เยี่ยนจ้าวเกอร่างกลายเป็นลำแสง พุ่งเข้าไปในกระแสน้ำสะอาดที่เกิดจากหยดน้ำพิรุณ แล้วหายไปอย่างไร้ร่องรอยในชั่วพริบตา
ทุกคนที่อยู่รอบๆ งงงัน ในตอนแรกจอมยุทธ์เกาะจิตประสานคิดว่าเยี่ยนจ้าวเกออาศัยพลังของสายน้ำแอบหนีไป
แต่เมื่อเห็นฟู่เอินซูยังคงอยู่ที่นี่ ทุกคนจึงตัดการคาดเดาก่อนหน้านี้ออก ตั้งใจสังเกตสายน้ำสะอาดสายนั้น ก่อนจะเห็นเงาคนสองคนยืนอยู่ด้านในอย่างเลือนราง
เงาคนสองคน?
ทุกคนมองหน้ากันเอง เกิดความรู้สึกสับสนเล็กน้อย
กระแสน้ำที่เกิดจากหยดน้ำพิรุณกระจ่างใสและสะอาดเหลือประมาณ แต่ว่าเงาสองเงานั้นคล้ายกับกลายเป็นลำแสง เห็นแค่เงาตะคุ่มเงาหนึ่งอยู่ในสายน้ำ ไม่อาจเห็นรูปร่างที่แท้จริงได้
จอมยุทธ์โลกผืนสมุทรส่วนใหญ่มองหยดน้ำพิรุณด้วยความหวั่นไหว แต่กลับไม่กล้าเข้าใกล้
อย่าว่าแต่เยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่ในสายน้ำมีสถานการณ์ไม่ชัดเจน ฟู่เอินซูที่อยู่ด้านข้างก็ทำให้พวกเขาเกิดความรู้สึกว่า ต่อให้มีพลังก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ พวกเขาจึงไม่กล้าวู่วาม
หลังจากเวลาผ่านไป น้ำวนที่เปล่งประกายด้านบนยังคงก่อให้เกิดหยดน้ำพิรุณอย่างต่อเนื่อง เงาคนในสายน้ำพร่าเลือนมากขึ้น
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ จอมยุทธ์โลกผืนสมุทรยังไม่ทันได้สติกลับมา ดวงตาของฟู่เอินซูก็เคลื่อนไหวก่อนแล้ว
สายตาของนางมองไปยังที่ไกลออกไป เพราะสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวของปราณวิญญาณทางผิวทะเล
เนิ่นนานให้หลัง จอมยุทธ์โลกผืนสมุทรที่อยู่ที่นั่นก็รู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่มาจากทางทิศทางนั้นเช่นกัน
บนใบหน้าของจอมยุทธ์สำนักคืนวิญญาณปรากฏความยินดีขึ้นมาก่อน
จอมยุทธ์เกาะจิตประสานถึงแม้จะรู้สึกยินดีเช่นกัน แต่ว่าบนใบหน้ากลับปรากฏสีหน้าโล่งอก
จอมยุทธ์จากขุมกำลังอื่น ซึ่งเป็นคนจากฝ่ายธรรมะ ต่างมีใบหน้ายินดี ส่วนคนที่มีใจให้พรรคมารกลับมีสีหน้าครุมเครือ
ส่วนจอมยุทธ์พเนจรล้วนมีสีหน้าฮึกเหิม เนื่องจากเรื่องสนุกที่เฝ้าคอยมานาน ในที่สุดก็จะเปิดฉากอย่างเป็นทางการแล้ว
ไกลออกไป น้ำทะเลสั่นไหว คลื่นใต้น้ำพรั่งพรู คลื่นน้ำเหานือผิวน้ำซัดสาด เห็นอะไรบางอย่างที่มีขนาดใหญ่โตกำลังเข้ามาใกล้ได้อย่างเลือนราง
รอจนเห็นชัดแล้ว ก็ทราบว่านั่นคือมังกรเจียวหลงขนาดใหญ่จำนวนมาก บ้างมีเกล็ดสีดำ บ้างมีเกล็ดสีน้ำเงิน ขณะที่เกล็ดเปิดออก บนตัวก็มีพลังลมปราณอันยิ่งใหญ่ส่งมา
ตัวที่นำหน้าเป็นมังกรเจียวหลงสีแดง บนตัวเปล่งประกายสีเพลิงระยิบระยับ มองไปดูละลานตาเป็นพิเศษ
สิ่งที่ทำให้จอมยุทธ์โลกผืนสมุทรที่มาชมการต่อสู้รู้สึกได้ถึงแรงกดดันก็คือ มังกรเจียวหลงขนาดยักษ์มากมายเหล่านี้ก็คือยอดฝีมือด้านวรยุทธ์จำนวนมาก อีกทั้งยังเป็นยอดฝีมือระดับมหาปรมาจารย์ขั้นกำเนิดญาณอีกด้วย
อีกฝ่ายไม่จำเป็นต้องมาหลายคน แต่มังกรเจียวหลงฝูงนี้ก็มีพลังไม่ธรรมดาแล้ว
มังกรเจียวหลงสีแดงหนึ่ง สีดำสี่ สีน้ำเงินสี่ ฝ่าคลื่นน้ำมาถึงน่านน้ำระเบียงทะเลลึกอยู่เป็นแถวเดียว
ไม่ต้องดูอย่างอื่น ดูแค่มังกรเจียวหลงขนาดยักษ์เก้าตัว จอมยุทธ์โลกผืนสมุทรที่อยู่รอบๆ ก็รู้ถึงสถานะของผู้มาแล้ว
หนึ่งในเจ็ดกลุ่มฝ่ายธรรมะ วังผลึกวารี
บนหลังของมังกรเจียวหลงเก้าตัว แยกกันนั่งไว้ด้วยจอมยุทธ์ที่ใส่อาภรณ์สีน้ำเงินดุจท้องทะเล มีทั้งบุรุษและสตรี
สายตาของฟู่เอินซูไม่มองคนอื่น เพียงมองชายชราผู้หนึ่งที่นั่งบนมังกรเจียวหลงตัวสีแดง เขาผู้นั้นคือผู้อาวุโสของวังผลึกวารีที่นำกลุ่มในครั้งนี้ เป็นยอดฝีมือระดับมหาปรมาจารย์ผู้มากประสบการณ์
ชายชรายืนอยู่ตรงนั้น คล้ายกับทะเลสีมรกต คล้ายกับไร้ขีดจำกัด ทำให้คนหยั่งคาดไม่ถึง
เมื่อเห็นชายชราผู้นี้ คนจำนวนมากในกลุ่มคนที่มาชมดูการต่อสู้ก็คารวะ “คารวะผู้อาวุโสต่ง”
ผู้อาวุโสต่งพยักหน้าเล็กน้อย คล้ายกับสัมผัสได้ สายตาของเขาจึงมองมาที่ฟู่เอินซู เขารู้สึกคุ้นตานางเป็นอย่างยิ่ง อดขมวดคิ้วเล็กน้อยไม่ได้
ฟู่เอินซูมองบุรุษในเสื้อคลุมสีน้ำเงินที่ยืนข้างผู้อาวุโสต่งอีกครั้ง เขามีผมสีน้ำเงินดุจมหาสมุทร และมีสีหน้าเคร่งขรึมยิ่ง
คนผู้นั้นย่อมเป็นหนึ่งในฝั่งที่มาท้าสู้ ‘มังกรน้ำเงิน’ จางฮ่าวเฉิงที่มาจากวังผลึกวารี และถูกจัดเป็นอันดับหนึ่งในจอมยุทธ์ขั้นกำเนิดญาณสิบอันดับแรกของโลกผืนสมุทรในปัจจุบัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี