อิ่นหลิวหัวลุ้มใจ แต่ไม่กล้าแสดงออกภายนอก
ฟู่เอินซูมองเฟิงอวิ๋นเซิงและอิ่นหลิวหัว กำลังคิดว่าจะส่งพวกนางกลับสำนัก
แต่ว่าในตอนนั้นเอง มหาสมุทรซึ่งเป็นประตูทางเชื่อมเขตแดงที่เชื่อมไปยังโลกปีศาจ พลันมีคลื่นพลังอันรุนแรงส่งมา
สายตาของฟู่เอินซูกลายเป็นเคร่งขรึม เห็นคลื่นอัคคีที่ขอบฟ้าทะลักมา ครอบคลุมฟ้าดินไว้ในชั่วพริบตา
นางรีบปกป้องลูกศิษย์ทั้งสองคน
ทว่าบริเวณที่คลื่นอัคคีม้วนพัดกระตุ้นให้แกนไฟของชีพจรใต้ดินที่อยู่ก้นทะเลลึกให้สั่นไหว ไฟใต้พิภพพวยพุ่งทะลุทะเล กลายเป็นเสาไฟใหญ่ พุ่งขึ้นไปยังท้องฟ้า
ฟู่เอินซูตกใจ แต่หลังจากตั้งใจสัมผัส จิตใจก็สงบลง
ชีพจรดินได้รับการกระตุ้นจากพลังไฟของปีศาจอัคคี และเกิดปฏิกิริยาขึ้นมา มิใช่การเปลี่ยนแปลงที่ชั้นใต้ดินทำให้เกิดขึ้นมาด้วยตัวเองเหมือนในสงครามทะเลตะวันออกครั้งก่อน
แต่ว่า ความวุ่นวายนี้รุนแรงและเนิ่นนานเหมือนกัน แทบจะส่งผลไปทั่วทะเลชั้นนอกของทะเลตะวันออก
และคลื่นอัคคีร้อนแรงที่ก่อให้เกิดความปั่นป่วนนี้ก็รุนแรงเช่นกัน ฟู่เอินซูรู้สึกตกใจ ‘ปีศาจอัคคีคิดสู้ตายตอนจนตรอกหรือ?’
ขณะที่คิดเช่นนี้ ฟู่เอินซูก็รีบพาเฟิงอวิ๋นเซิงกับอิ่นหลิวหัวหลบหลีกเปลวไฟที่ร้อนแรงท่ามกลางทะเลเพลิง
ตอนนี้รอบๆ ต่างเต็มไปด้วยเปลวไฟ นางทำได้เพียงเลือกไปยังสถานที่ที่สภาวะไฟค่อนข้างอ่อนแอ ไม่อาจส่งลูกศิษย์ทั้งสองออกจากทะเลตะวันออกได้ชั่วคราว
เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงด้านสถานที่ บนทะเลตะวันออกในตอนนี้ โดยเฉพาะบนทะเลชั้นนอกของทะเลตะวันออก ก็เกิดสถานการณ์ปีศาจอัคคีอาละวาดขึ้นอีกครั้ง
ภายใต้สภาพแวดล้อมเช่นนี้ พลังต่อสู้ของปีศาจอัคคีได้รับการส่งเสริม แม้กระทั้งปีศาจอัคคีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสค่อยๆ ฟื้นฟูร่างกายขึ้นมาได้
พวกมันฉวยโอกาสโต้กลับ ดีที่จอมยุทธ์เผ่ามนุษย์ใจเย็นพอ ถึงแม้จะถูกไฟซุ่มโจมตี แต่ก็รักษารูปกระบวนไว้ได้ ตีการโต้กลับของปีศาจอัคคีกลับไป
ฟู่เอินซูเองก็เคลื่อนไหวกลางทะเลเพลิงอย่างอดทน นางรับประกันความปลอดภัยของพวกลูกศิษย์ก่อนเป็นอันดับแรก ขณะเดียวกันก็ป้องกันการโจมตีของปีศาจอัคคีที่คอยฉวยโอกาส
ความวุ่นวายในครั้งนี้ไม่เหมือนกับการเผาทะเลตะวันออก หรือการเปลี่ยนแปลงของชีพจรดินเหมือนตอนที่ปีศาจอัคคีรุกรานในครั้งก่อน
การเปลี่ยนแปลงในตอนนั้น ถ้าหากไม่แก้ไขปัญหาที่ชีพจรดิน มันก็จะคงสภาพอยู่ต่อไป
แต่ว่าครั้งนี้ ขอแค่ทนได้ ความวุ่นวายย่อมค่อยๆ สงบลง
สายตาของฟู่เอินซูมองไปยังน่านน้ำที่ประตูทางเชื่อมเขตแดนตั้งอยู่ ตอนนี้นางเป็นห่วงสถานการณ์รบทางด้านนั้นมากกว่า ถึงอย่างไรที่นั่นก็เป็นจุดสำคัญที่ใช้ตัดสินทิศทางการรบบนทะเลตะวันออก หรือแม้แต่โชคชะตาในอนาคตของโลกแปดพิภพ
และในตอนนี้ ที่นั่นก็มีสภาพปั่นป่วนยิ่ง
แสงสีทองยิ่งใหญ่สว่างเจิดจ้า ปกคลุมท้องนภาเอาไว้
ที่ด้านล่างเป็นโลกสีแดงฉานทั้งผืน ที่ถูกแสงสีขาวกดดันให้สั่นไหวไม่หยุด คลื่นอัคคีถูกอัดไว้จนกระจายตัวไปรอบสี่ทิศแปดทาง
ใจกลางโลกที่เกิดขึ้นจากไฟก็คือประตูทางที่เชื่อมไปยังโลกปีศาจอัคคี ในตอนนี้หินหนืดในประตูกำลังพวยพุ่งไม่หยุด
ร่างส่วนล่างของมหาราชันปีศาจอัคคีตัวนั้นจมอยู่ในทะเลเพลิง มีเพียงร่างกายส่วนบนเท่านั้นที่อยู่ด้านนอก ศีรษะวัวขนาดยักษ์กับบนกรงเล็บเสือสองข้างมีเพลิงปีศาจอันน่ากลัวกำลังสั่นไหว
ราชันปีศาจอัคคีส่วนใหญ่ห้อมล้อมมหาราชันปีศาจอัคคีตัวนี้ ร่างส่วนล่างจมอยู่ในทะเลเพลิงเช่นกัน
ปีศาจอัคคีจำนวนมากส่งเสียงร้องคำรามอย่างบ้าคลั่งไม่ขาดสาย ขณะเดียวกันเปลวเพลิงมากมายก็รวมตัวกันกลายเป็นลวดลายอาคมสีแดงฉานอันแล้วอันเล่า
ลวดลายอาคมสีแดงจำนวนนับไม่ถ้วนประกอบกันเป็นม่านแสงครอบฟ้าครอบอาทิตย์
ภายในแสงสีขาวนั้น ยอดฝีมือเผ่ามนุษย์ที่มีเยี่ยนตี๋เป็นผู้นำ ก็โจมตีปีศาจอัคคีที่อยู่ด้านล่างต่ออย่างกล้าหาญชาญชัยเช่นกัน
ค่ายกลเทพไท่อี่ถล่มทลายทำงานอย่างหนัก เปลวไฟสายแล้วสายเล่าถูกแสงสีขาวหยุดไว้ และถูกทำให้สลายหายไป
การโจมตีของเหล่ายอดฝีมือเผ่ามนุษย์พุ่งลงด้านล่างเหมือนห่าฝน ถล่มม่านแสงสีแดงฉานนั้น จนมันสั่นไหวคล้ายกับคลื่นน้ำก็ไม่ปาน
ม่านน้ำสีแดงฉานพังทลายติดต่อกัน ลวดลายอาคมมากมายซ่อมแซมม่านน้ำให้กลับคืนสู่สภาพเดิมอีกครั้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี