เยี่ยนจ้าวเกอเพิ่งใช้วิชาเคลื่อนที่ผ่านโลกกระจกเป็นครั้งแรก
เขาก้าวเข้าไปในท้องฟ้าที่ปั่นป่วน อาศัยวิชาลับนี้หลบการพังทลายครั้งสุดท้ายของค่ายกลไท่อี่ถล่มทลาย ที่อยู่บนทะเลชั้นนอกทะเลตะวันออกในแปดพิภพ
แต่ว่าเมื่อก้าวเข้าไปในทางเชื่อมเขตแดนชั่วคราวนั้น ก็จะหลุดจากโลกแปดพิภพ เพราะแสงของกระจกก่อให้เกิดการเคลื่อนย้ายตำแหน่ง
บัดนี้ชายหนุ่มที่อยู่ในแสงกระจกไม่จำเป็นต้องออกแรง ผลจากพิธีกรรมส่งเขาไปด้านหน้าโดยตรง
ฟากฟ้าตรงหน้าอยู่ในสภาพมายา เต็มไปด้วยแสงพิลึกกึกกือ ทำให้เยี่ยนจ้าวเกอนึกถึงเหตุการณ์ที่ตนไปยังโลกลอยน้ำผ่านสายรุ้งกางเขตก่อนหน้านี้
ตอนนี้เขากำลังจะไปยังโลกใบใหม่อีกครั้ง
เยี่ยนจ้าวเกอก้มหน้าลงมองกระจกยังสูงส่งฉงในมือ บนผิวกระจกปรากฏลายอาคมอันลี้ลับลายหนึ่ง และในลายอาคมก็ค่อยๆ ปรากฏรอยเลือดจางๆ ขึ้นมา
รอยเลือดนี้หลอมรวมกับแสงกระจก มันไม่ได้ให้ความรู้สึกสกปรก ทว่าละลานตาเหมือนกับผลึก
แสงกระจกกับแสงสีเลือดผสมกัน นำทางเยี่ยนจ้าวเกอ
ครู่ต่อมา ภาพตรงหน้าก็เปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหัน ร่างของเยี่ยนจ้าวเกอหยุดลง
ด้านหน้ามีแสงอาทิตย์สองสว่าง ท้องฟ้ากว้างใหญ่ไพศาล ครั้นมองลงไป ชายหนุ่มกลับเห็นทะเลสีมรกต ทำให้เขานึกว่าตนยังอยู่บนผิวทะเลตะวันออกในโลกแปดพิภพ
แต่เมื่อรู้สึกได้ว่าการเคลื่อนไหวของปราณวิญญาณในโลกฝั่งนี้แตกต่างกับโลกแปดพิภพ เยี่ยนจ้าวเกอถึงรู้ว่า ถึงแม้ตรงหน้าจะเป็นท้องทะเล แต่ตนเองได้จากโลกอันคุ้นเคยมายังโลกใบใหม่แล้ว
แสงกระจกที่ครอบคลุมร่างของเขาหายไป ทันทีที่หันกลับไปมอง ทางเชื่อมเขตแดนชั่วคราวด้านหลังก็หายไปแล้วเช่นกัน
ชายหนุ่มก้มหน้าลงมองกระจกยังสูงส่งที่แสงสว่างของมันริบหรี่ลงไปอีกครั้ง เขารู้ว่ากระจกวิเศษบานนี้จำเป็นต้องผ่านการพักผ่อนชั่วระยะเวลาหนึ่ง จึงจะใช้ได้อีกครั้ง
ระหว่างรอกระจกยังสูงส่งคืนสภาพ ตนต้องอยู่ในโลกใบนี้ไปก่อน
“หวังเพียงว่าวิชาจะไม่ผิดพลาด ที่นี่่คือโลกผืนสมุทร เมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าจะได้แวะตามหาศิษย์พี่สวีกับเสี่ยวจวินเอ๋อร์ได้”
เยี่ยนจ้าวเกอพึมพำ พลางเก็บกระจกยังสูงส่ง
ก่อนที่จะบอกลากับสวีเฟยชั่วคราว เยี่ยนจ้าวเกอได้เก็บเลือดของสวีเฟยเอาไว้ เพื่อวันหลังจะได้มายังโลกผืนสมุทร
ระหว่างโลกแปดพิภพกับโลกลอยน้ำไม่ได้มีทางเชื่อมเขตแดนต่อกัน หากคิดจะใช้วิชาเคลื่อนที่ผ่านโลกกระจกกำหนดตำแหน่ง จำเป็นต้องมีการสนับสนุนบางส่วน
หลังจากกลับจากโลกลอยน้ำมายังโลกแปดพิภพ ในยามปกตินอกจากการฝึกปรือและเตรียมรับมือกับความวุ่นวายจากปฐพีพิภพ รวมถึงปีศาจอัคคีแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอก็จะศึกษาและคิดหาวิธีรับสวีเฟยกับสือจวินสองแม่ลูกกลับมาด้วย
สุดท้ายมีผลสำเร็จ แต่ว่าตอนนั้นโลกแปดพิภพกำลังจะเกิดเรื่องขึ้น เยี่ยนจ้าวเกอมิอาจปลีกตัว ในตอนนี้กลับยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
แต่ว่าวิชาลับเช่นนี้ เยี่ยนจ้าวเกอก็เพิ่งใช้เป็นครั้งแรก จะได้ผลหรือไม่ ยังต้องรอพิสูจน์ ถ้าหากยืนยันได้ว่าที่นี่คือโลกผืนสมุทร เช่นนั้นเรื่องราวก็จะจัดการง่ายขึ้น
สิ่งที่ทำให้เยี่ยนจ้าวเกอค่อนข้างเสียดายก็คือ ถึงแม้ในตอนนั้นหยวนเจิ้งเฟิงจะตัดแขนซ้ายของตัวเองเพื่อส่งอาจารย์ลุงสองฟางจุ่น และเสื้อคลุมนภาหนีรอดออกมา แต่เสียดายที่เลือดของเขาเหือดแห้งไปในกระแสปั่นป่วนของมิติ
สถานการณ์ในตอนนั้นไม่อาจทิ้งร่องรอยได้ทัน ตอนนี้ได้แต่หวังว่าฟ้าจะช่วยคนดีอย่างท่านผู้อาวุโส
ขณะที่ครุ่นคิด สีหน้าของเยี่ยนจ้าวเกอก็เคร่งขรึมขึ้น ก่อนที่เขาจะนำถุงย่อส่วนที่พกติดตัวออกมา
เขานำฟู่เอินซูออกมาจากถุงย่อส่วน ก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกๆ เฮือกหนึ่ง เพื่อใช้ญาณจริงแท้ของตนประคองร่างของนางไว้ จากนั้นก็เติมญาณจริงแท้ใส่จุดลมปราณที่สำคัญบนร่างของนางอย่างต่อเนื่อง
เข็มสีทองหลายเล่มอยู่ในมือของเยี่ยนจ้าวเกอ แล้วถูกปักลงไปอย่างรวดเร็ว
เข็มทองปักจุดลมปราณสำคัญบนร่างของฟู่เอินซู ปลายเข็มมีเปลวไฟสีน้ำเงินสว่างขึ้นอย่างช้าๆ สั่นไหวอย่างต่อเนื่องคล้ายกับเทียนไข
เยี่ยนจ้าวเกอยื่นฝ่ามืออกมาครอบเข็มสีทองเหล่านั้นไว้ เปลวไฟสีน้ำเงินพลันสุกสว่างมากกว่าเดิม
เนิ่นนานให้หลัง เปลวไฟสีน้ำเงินบนปลายเข็มสีทองก็ค่อยๆ อ่อนกำลังลง และดับไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี