เยี่ยนจ้าวเกอเหม่อมองไปไกล จมลงสู่ห้วงความคิด
ซือคงจิงมองเยี่ยนจ้าวเกอด้วยความสงสัย ชายหนุ่มพลันดึงสติกลับมา แล้วกล่าวกับนางว่า “ต่อจากนี้ข้าจะไปยังน่านน้ำเมืองมหานที
“สนามรบที่พวกอาจารย์สู้กับราชันปีศาจอัคคี ข้าย่อมเข้าใกล้ไม่ได้ แต่ว่าข้าจะทำความเข้าใจปีศาจอัคคีตัวอื่นดู”
ชายหนุ่มมองอีกฝ่าย “เจ้าจะกลับไปบนแผ่นดิน หรือจะร่วมทางกับข้าง”
นางมีสีหน้าเรียบเฉยดังเดิม “ถึงแม้ข้าจะมีพลังฝึกปรือต่ำต้อย แต่ข้าก็กล้าสู้กับปีศาจอัคคีระดับปรมาจารย์ดูสักตั้ง ที่ออกจากสำนักครั้งนี้ เพราะข้าอยากจะเคี่ยวกรำตัวเอง ศิษย์พี่เยี่ยนไม่ต้องห่วง”
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า “ดี เจ้าอยากอยู่ย่อมได้ สภาพแวดล้อมเช่นนี้ยิ่งทำให้เจ้าแกร่งขึ้น”
“แต่ว่าการสู้กับปีศาจอัคคีส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ไม่ได้กระทบแค่เมืองใดเมืองหนึ่ง การเข่นฆ่าระหว่างคนหนึ่งหรือสองคนแทบจะใกล้เคียงกับสงคราม หากเจ้าไปเจอสถานการณ์เช่นนี้ ทางที่ดีอย่าทำอะไรคนเดียว มิฉะนั้นอาจจะก่อให้เกิดเรื่องเหนือความคาดหมาย ผู้อื่นโดนลูกหลงไปด้วย
“อาจารย์ลุงฟู่ ผู้อาวุโสระดับหนึ่งแห่งทะเลตะวันออกในปัจจุบัน น่าจะเคลื่อนไหวกับพวกผู้อาวุโสม่อ เมื่อไปถึงทางเมืองมหานที ให้เจ้าทำตามที่อาจารย์ลุงฟู่บอก
“อาจารย์ลุงฟู่คิดว่าสงครามเคี่ยวกรำคนได้เช่นกัน เจ้าไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีโอกาสเก็บเกี่ยวประสบการณ์”
ซือคงจิงย่อมรู้จักอาจารย์ของตนดี ได้ยินดังนั้นจึงพยักหน้า “เจ้าค่ะ ข้าทราบดี”
ทั้งสองคนโดยสารเรือบินเหยียบคลื่นมุ่งหน้าไปทางตะวันออก
ระหว่างทาง ซือคงจิงขอคำชี้แนะเกี่ยวกับปัญหาด้านวรยุทธ์กับเยี่ยนจ้าวเกอตลอดเวลา
ถึงแม้ว่านางจะนับถือคุณูปการอันมากมายของเขา แต่ในสายตาของนาง ก็ยังคงให้ความสำคัญเรื่องวรยุทธ์ที่สุด
หากไม่พูดถึงผลสำเร็จเฉกเช่นปาฏิหาริย์เหล่านั้น เยี่ยนจ้าวเกอมีพลังฝึกปรือถึงระดับนี้ในตอนที่มีอายุใกล้เคียงกับตน ก็ถือเป็นหนึ่งในเรื่องอัศจรรย์เช่นกัน
ซือคงจิงมีนิสัยเย็นชา ไปมาหาสู่กับผู้คนน้อย แต่ว่าในหลายปีมานี้ นางค่อยๆ คุ้ยเคยกับเยี่ยนจ้าวเกอ ทั้งยังให้ความนับถืออีกฝ่าย ดังนั้นเมื่ออยู่ต่อหน้าเขาจึงค่อนข้างปล่อยตัว มีปัญหาด้านวรยุทธ์อะไรก็จะขอคำชี้แนะจากเขาเสมอ
เยี่ยนจ้าวเกอเองก็เต็มใจชี้แนะศิษย์น้องร่วมสำนัก ที่มีพรสวรรค์ด้านวรยุทธ์ยอดเยี่ยมผู้นี้เช่นกัน
แม้จะไม่ตั้งใจขุดคุ้ย แต่เขาก็ยิ่งสนใจความลับของซือคงจิงมากขึ้นเรื่อยๆ อยากจะดูว่าสตรีเช่นนี้จะไปถึงระดับไหนในอนาคต
จากการไต่สวนโอวหยางฉี เยี่ยนจ้าวเกอทราบว่าเขากับฉางนิ่งมีเส้นทางชีวิตคล้ายซือคงจิงยิ่งนัก
ตอนที่ฝึกฝนอยู่ในระดับยุทธ์หลอมกาย ถึงแม้จะเป็นอัจฉริยะที่โดดเด่นเช่นกัน แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วก็อยู่ในขอบเขตที่คนธรรมดารับได้
แต่หลังจากเลื่อนเป็นระดับปรมาจารย์ กลับเติบโตอย่างฉับพลัน คล้ายกับเปลี่ยนกระดูกผลัดขนก็ไม่ปาน
พรสวรรค์ที่โดดเด่นในตอนแรกล้ำเลิศยิ่งขึ้น เริ่มเหนือกว่าบุคคลอัจฉริยะทั่วไปในระดับบดขยี้
ตอนแรกไม่มีเค้าลาง ต่อมายิ่งไม่ทราบเหตุผล
เฉินฉี อาจารย์ของโอวหยางฉีและฉางนิ่งมิได้เกรงใจเหมือนเยี่ยนจ้าวเกอ
เฉินฉีเคยตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายของพวกโอวหยางฉีมาก่อน
สุดท้าย นอกจากสัญลักษณ์อันแปลกประหลาดที่คนทั้งสองทำให้เกิดขึ้น ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติอันใด
เมือคิดถึงสัญลักษณ์แปลกประหลาดนั้น เยี่ยนจ้าวเกอก็หรี่ตาลงเล็กน้อย ครุ่นคิดอีกครั้ง
ทั้งสองคนเดินทางไปทางตะวันออกด้วยกัน อาหู่ที่ได้รับข่าวจากเยี่ยนจ้าวเกอและเมืองทะเลมรกต ก็พาพ่านพ่านมาสมทบกับพวกเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี