ซูอวิ๋นถามว่า “นอกจากจะเชิญพวกเราไปเป็นแขกแล้ว ยังมีข่าวอื่นอีกหรือไม่”
เฉินหรงมองเยี่ยนจ้าวเกอด้วยความกังวลเล็กน้อย ตอบว่า “เจ้าค่ะ ท่านแม่ ทางสำนักเขามังกรเขียวได้รับข่าวว่า สำนักเมฆาโลกหิตออกเดินทางมาทางตะวันตกด้วยตัวเอง เข้าใกล้ดินแดนแห่งอาณาจักรตะวันตกที่อยู่ภายใต้การปกครองของสำนักเขามังกรเขียวแล้ว”
เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะเสียงเบา “ตามข้ามาหรือ”
เฉินหรงพยักหน้า “ในข่าวลือเป็นเช่นนั้น”
ชายหนุ่มยิ้มขึ้น ทว่าไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ต่อให้มากความ เขาพิจารณาเฉินหรงตั้งแต่หัวจรดเท้า ‘อืม ปรมาจารย์ขั้นจิตราชั้นในระยะท้าย เตรียมเลื่อนเป็นระดับปรมาจารย์ขั้นจิตราชั้นนอกได้แล้ว’
เขาหันไปมองซูอวิ๋น ก่อนจะถามด้วยรอยยิ้ม “ท่านน้าซู พวกท่านแม่ลูกเป็นร่างแห่งแหล่งชีวิตในตำนานใช่หรือไม่”
เฉินหรงมองเยี่ยนจ้าวเกอด้วยความประหลาดใจ ซูอวิ๋นรู้สึกเหนือความคาดหมายเล็กน้อย
หลังจากการสนทนาก่อนหน้า ซูอวิ๋นรู้ว่าเสวี่ยชูฉิงมิได้พูดถึงเรื่องของนางและโลกลอยน้ำ เมื่ออยู่ต่อหน้าเยี่ยนจ้าวเกอและเยี่ยนตี๋สองพ่อลูกมาก่อน ชายหนุ่มในอดีตไม่น่าจะทราบถึงการมีอยู่ของนาง ย่อมไม่อาจรู้สถานการณ์ของนางได้
“ขอตอบนายน้อย ข้าเป็นร่างแห่งแหล่งชีวิตจริงๆ หรงเอ๋อร์สืบทอดสายเลือดของข้า เป็นร่างแห่งแหล่งชีวิตเช่นกัน” ซูอวิ๋นถอนใจ “เมื่อก่อนนายหญิงเคยบอกว่า ร่างแห่งแหล่งชีวิตใช่ว่าจะถ่ายทอดให้บุตรหลานที่มีสายเลือดเดียวกันได้
“ต่อมาจึงได้พิสูจน์ว่าเป็นความจริง ข้ากับสามีให้กำเนิดบุตรและบุตรีรวมสามคน แต่ในเหล่าพี่น้องของหรงเอ๋อร์ มีเพียงแต่หรงเอ๋อร์เท่านั้นที่สืบทอดร่างแห่งแหล่งชีวิตของข้า”
เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มเล็กน้อย “บุตรคนแรกมีโอกาสสืบทอดมากที่สุด ในขณะเดียวกันถ้าหากบุตรคนแรกของท่านได้รับร่างแห่งแหล่งชีวิตแล้ว เช่นนั้นบุตรคนต่อไปของท่านโดยพื้นฐานไม่มีหวังว่าจะสืบทอด”
เขามองเฉินหรง ถามอย่างเชื่องช้า “การครอบครองร่างแห่งแหล่งชีวิตจะได้รับความสะดวกในการฝึกฝนวรยุทธ์บนโลกลอยน้ำ ตามที่ข้าดูทุกคนในสำนักท่าน มีเพียงแต่หรงเอ๋อร์เท่านั้นที่รับช่วงต่อมรดกของท่านได้ การเลื่อนเป็นปรมาจารย์ขั้นจิตราชั้นนอกในโลกของข้าก็เป็นเรื่องที่น้อยคนจะทำได้เช่นกัน”
ซูอวิ๋นกล่าว “นายน้อยชมเกินไป สำหรับจอมยุทธ์ที่ฝึกปราณและร่างกาย โลกลอยน้ำนี้มีปราณวิญญาณแห้งเหือดและแหล่งทรัพยากรขาดแคลนยิ่ง”
“แต่เนื่องจากจอมยุทธ์ฝึกปราณและฝึกวรยุทธ์น้อยเกินไป ดังนั้นทรัพยกรที่แบ่งให้กับทุกคนเท่าๆ กันจึงมีมากพอ หรงเอ๋อร์นอกจากร่างแห่งแหล่งชีวิตแล้ว ในด้านการฝึกฝนวรยุทธ์ก็มีพรสวรรค์หลายส่วน สามารถเข้าใจวรยุทธ์ที่นายหญิงเหลือไว้อยู่บ้าง จึงได้มีความสำเร็จเช่นทุกวันนี้”
เยี่ยนจ้าวเกอถาม “แต่ว่าในหมู่ลูกศิษย์ของท่าน มีเพียงหรงเอ๋อร์เท่านั้นที่พิเศษ คงไม่ทำให้ทุกคนเกิดสงสัยกระมัง”
ซูอวิ๋นยิ้มเล็กน้อย “ในอดีตนายหญิงบอกว่าไม่ห้ามให้ข้ารับลูกศิษย์ ดังนั้นข้าจึงก่อตั้งสำนักขึ้น เดิมทีเป็นเพราะว่าต้องการถ่ายทอดวรยุทธ์ของนายหญิง”
“ก่อนที่ลูกศิษย์จะเข้าสำนัก ต่างทราบแล้วว่าการฝึกฝนไม่ง่าย ไม่แน่ว่าจะมีผลสำเร็จ คนที่ยังเหลืออยู่แน่วแน่ มีจิตใจกับคุณสมบัติแข็งแกร่งยิ่ง”
“แน่นอน มีคนคิดว่าข้าเข้าข้างลูกสาว ซึ่งข้ามีวิธีจัดการอยู่แล้ว”
ชายหนุ่มได้ยินดังนั้นก็ยิ้มขึ้น ซูอวิ๋นที่มีเมตตาและอัธยาศัยดีเมื่ออยู่ต่อหน้าตน พออยู่เบื้องหน้าลูกศิษย์ในสำนักใช่ว่าจะมีท่าทีเช่นนี้
“ท่านน้าซู ที่สำนักเขามังกรเขียวและสำนักกระเรียนหิมะเกี่ยวดองกัน เป็นเพราะเกี่ยวข้องกับร่างแห่งแหล่งชีวิตหรือไม่” หลังจากหัวเราะ เยี่ยนจ้าวเกอก็ถามอย่างราบเรียบ
อีกฝ่ายตอบทันควัน “มีส่วนเกี่ยวข้องอยู่บ้าง ขอไม่ปิดบัง หลายปีมานี้ พวกเรากับสำนักเขามังกรเขียวช่วยกันมาตลอด และมีการติดต่อกันไม่น้อย”
“ถึงแม้จะไม่ได้เกี่ยวข้องกับเคล็ดวิชาที่นายหญิงถ่ายทอดให้ แต่ว่าสิ่งที่ข้าได้มาจากการฝึกฝนล้วนถ่ายทอดแก่คนในสำนักเขามังกรเขียวทั้งสิ้น
“พวกเขาเป็นจอมยุทธ์เลือดปีศาจ ไม่ได้ศึกษาวิชาฝึกฝนลมปราณล้ำลึกนัก แต่ว่าศิลาจากเขาอื่นเจียระไนหยกได้ สำนักเขามังกรเขียวได้รับได้รับประโยชน์มากมายจากสำนักกระเรียนหิมะของข้า”
ซูอวิ๋นยิ้มพลางสายหน้า “เจ้าสำนักเขามังกรเขียว หรือทางด้านชินเจีย[1]มักเก็บงำความสามารถ ความจริงในหลายปีมานี้ก้าวหน้าไม่น้อย ถึงจะเทียบกับสามปีศาจไม่ได้ แต่ค่อยๆ เหนือกว่าเหล่ายอดฝีมือจากสี่สำนักแล้ว”
“บุตรที่หรงเอ๋อร์จะให้กำเนิดต่อจากนี้ บางทีสำนักเขามังกรเขียวอาจจะอยากมีผู้สืบทอดที่มีจุดเด่นของทั้งสองสำนัก แต่ว่าหรงเอ๋อร์กับสามีของนางรักใคร่กัน ข้าดูออกว่าลูกเขยของข้ามิได้เสแสร้ง ไม่เช่นนั้นข้าคงไม่เห็นด้วยเรื่องการแต่งงานนี้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี