ท่ามกลางโลกที่อยู่ในดวงอาทิตย์สีทอง เยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่บนผิวดวงอาทิตย์มองตราประทับใหญ่สีทองที่ช่วงชิงแสงทั้งหมดอยู่ใจกลางของโลก
ขณะกำลังคิดหาวิธีอยู่ เขาก็รู้สึกได้ว่าสถานที่ที่ตัวเองอยู่กำลังสั่นไหว
เยี่ยนจ้าวเกอควบคุมร่างกายให้ตั้งมั่น เพ่งตามองตราประทับขนาดใหญ่ พลันเห็นรอบๆ ตราประทับใหญ่มีประกายแสงเจิดเจ้ารวมตัวกัน ถึงกับค่อยๆ รวมกันกลายเป็นเงาร่างของคนผู้หนึ่ง
ส่วนดวงอาทิตย์สีทองในเหวลึกด้านนอกในตอนนี้สั่นไหวอย่างรุนแรง คล้ายกับถูกพวก ‘ตงเซิงจวิน’ กระทบถูก
ดวงอาทิตย์ไม่ได้รับความเสียหายอันใด ทว่าธารแสงสีทองมากมายที่หมุนวนกลางอากาศได้สั่นไหวมิติรอบๆ ให้สั่นสะเทือนไปพร้อมกัน
หลุมดำเบื้องล่างฟางจุ่นสั่นไหว และม้วนธารแสงสีดำมากมายเข้าไปด้านใน
แต่ว่าในตอนนี้ธารแสงสีดำได้เชื่อมต่อกับโซ่สีดำหลายเส้นนั้น
ผลกระทบจากมิติที่ถูกรบกวนรอบๆ ทั้งหมดจึงดูสับสนยิ่ง
โซ่สีดำที่ตัดสลับกันพันธนาการหยวนเจิ้งเฟิงเหมือนแหฟ้าตาข่ายดิน การเหนี่ยวนำโดยพลังอันยิ่งใหญ่ถึงกับลากเขาไปหาหลุมดำนั้น
มือมารสองข้างที่ส่ายไปมากลางอากาศพุ่งเข้าหาหยวนเจิ้งเฟิงพร้อมกัน
หยวนเจิ้งเฟิงกางนิ้วทั้งสิบออก ต้านทานมือมารทั้งสองที่โจมตีมายังตน
แต่ว่าพลังอันยิ่งใหญ่นั้นกำลังกดให้หยวนเจิ้งเฟิงร่วงไปในหลุมดำ
เขาขมวดคิ้ว เพราะมองออกว่ามารร้ายสองตัวนี้ต้องการจับเขามาอุดหลุมดำ
วิญญาณร้ายจากนพยมโลกที่อยู่รอบๆ กลายเป็นพายุหมุน ก้นพายุถูกหลุมดำดูดเข้าไป แต่พายุหมุนก็ม้วนร่างกายของหยวนเจิ้งเฟิงไว้เช่นกัน
จากผลของแรงดึงดูด หยวนเจิ้งเฟิงถูกดึงเข้าไปในหลุมดำพร้อมกันโซ่สีดำขลับเหล่านั้น รวมถึงพายุหมุนสีดำด้วยเช่นกัน
ครึ่งร่างของเขาจมสู่ด้านล่าง ติดอยู่ในนั้นลึกกว่าฟางจุ่นเสียอีก
ฟางจุ่นใช้มือขวาและมือซ้ายทำเป็นมุทรากระบี่ มือซ้ายชี้ที่คิ้วของตัวเอง ส่วนมือขวาแทงออกใส่หลุมดำเบื้องล่าง
เขาคิดใช้ลำแสงมากมายทำลายกลิ่นอายมารที่ล้อมรอบหยวนเจิ้งเฟิง
หยวนเจิ้งเฟิงกระตุ้นญาณจริงแท้ทั่วร่าง ขัดขวางวิญญาณร้ายจากนพยมโลก รวมถึงแรงกลืนกินและแรงดูดซับทั้งสองของหลุมดำเบื้องล่าง
แต่ก็ไร้ประโยชน์ เพราะมือมารขนาดยักษ์สองข้างกดลงมาพร้อมกัน
หยวนเจิ้งเฟิงยกสองมือขึ้น ต้านทานมือมารสองข้างไว้เหมือนเทพสวรรค์ยกเจดีย์
เมื่อรู้สึกได้ถึงแรงกดดันอันมหาศาลนั้น ในดวงตาของหยวนเจิ้งเฟิงก็ปรากฏความแน่วแน่ แรงฝ่ามือที่เดิมทีดันออกด้านนอกพลันเปลี่ยนทิศทาง!
สองมือของเขาเปลี่ยนจากฝ่ามือเป็นกรงเล็บ ไม่ป้องกันอีกต่อไป กลับจับมือมารสีม่วงและสีดำไว้ ใช้พลังทั้งหมดดึงมายังทิศทางของตัวเอง!
ความเร็วในการเข้าสู่หลุมดำของหยวนเจิ้งเฟิงพลันเพิ่มขึ้น แต่ว่าเขาเพิ่มแรงที่สองแขนอย่างสุดกำลัง เริ่มลากมารร้ายสองตัวนั้นอย่างบ้าคลั่ง ติดอยู่ในสภาวะตกตายร่วมกัน!
ถึงแม้ว่าตัวเองจะต้องติดในหลุมดำที่มีกระแสปั่นป่วนของอากาศ ก็จะลากมารร้ายสองตัวนี้ไปด้วย!
ดวงอาทิตย์สีทองถูกสั่นไหว เมื่อมาถึงตอนนี้ ผนึกก็แทบจะพังทลายลงโดยสิ้นเชิงแล้ว
วิญญาณร้ายจากนพยมโลกยิ่งมายิ่งรุนแรง พลังของมารร้ายอันน่ากลัวในความมืดที่มือมารยักษ์ทั้งสองข้างยื่นออกมา เด่นชัดและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ กำลังจะมาถึงโลกแปดพิภพอย่างแท้จริงแล้ว
ในตอนนี้พยวนเจิงเฟิงไม่คิดถึงความเป็นความตายของตนเองอีก เขาคิดลากมารร้ายสองตัวนี้จากนพยมโลกในโลกแปดพิภพให้เข้าไปในหลุมดำเบื้องหน้า ไม่ให้พวกมันได้มีโอกาสอยู่ที่นี่!
รอยยิ้มบนใบหน้าของ ‘ตงเซิงจวิน’ พลันสลาย สีหน้ากลายเป็นเย็นเยียบและถมึงทึง
ใบหน้าของหยวนเจิ้งเฟิงไร้ความเกรงกลัว เขามีสีหน้าแน่วแน่ “โลกด้านนี้ยอดเยี่ยมจริงๆ ดังนั้นจึงยิ่งมอบให้พวกเจ้าไม่ได้”
ซี่จ้าวจวินไม่ได้ถูกสิงร่าง แต่กลายเป็นมารเต็มตัว ดวงตาสีเหลืองสาดประกายโลหิต
เลือดสดๆ ฉีดพุ่งออกมา ก่อนจะถูกมุทรากระบี่ของฟางจุ่นวาดลวดลาย กลายเป็นเส้นเลือดหลายสายเคลื่อนไปมากลางอากาศ
เส้นเลือดพันมือมารขนาดยักษ์สีดำและสีม่วงไว้เหมือนเชือก
มารร้ายสองตัวเดือดดาล มือมารสั่นไหว พลังอันยิ่งใหญ่ส่งออกมา คิดจะทำลายเส้นเลือดนั้น
ฟางจุ่นในตอนนี้ใช้มือขวาทำมุทรากระบี่อีกครั้ง แล้วชี้ที่หลุมดำเบื้องล่าง ปลายนิ้วข้างขวามีประกายเลือดพุ่งออกมา จากนั้นก็ไหลเข้าไปในรูสีดำที่เกิดจากกระแสปั่นป่วนของมิติ
ชั่วพริบตานั้น ความเร็วที่ฟางจุ่นถูกหลุมดำกลืนกินพลันเพิ่มขึ้น!
เส้นเลือดที่พันธนาการมือมารสองข้างเชื่อมกับมือซ้ายของเขา บัดนี้ได้รับแรงเสริมอันไร้รูปร่าง ทำให้มิติรอบเส้นเลือดบิดเบี้ยวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้พลังของมือมารทั้งสองได้อาจสลัดหลุดจากการเกาะเกี่ยวได้ในทันที
เมื่อฟางจุ่นตกลงสู่เบื้องล่างเร็วขึ้น ก็เกิดพลังงานอันมหาศาล ช่วยหยวนเจิ้งเฟิงลากมือมารสองข้างนั้นเข้าไปในหลุมดำ
“ในโลกนี้มีคำกล่าวว่า สู้รบต้องสู้เหมือนพี่น้อง เข้าสู่สนามรบต้องสามัคคีประดุจพ่อลูก” ฟางจุ่นกล่าว “ศิษย์อาจารย์ก็เหมือนกัน”
หยวนเจิ้งเฟิงมองลูกศิษย์ของตัวเองด้วยความสงสาร
เมื่อเข้าไปในกระแสปั่นป่วนของมิติแล้ว จะโชคดีหรือร้านล้วนยากจะคาดเดา บางทีอาจจะถูกกระแสปั่นป่วนของมิติฆ่า หรือไม่ก็เข้าไปในโลกที่ไม่รู้จักก็เป็นได้
แต่ว่าวิชาะบายเลือดทั่วร่างที่ฟางจุ่นใช้ในตอนนี้ กลับเป็นการเผาไหม้ชีวิตของตัวเอง เป็นไปได้ว่าไม่ต้องให้มารร้ายลงมือ ไม่จำเป็นต้องให้กระแสความปั่นป่วนของมิติสังหาร เขาก็จะเสียชีวิตไปก่อนแล้ว
“เด็กน้อยเอ๋ย ตั้งแต่เด็กจนโตเจ้าล้วนเป็นเช่นนี้ ภายนอกสุภาพเรียบร้อย แต่ภายในกลับบ้าดีเดือดนัก” ความโศกเศร้าตรงหว่างคิ้วของหยวนเจิ้งเฟิงปรากฏขึ้นมาแล้วหายไปทันที เขาหัวเราะร่า แล้วกล่าวอีกว่า “ประเสริฐ ไปพร้อมกันเถอะ!”
สองศิษย์อาจารย์ตวาดพร้อมกัน เพิ่มพลังของตัวเองถึงขีดสุดเพื่อลากมารร้ายสองตัวนั้น
หลังจากที่ร่างของพวกเขาจมดิ่งสู่กระแสความปั่นป่วนของหลุมดำ มือมารสองข้างสีม่วงและสีดำก็ค่อยๆ ถูกหลุมดำกลืนกิน
พวก ‘ตงเซิงจวิน’ คำรามด้วยความโกรธพร้อมกัน เหล่ามารในเหวลึกแผดเสียงอย่างบ้าคลั่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี