ขณะเห็นลี่เซิ่งฝึกฝนดาบป่นทำลาย ซึ่งเป็นท่าดาบที่หกในท่าดาบเจ็ดทะเลสังหารมังกรสำเร็จ แม้แต่สีหน้าของผู้อาวุโสต่งแห่งวังผลึกวารีก็ยังเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมา
ทั้งสองฝ่ายนับว่ารู้จักกันดี ท่าดาบนี้หมายถึงอะไร ทุกคนในวังผลึกวารีล้วนทราบแก่ใจ
จอมยุทธ์วังผลึกวารีที่ติดตามจางฮ่าวเฉิงมาที่นี่ รวมทั้งผู้อาวุโสต่ง ในตอนที่พวกเขาอยู่ในขั้นกำเนิดญาณระยะท้าย รู้ว่าหากเผชิญหน้ากับลี่เซิ่งในตอนนี้ จะได้ผลร้ายมากกว่าผลดี
ถึงแม้จะยังอยู่ในระดับรูปญาณระยะท้าย แต่ว่านี่คือคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งตัวจริง
อย่าว่าแต่การจัดอันดับจอมยุทธ์สิบอันดับแรกในปัจจุบัน โลกผืนสมุทรจัดจอมยุทธ์ขั้นกำเนิดญาณสิบอันดับแรกขึ้นหลังจากผ่านพ้นยุคสมัยหนึ่งในช่วงเวลาอันยาวนาน ลี่เซิ่งในตอนนี้มีความสามารถแย่งชิงอันดับหนึ่งของรายชื่อ
ถึงแม้คนมากมายในวังผลึกวารีจะรู้สึกตกตะลึง ทว่ากลับไม่กังวล
จางฮ่าวเฉิงนำของสิ่งหนึ่งออกมาต่อหน้าลี่เซิ่งอย่างช้าๆ
คนที่อยู่รอบๆ โดยเฉพาะคนที่ทราบถึงประวัติความเป็นมาของของสิ่งนี้ ต่างก็เปลี่ยนสีหน้าในทันที
การต่อสู้ตัดสินระหว่างทั้งสองฝ่ายไม่ได้ห้ามไม่ให้ใช้อาวุธหรือของวิเศษ ดังนั้นในตอนนี้ต่อให้จางฮ่าวเฉิงนำของวิเศษประหลาดชิ้นหนึ่งออกมา ทุกคนก็ไม่รู้สึกเหนือความคาดหมาย อย่ามากก็แค่บอกว่าเขาขลาดเขลาในตอนที่เผชิญหน้ากับลี่เซิ่งเท่านั้น
แต่ว่าของที่จางฮ่าวเฉิงนำออกมาในตอนนี้กลับเป็นกระบี่ยาวเล่มหนึ่ง
ทุกคนทราบว่า วรยุทธ์ของวังผลึกวารีมิใช่การฝึกฝนท่ากระบี่
จางฮ่าวเฉิงมิได้เจอโชค แอบฝึกฝนวรยุทธ์ท่ากระบี่อันใด เขาไม่ได้ใช้กระบี่จริงๆ
กระบี่เล่มนี้เป็นสินสงครามของเขา
อาวุธวิญญาณระดับกลางชิ้นหนึ่ง สำหรับสำนักใหญ่ๆ เช่น เจ็ดกลุ่มฝ่ายธรรมมะ และหกพรรคมารแล้ว เป็นของล้ำค่าที่มีความพิเศษ
แต่ว่าคนที่รู้จักอาวุธวิญญาณชิ้นนี้ต่างทราบว่า เจ้าของเดิมของกระบี่ ‘นกฮูกพลิกทะเล’ เหลิ่งคุน เป็นยอดฝีมือและมหาปรมาจารย์ขั้นรูปญาณระยะต้น ที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในหมู่จอมยุทธ์พเนจร
ไม่ว่าจะเป็นที่ใดล้วนมีโจรร้ายที่ไม่สนใจกฎเกณฑ์ พวกเขาไม่มองเบื้องหลังของคู่ต้องสู้ เพียงคิดถึงความสุขเฉพาะหน้า เหลิ่งคุนเป็นผู้โดดเด่นในจำนวนนั้น
สำหรับจอมยุทธ์เช่นเหลิ่งคุนแล้ว กระบี่อยู่ คนก็ยังคงอยู่
แต่ว่าตอนนี้อาวุธประจำตัวของเขาตกมาอยู่ในมือของจางฮ่าวเฉิง ผลลัพธ์ย่อมไม่จำเป็นต้องพูดก็เข้าใจ
ต่างพูดกันว่าพลังฝึกปรือยิ่งสูงเท่าไร ระยะห่างของพลังระหว่างจอมยุทธ์ในระดับเดียวกันก็ยิ่งน้อยเท่านั้น ระหว่างจอมยุทธ์ที่อยู่คนละระดับกันมีระยะห่างด้านพลังห่างกันมากกว่า การต่อสู้ข้ามระดับจึงมีให้เห็นน้อยลงเรื่อยๆ
แต่ว่ามีคนน้อยคนในคนน้อยคน อัจฉริยะในอัจฉริยะ ยอดฝีมือในยอดฝีมือ ที่มีความสามารถแหกกฎนี้ได้
ไม่ว่าจะเป็นจางฮ่าวเฉิงหรือว่าลี่เซ่ง ต่างก็เป็นบุคคลเช่นนี้
ในจอมยุทธ์ขั้นกำเนิดญาณสิบอันดับแรกในปัจจุบัน พวกเขาสองคนกับคนอื่นๆ ตั้งแต่อันดับสามลงไปต่างมีระยะห่างที่ชัดเจนมาก
แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น ที่จางฮ่าวเฉิงสังหารเหลิ่งคุณที่อยู่ในระดับรูปญาณระยะต้นได้ โดยอาศัยพลังฝึกปรือขั้นกำเนิดญาณระยะท้าย ก็ยังคงทำให้ผู้คนรู้สึกตกตะลึง
ถึงอย่างไรการการฆ่าแย่งชิงอาวุธและการเอาชนะทั่วไปก็มีระดับความยากต่างกัน
ถึงแม้เหลิ่งคุนจะเป็นจอมยุทธ์พเนจร มิได้มีรากฐานมากมายเท่าแดนศักดิ์สิทธิ์ที่มีความสามารถทางวรยุทธ์ เช่นวังผลึกวารีและสำนักสังหารมังกร แต่ก็เป็นมหาปรมาจารย์ขั้นรูปญาณตัวจริง
จางฮ่าวเฉิงมีสีหน้าราบเรียบ เขายืนอยู่ตรงนั้นเงียบๆ ในมือถือกระบี่ยาว ไม่จำเป็นต้องพูด ก็กดดันสภาวะกดข่มของท่าดาบป่นทำลายที่ลี่เซิ่งฝึกฝนสำเร็จลงไป
การฝึกวรยุทธ์ที่คนอื่นฝึกไม่สำเร็จให้สำเร็จได้ยังคงเป็นเรื่องน่าตระหนกอยู่ดี แต่พูดถึงการต่อสู้จริง สุดท้ายมีแต่ผลงานการรบที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่ทำให้คนยอมรับได้
แม้แต่จอมยุทธ์สำนักสังหารมังกรก็ยังมีสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมา ในใจรำพึงพำพันอย่างไม่อาจยอมรับ ‘สมกับเป็นอันดับหนึ่งในจอมยุทธ์ขั้นกำเนิดญาณสิบอันดับแรก’
การท้าสู้ระหว่างสองฝ่ายนี้ พวกเขาเพิ่งจะปรากฏตัวออกมา บรรยากาศก็อยู่ในขั้นดุเดือดแล้ว
จอมยุทธ์คนอื่นที่อยู่รอบๆ ต่างรู้สึกฮึกเหิม
การต่อสู้ที่เกิดขึ้นระหว่างจอมยุทธ์ที่มีพลังฝึกปรือแข็งแกร่งกว่าจางฮ่าวเฉิงและลี่เซิ่งมิใช่ไม่มี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี