ทว่าสิ่งที่ทำให้อาหู่งงงวยกว่าเดิมก็คือ เมื่อโอวหยางฉีได้ยินดังนั้นก็เริ่มมีสีหน้าหนักใจ ครู่ต่อมาค่อยตอบว่า “คนร่วมสำนักกับท่านอยู่ห่างจากที่นี่ไปทางตะวันตกประมาณเจ็ดร้อยลี้ ข้าเองก็ไม่แน่ใจตำแหน่งนัก”
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้าอย่างพอใจ “ถือว่าเพียงพอแล้ว เจ้าทำเช่นนี้ถือว่าดียิ่ง”
พูดจบเขาก็ตีก้นพ่านพ่านเบาๆ ก่อนจะมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกพร้อมกัน
อาหู่มองเยี่ยนจ้าวเกอสลับกับโอวหยางฉี กระซิบเงียบๆ ว่า “คุณชาย”
ชายหนุ่มยิ้มเล็กน้อย “ขอแค่ไม่สังหารเขาก็ไม่เป็นไร เทียบกันแล้วเขาไม่อยากให้อาจารย์ของเขารู้เรื่องนี้มากกว่า”
เขาเบนสายตามองไปยังสถานที่ที่อยู่ไกลออกไป แล้วกล่าวเสียงเบา “รอเจอศิษย์น้องซือคงแล้ว ก็น่าจะเข้าใจเรื่องราวได้มากกว่าเดิม”
…………..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี