ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 437

เยี่ยนจ้าวเกอมองกระเรียนหิมะบนรูปสลักน้ำแข็ง มันดูสมจริงราวกับมีชีวิต ทั้งยังงดงามยากบรรยาย

ด้านล่างกระเรียนหิมะบนรูปสลักน้ำแข็ง ยังบูชากำไลหยกวงหนึ่ง บนกำไลหยกสลักรูปกระเรียนหิมะไว้เช่นกัน ดูเหมือนเป็นเครื่องประดับชุดเดียวกับปิ่นหิมะชิ้นนั้นของตน

ซูอวิ๋นเอ่ยว่า “ช่างน่าขายหน้าเสียจริง นี่คือสิ่งที่นายหญิงทิ้งเอาไว้ ข้าใช้มันเป็นของดูต่างหน้า ถ้าหากนายน้อยคิดเอาไปด้วย…”

ชายหนุ่มยิ้ม “เป็นไปได้อย่างไร นี่คือสิ่งที่มารดาข้าทิ้งไว้ให้ท่านน้าซู อีกอย่าง ท่านเรียกข้าว่าจ้าวเกอก็พอ”

เจ้าสำนักกระเรียนหิมะยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะยกฝ่ามือขึ้นเบาๆ กระเรียนหิมะบนรูปสลักพลันเกิดแสงสว่างไสว จากนั้นก็ลอยขึ้นด้านบน

ท่ามกลางประกายแสง ลวดลายหลายสายเกี่ยวกระหวัดกัน ปรากฏเป็นค่ายกลขนาดเล็ก เปิดเป็นมิติอย่างช้าๆ เชื่อมไปยังมิติต่างภพขนาดเล็กมิติหนึ่ง

เยี่ยนจ้าวเกอรู้ว่านี่เป็นแดนต้องห้าม หรือไม่ก็เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ของสำนักกระเรียนหิมะ

เขาตามซูอวิ๋นเข้าไปด้านใน ในมิติต่างภพมีภูเขาลูกใหญ่ปรากฏขึ้นที่นั่น

สายตาของเยี่ยนจ้าวเกอค่อยๆ กลายเป็นเคร่งขรึม เห็นด้านบนเขียนตัวอักษรแปลกๆ ไว้เป็นจำนวนมาก

‘อืม…คล้ายกับพวกรหัสลับ’ ความคิดของเยี่ยนจ้าวเกอทำงานอย่างรวดเร็ว คิดถึงก่อนที่ตนจะออกจากเขากว่างเฉิง เยี่ยนตี๋ผู้เป็นบิดาได้ถ่ายทอดเรื่องราวให้มากมาย

เรื่องราวพวกนี้อาจจะไม่ได้มีประโยชน์หมด แต่เยี่ยนตี๋ไม่รู้ว่าบุตรชายจะเจอสถานการณ์เช่นใดบ้าง ดังนั้นจึงเตรียมตัวไว้ โดยการใส่ทุกอย่างที่น่าจะมีประโยชน์ลงในสมองของเยี่ยนจ้าวเกอ

เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยื่นฝ่ามืออกมาใส่ญาณจริงแท้ของตนเองเข้าไปในภูเขา

ตัวอักษรบนภูเขาเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ชายหนุ่มยื่นมืออีกข้างออกมาเขียนกลางอากาศ แสงหลายสายคล้ายกับสลักลงไปบนภูเขา และหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับตัวหนังสือก่อนหน้า

ซูอวิ๋นมองเหตุการณ์นี้ด้วยความประหลาดใจ

ครู่ต่อมา เยี่ยนจ้าวเกอก็หยุดการเคลื่อนไหว เงาแสงตัดสลับกันและเปลี่ยนแปลง สุดท้ายก็หยุดนิ่งลง

ข้อความที่อยู่บนภูเขาในตอนนี้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง

ขณะที่มองตัวหนังสือหลายแถวเหล่านั้น เยี่ยนจ้าวเกอก็พยักหน้าช้าๆ ‘ถึงแม้จะมีความแตกต่างอยู่บ้าง แต่คล้ายกับตัวหนังสือก่อนมหาภัยพิบัติ เทียบกับตัวหนังสือที่แพร่หลายในโลกลอยน้ำและมหาอำนาจแปดพิภพ มีกลิ่นอายของความโบราณมากกว่า และมีสายใยของมรดกตกทอดแจ่มชัดยิ่งกว่า’

เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มเล็กน้อย ในความทรงจำที่เลือนราง มารดาของตนสนใจในการค้นคว้าคัมภีร์โบราณและตัวหนังสือโบราณเป็นอย่างยิ่ง

ความสนใจในด้านคัมภีร์โบราณและตัวหนังสือโบราณของตน ล้วนได้รับอิทธิพลมาจากเสวี่ยชูฉิงผู้เป็นมารดาครั้งที่ตนยังเด็ก

บางทีภาษาและตัวหนังสือที่ใกล้เคียงกับภาษาที่ใช้ก่อนมหาภัยพิบัติเหล่านี้ น่าจะเป็นสิ่งที่เสวี่ยชูฉิงมักใช้บ่อยๆ เมื่อมายังโลกลอยน้ำและมหาอำนาจแปดพิภพ

เขาอ่านบันทึกที่เหลืออยู่บนรูปสลักหินอย่างละเอียดตามความรู้ของตน

‘มีคำพูดใดที่พูดตรงๆ ไม่ได้ จนต้องทำให้ซับซ้อนเช่นนี้ด้วยหรือ หากยังไม่พร้อมหรือยังไม่สะดวกพูดจริงๆ ก็ไม่จำเป็นต้องทิ้งข้อความไว้ก็ได้กระมัง’

ชายหนุ่มไตร่ตรองในใจ จากนั้นก็ทำความเข้าใจตัวหนังสือบนรูปสลักหิน ยิ่งมองสีหน้ายิ่งประหลาด

‘เส้นทางในการไปโลกซ้อนโลกมีทั้งหมดสองทาง…’

‘วิธีพื้นฐานที่สุด พลังฝึกปรือต้องอยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสี่ เหนือกว่าขีดจำกัดความกดดันของจักรวาลไร้สิ้นสุด…’

‘ไม่อย่างนั้น เลียนแบบข้า ให้พกของวิเศษที่สามารถทำให้รอยแยกของพิภพเสถียรได้ จากนั้นก็ตามหาบาดแผลของกำแพงนภา…”

เยี่ยนจ้าวเกอมุมปากบิดเบี้ยวอย่างต่อเนื่อง ‘เหตุใดน้ำเสียงถึงได้เหมือนกำลังบอกว่า อย่าลืมพกร่มออกไปตอนฝนตกนักเล่า’

‘ยังมีความรู้สึกเหมือนว่านี่มิใช่เรื่องสำคัญ แต่เป็นคำพูดที่นึกขึ้นได้ว่าลืมพูด ก็เลยพูดออกมา หมายความว่าอย่างไรกัน’

เขาถอนใจ ‘ท่านพ่อ ท่านแต่งกับภรรยายแบบไหนกันแน่…

‘แต่ว่า…’ แววตาของเยี่ยนจ้าวเกอสั่นไหวเล็กน้อย ‘โลกซ้อนโลก…บาดแผลของกำแพงนภา…มหาภัยพิบัติทำให้โลกก่อนหน้ากลายเป็นแบบไหนกันแน่’

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี