เยี่ยนจ้าวเกอมองเหออิ่ง ความคิดในใจกระจัดกระจาย พริบตานั้นไม่รู้ว่าความสนใจลอยไปยังที่ใด
ภาพมากมายปรากฏขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง คล้ายกับเป็นอนาคตที่อยู่ไม่ไกลออกไป
ราชาปีศาจเยี่ยนจ้าวเกอหรือจอมมารเยี่ยนจำเป็น กดดันใต้หล้า มัวเมาในสุรานารี ก่อกรรมทำเข็ญ ทำทุกอย่างตามใจชอบ
เขาช่วงชิงลูกศิษย์หญิงเหออิ่งที่อ่อนเยาว์และงดงามมาจากสำนักเมฆาโลหิต ชายหนุ่มที่พบรักกับเหออิ่งสาบานว่าจะจัดการจอมมารเยี่ยนให้ได้ เพื่อช่วยเหลือคนรักที่ถูกรักพาตัวไป
ในอดีตชายหนุ่มเคยไม่เอาอ่าว แต่ปัจจุบันเป็นเพราะมีวาสนา จึงได้เปิดเส้นทางแห่งโชคชะตาของตัวเอง พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว
ถึงแม้ว่าตอนนี้ยังอ่อนแอมาก แต่ว่าก็เติบโตอย่างรวดเร็ว ข้างซ้ายมีคัมภีร์ลับ ข้าขวามีอาวุธเทพ ตรงเอวมีลูกกลอนเซียน มีบรรพบุรุษซ่อนอยู่ในอก
ชายหนุ่มประสบความสำเร็จ สุดท้ายคว่ำจอมมารเยี่ยนลงได้ ช่วยเหลือหญิงงามได้ตามต้องการ
เยี่ยนจ้าวเกอที่เหม่อลอยอยู่ชั่วขณะได้สติกลับมา สายตาพิจารณาเหออิ่งพิจารณาเหออิ่งด้วยความประหลสดใจอยู่บ้าง
เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาของเยี่ยนจ้าวเกอ ถึงแม้จะไม่มีแววหยาบโลน แต่เหออิ่งยังรู้สึกอึดอัดใจอยู่ดี
พวกหลัวจิ่งฮ่าวเห็นดังนั้น ก็มีสีหน้าก็ประหลาดใจขึ้นมา
การมองสตรีเช่นนี้ มิอาจไม่ทำให้คนรู้สึกว่า ท่านไม่มีความคิดเป็นพิเศษกับนาง
เขามองเหออิ่ง ความจริงอยากจะถามว่า ‘แม่นาง เจ้าคงไม่ได้มีเหมยเขียวม้าไม้ไผ่[1]ที่รักกันมานานปี ซึ่งในอดีตไม่เอาอ่าว แต่ตอนนี้กำลังเดินอยู่บนบนเส้นทางแห่งการผุดขึ้นใช่หรือไม่’
แต่เขาส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว ยิ้มขึ้นอย่างอดไม่ได้
เรื่องบางเรื่องและคนบางคนในอดีต ตอนนี้พอนึกถึง เยี่ยนจ้าวเกอก็ไม่สนใจอีกแล้ว
ต่อให้มีเรื่องที่คล้ายกัน เยี่ยนจ้าวเกอสมควรทำอย่างไรก็ทำอย่างนั้น ไม่สะทกสะท้านต่อสิ่งใด
ความคิดเมื่อครู่นี้เป็นเพราะเขาอยากจะสัพยอกเท่านั้น
เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มพลางโบกมือ “เจ้าไปพักผ่อนก่อน ตอนนี้ยังไม่มีธุระของเจ้า”
เหออิ่งประหลาดใจสุดบรรยาย แต่ว่าตอนนี้นางไม่เป็นตัวของตัวเอง ได้แต่ยอมทำตาม
ชายหนุ่มมองเจ้าสำนักเขาเขามังกรเขียวและเจ้าสำนักอัสนีคำรน แล้วกล่าวอย่างราบเรียบ “ท่านทั้งสองทำงานได้ไม่เลว”
พวกหลัวจิ่งฮ่าวโค้งคับนับ “ท่านเกรงใจไปแล้ว”
บัดนี้เยี่ยนจ้าวเกอทำให้พวกเขารู้สึกคาดเดาไม่ถูกมากขึ้นเรื่อยๆ
ทั้งสองไม่กล้าพูดมากความ แต่ในใจกลับร้อนเร่า
หลังจากพญาปักษามาที่ภูเขาหิมะสพานหยก ก็รั้งอยู่ทันที ขณะที่ทำให้คนของสำนักเมฆาโลหิตยอมตัดใจ ก็ทำให้พวกหลัวจิ่งฮ่าวแน่ใจว่า เยี่ยนจ้าวเกอมีความสามารถกรองสายเลือดสัตว์ปีศาจได้จริงๆ
ถ้าไม่ใช่เช่นนั้น มาตรว่าพญาปักษาชิงเหนี่ยวจะมิได้มองเยี่ยนจ้าวเกอเป็นศัตรู แต่จะยอมรั้งอยู่อย่างเชื่อฟังเช่นนี้หรือ?
สายเลือดมังกรไร้เขาชิงชือของสำนักเขามังกรเขียวเป็นทายาทเลือดผสมของมังกรแท้ สายเลือดราชสีห์วิเศษซวนหนีของสำนักอัสนีคำรนก็ไม่บริสุทธ์เช่นเดียวกัน
ถ้าหากรองสายเลือดสัตว์ปีศาจที่ใช้ฝึกฝนได้ จะส่งผลสำคัญต่อวิชาของสำนักของพวกเขาทั้งสำนัก
ไม่เพียงแต่พลังในปัจจุบันจะเพิ่มขึ้นเท่านั้น ยังส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง เป็นผลดีต่อคนรุ่นหลัง
โดยเฉพาะจอมยุทธ์สำนักเขามังกรเขียวเช่นพวกหลัวจิ่งฮ่าวที่ตื่นเต้นเป็นพิเศษ เนื่องจากพวกเขาแน่ใจแล้วว่า ต่อให้เยี่ยนจ้าวเกอไม่อาจเพิ่มระดับสายเลือดของมังกรไร้เขาชิงชือ แต่ตัวเขาก็ครอบครองพลังแห่งสายเลือดมังกรแท้อยู่
เยี่ยนจ้าวเกอทราบความในใจของพวกเขาดี แต่ไม่ถือสา
ในหลายวันมานี้ เยี่ยนจ้าวเกอเข้าใจการฝึกฝนของจอมยุทธ์เลือดปีศาจมากขึ้น
“มิใช่มีแค่คนในยุคนี้เท่านั้น ที่มีความคิดและความต้องการในการกรองสายเลือด” เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยอย่างราบเรียบ “ก่อนมหาภัยพิบัติมีคนเคยคิดมาก่อนแล้ว”
“ถึงอย่างไร สัตว์ปีศาจเลือดบริสุทธิ์หลายตัวมีการขยายพันธุ์ค่อนข้างจำกัดอยู่บ้าง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี